ตำรวจตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นต่อ อดีต อส.อับดุลฮากิม ดาราเซะ

มารียัม อัฮหมัด
2019.07.04
ปัตตานี
190704-hakeem-800.jpg อดีต อส.อับดุลฮากิม ดาราเซะ อดีตอาสารักษาดินแดน หลังจากปฏิบัติภารกิจในพื้นที่บันนังสตา จ.ยะลา วันที่ 20 ธันวาคม 2560
มารียัม อัฮหมัด/เบนาร์นิวส์

พ.ต.อ.ธีรพจน์ ยินดี ผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา กล่าวในวันพฤหัสบดีนี้ว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นต่อนายอับดุลฮากิม ดาราเซะ อดีตสมาชิกกองอาสาสมัครรักษาดินแดน อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา และได้ฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดยะลา หลังจากที่ถูกควบคุมตัวเมื่อกลางเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมานี้

พ.ต.อ.ธีรพจน์ กล่าวว่า นายอับดุลฮากิม ถูกต้องสงสัยว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงครอบครัวของนายอาแซ นิเซ็ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ในขณะเดินทางด้วยรถยนต์ ที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านเจาะบันตัง ในพื้นที่ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา ยะลา เป็นเหตุให้ภรรยาเสียชีวิต 1 ราย ส่วนผู้ใหญ่บ้านและบุตรสาวสองคน ได้รับบาดเจ็บรวม 3 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ศกนี้

"แจ้งข้อกล่าวหา อดีตอส.อับดุลฮากิม ดาราเซะ อดีตอาสารักษาดินแดน อ.บันนังสตา จ.ยะลา แล้วในคดีฆ่าผู้อื่น ซึ่งก็คือ คดียิงถล่มรถผู้ใหญ่บ้านบันนังกูแว อ.บันนังสตา จ.ยะลา จนภรรยาของผู้ใหญ่บ้านเสียชีวิต ลูกสาว 2 คน และตัวผู้ใหญ่บ้านเองได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 62” พ.ต.อ.ธีรพจน์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

“ขณะนี้ อยู่ในการควบคุมของศาลจังหวัดยะลา โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พนักงานสอบสวนเพิ่งยื่นคำร้องขอฝากขังเป็นครั้งที่สอง หลังจากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว" พ.ต.อ.ธีรพจน์ กล่าวเพิ่มเติม

ญาติของนายอับดุลฮากิม กล่าวว่าตนเองยังไม่ทราบถึงการตั้งข้อหา

"ไม่น่าเชื่อว่าฮากิมจะถูกดำเนินคดีจริง เรื่องนี้ เห็นว่าเจ้าหน้าที่พยายามทำให้เรื่องเงียบที่สุด ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าผลสรุปจะออกมาเป็นแบบไหน ส่วนเรื่องที่เขาจะทำหรือไม่ คิดว่าทุกอย่างอยู่ที่เจ้าหน้าที่ ต้องให้เจ้าหน้าที่เขาดำเนินการ ถ้าผิดเขาก็คงใช้กฎหมาย ถ้าไม่ผิดเดี๋ยวเขาก็ปล่อย” ญาติของนายอับดุลฮากิม กล่าวแก่เบนาร์นิวส์โดยไม่ประสงค์ออกนาม

พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา กล่าวว่า อดีต อส.อับดุลฮากิม ถูกเจ้าหน้าที่ทหารใช้อำนาจกฎอัยการศึก นำกำลังเข้าค้นบ้านของภรรยาที่ ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา และได้ควบคุมตัวนายอับดุลฮากิม เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา จากนั้น ในชั้นต้นถูกส่งเข้ากระบวนการซักถาม เนื่องจากครอบครองอาวุธสงคราม

นอกจากนั้น ในวันที่ 17 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ยังได้ใช้อัยการศึกควบคุมตัว นายไซมาวี แวกาลอ ซึ่งถูกนายอับดุลฮากิมซัดทอด ไว้เพื่อสอบปากคำในฐานะเป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมในการลอบยิงนายอาแซ นิเซ็ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 หมู่บ้านบันนังกูแว และการลอบยิงนายสะมะแอ สะมะ อายุ 55 ปี รองนายก อบต.ท่าธง เสียชีวิต เมื่อตอนกลางคืนของวันที่ 22 พฤษภาคม ในอำเภอรามัน จังหวัดยะลา

ในขณะนี้ ยังไม่มีรายงานความคืบหน้าของการดำเนินคดีต่อนายไซมาวี ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ที่ศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร ปัตตานี เพื่อดำเนินการซักถาม

หลังจากการจับกุมนายอับดุลฮากิม องค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ เรียกร้องให้ทหารรีบส่งตัวนายอับดุลฮากิมไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแจ้งข้อหาเขาได้ โดยให้เหตุผลว่านายอับดุลฮากิม มีส่วนในการก่อคดีไว้มากมาย โดยไม่ได้ทำงานโดยลำพัง แต่รัฐบาลยังไม่มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงแม้แต่คนเดียว

“นายอับดุลฮากิม ถูกสงสัยว่ามีส่วนในการฆาตกรรมชาวมุสลิมมลายูหลายราย ทั้งชายและหญิง ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น” นายสุณัย ผาสุก เจ้าหน้าที่วิจัยอาวุโส ขององค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำภาคพื้นเอเชีย กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2562

นายสุณัย ยังตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มก่อความไม่สงบบีอาร์เอ็น ได้หยิบยกการกล่าวหา อส.อับดุลฮากิม ที่ใช้อำนาจในทางที่ผิด "มาสร้างความชอบธรรมในการแก้แค้นของฝ่ายตน" จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทางการไทยต้องแก้ไขอย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตาม ในขณะจับกุมนั้น พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาคสี่ ส่วนหน้า กล่าวว่า แม่ทัพภาค 4 ได้มอบนโยบายตั้งแต่เกิดเหตุแล้วให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวนวัตถุพยานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นเรื่องของกระบวนการตามกฎหมาย

“เรื่องนี้ น่าจะเป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว จริงๆ แล้วคนที่รู้ดี คือ ผู้ใหญ่บ้าน" พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ในขณะนั้น

ทั้งนี้ นายอับดุลฮากิม ถูกควบคุมตัวจากบ้านเลขที่ 64/7 ม.2 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากเจ้าหน้าที่มีเบาะแสว่า นายอับดุลฮากิมเป็นคนร้าย ส่วนนายไซมาวี แวดาลอ ถูกควบคุมตัวจากบ้านเลขที่ 62/25 ม.3 ต.วัด อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ในอีกสามวันถัดมา

ในการตรวจค้นบ้านของนายอับดุลฮากิม เจ้าหน้าที่ได้ยึดอาวุธปืน เอ็ม.-16 เอ-4 หมายเลข 1862530 จำนวน 1 กระบอก ซองกระสุนขนาดบรรจุกระสุน 30 นัด จำนวน 1 ซอง และกระสุนปืนขนาด 5.56 จำนวน 25 นัด พร้อมกับอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน จำนวน 36 นัด

ตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดฐานฆ่าคนตาย พบว่า ข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15 ปีถึง 20 ปี

ส่วนโทษในข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" บัญญัติอยู่ในมาตรา 289 (4) ระวางโทษประหารชีวิต

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง