คนร้ายยิง อส. เสียชีวิตในอำเภอกะพ้อ

คนร้ายยิงสังหารอาสาสมัครรักษาดินแดนเสียชีวิต ในพื้นที่อำเภอกะพ้อ ปัตตานี ในวันอังคารนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ หลังจากที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุผู้ต้องสงสัยกลุ่มก่อความรุนแรง ยิงทหารพรานเสียชีวิตหนึ่งนาย ก่อนล่อเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่สังหารด้วยระเบิด จนได้รับบาดเจ็บอีกห้าราย

ร.ต.อ.วีระยุทธ อินทรัตน์ รอง สว.สอบสวน สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี กล่าวในวันนี้ว่า เมื่อเวลา 06.00 น. ตนได้รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงอาสาสมัครรักษาดินแดนเสียชีวิต ที่บริเวณสะพานปล่องหอย พื้นที่ ม.5 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบมีผู้เสียชีวิตอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ ทราบชื่อคือ นายอับดุลรอมัน กาเจร์ อายุ 59 ปี ถูกยิงบริเวณกลางหลัง 3 นัด และศีรษะ 2 นัด เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

“จากการสอบสวนทราบว่า เหตุเกิดขณะที่นายอับดุลรอมัน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ออกจากบ้านเพื่อเดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ ที่อำเภอ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ เมื่อได้จังหวะคนร้ายที่ซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดและขนาด จ่อยิงที่ศีรษะของนายอับดุลรอมัน จนล้มลงทันที ก่อนที่คนร้ายจะจอดรถและลงมากระหน่ำยิงซ้ำที่ศีรษะและกลางหลังอีกหลายนัด จนเสียชีวิตก่อนที่คนร้ายจะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป” ร.ต.อ.วีระยุทธ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ส่วนประเด็นและสาเหตุ ร.ต.อ.วีระยุทธ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการสอบสวนและสืบสวน โดยไม่ต้ดทิ้งประเด็นการก่อเหตุรุนแรง

การยิงอาสาสมัครในวันนี้ ทำให้มีผลยอดเสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวม 2 ราย และบาดเจ็บ 5 ราย จากตัวเลขของทางการ ในขณะที่การฉลองเทศกาลปีใหม่ไทย ในพื้นที่ต่างๆ เป็นไปด้วความเรียบร้อย

“ได้เน้นย้ำให้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ป้องกันการซุ่มโจมตีของผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด การพนัน เพื่อการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ได้อย่างเต็มที่” พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รอง ผบช.ภ.9 กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวหลังจากเกิดเหตุ

หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงในพื้นที่ กล่าวว่า สมาชิกกลุ่มขบวนการณ์ เคลื่อนไหวอย่างหนัก อาจมีเหตุไม่สงบอย่างรุนแรงมากขึ้นในพื้นที่ เพราะการเจรจาไม่คืบหน้าทำให้กลุ่มขบวนการณ์ไม่พอใจ จึงเคลื่อนไหวที่จะก่อเหตุถึงรอมฎอนและมีปัจจับอื่นๆ ด้วย

คนร้ายยิงทหารคาบ้าน-ล่อวางระเบิด เมื่อวันเสาร์

ในวันเสาร์ที่ 13 เม.ย. 2562 ร.ท.สมมาตร หญีตจันทร์ ผบ.ร้อย ทพ.4513 กรมทหารพรานที่ 45 ซึ่งตั้งฐานอยู่บ้านลาแป ม.2 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งจากภรรยาของ อส.ทพ.ชุณวัณ บัวเทพ เจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.ที่ 4513 ว่าสามีถูกคนร้ายบุกยิงเสียชีวิต ที่บ้านพักเลขที่ 67 ม.4 ต.บองอ อ.ระแงะ จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ โดย ร.ท.สมมาตร ผบ.ร้อย ทพ.4513 ได้นั่งรถยนต์นำหน้า โดยมีชุดคุ้มกันนั่งรถยนต์กระบะตามหลังมาด้วยกัน 5 นาย พร้อมกับได้แจ้งให้ พ.ต.ท.วรพล สุขแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.ระแงะ ได้รับทราบ

ร.ท.สมมาตร ก่อนถึงที่เกิดเหตุยิง กลับถูกคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารชุดคุ้มกันที่นั่งรถยนต์กระบะไล่หลังมา จนทำให้รถยนต์กระบะเสียหลักตกไหล่ทาง ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บอีกห้านาย และยังได้ถูกคนร้ายอีกชุดหนึ่งดักซุ่มอยู่ในป่ารกทึบริมทาง และสองฝ่าย ได้ยิงปะทะกันเป็นเวลาประมาณ 5 นาทีจึงสงบลง

ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล แจงความคืบหน้าการจัดตั้งชุดคุ้มครองตำบล

เมื่อวานนี้ พลเอกปราการ ชลยุทธ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ได้ติดตามความก้าวหน้าในการจัดตั้งชุดคุ้มครองตำบลในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามยุทธศาสตร์ประชาชนมีส่วนร่วมการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยระบุว่า วันนี้ สามารถบรรจุอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้และชุดคุ้มครองตำบล 164 ตำบล รวมทั้งสิ้น 7,120 นาย อยู่ระหว่างการสร้างและปรับปรุงฐานปฏิบัติการให้เหมาะสมและมีความปลอดภัย ดำเนินการได้ร้อยละ 77.73 มีการฝึกอบรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาความสงบในพื้นที่ มีการถอดบทเรียนและฝึกเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ชุดคุ้มครองตำบล หรือ ชคต. ได้รับการจัดตั้งขึ้นตามแผนงานถ่ายโอนภารกิจรักษาความปลอดภัย ในพื้นที่ 33 อำเภอของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา จากทหารหลักสู่กองกำลังประจำถิ่นและกองกำลังประชาชน โดยมอบอำนาจให้ฝ่ายปกครองเป็นผู้ดูแล เริ่มตั้งแต่ปี 2556 โดยขณะนั้นมีการจัดตั้งในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาที่เป็นรอยต่อกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อนเป็นส่วนใหญ่ คือ อ.จะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี เน้นไปยัง "พื้นที่ระดับ 3" หมายถึงพื้นที่ที่ประชาชนมีความพร้อมและความเข้มแข็งในการดูแลตัวเอง

ในปี 2556 มีการจัดตั้งชุดคุ้มครองตำบล 106 แห่ง ในปัจจุบันมี ชคต. 164 ชคต. แยกเป็น ชคต.เก่า 104 ชคต. และ ชคต.ที่ขยายขึ้นใหม่ 60 ชคต. แบ่งเป็น จ.ปัตตานี 57 แห่ง จ.นราธิวาส 51 แห่ง จ.ยะลา 41 แห่ง และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา 15 แห่ง โดยในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีเขตปกครองระดับตำบล รวม 248 ตำบล แต่ถ้ารวม 4 อำเภอ ของ จ.สงขลาด้วย จะมีเขตปกครองระดับตำบล 288 ตำบล