คนร้ายยิงสองแม่ลูกเสียชีวิตในทุ่งยางแดง ชาวบ้านอีกหนึ่งในระแงะ

มารียัม อัฮหมัด
2018.10.04
ปัตตานี
181004-TH-killing-1000.jpg เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุคนร้ายยิงสองแม่ลูกเสียชีวิต ที่ร้านน้ำชา บ้านควน ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี วันที่ 4 ต.ค. 2561
มารียัม อัฮหมัด/เบนาร์นิวส์

ในวันพฤหัสนี้ พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี กล่าวว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนพกยิงสองแม่ลูกเสียชีวิต ที่ร้านน้ำชาในพื้นที่บ้านควน อำเภอทุ่งยางแดง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังพิสูจน์จากปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ที่ตกในที่เกิดเหตุว่าเป็นอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุครั้งนี้เชื่อมโยงกับกลุ่มใดหรือไม่

ในเรื่องนี้ ร.ต.อ.พัลลภ พรหมแก้ว รองสารวัตรสอบสวน สภ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี กล่าวว่า ทาง สน. ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้าย 4 คน ใช้จักรยานยนต์สองคันเป็นพาหนะเดินทางมาที่ร้านน้ำชาแห่งหนึ่ง ในบ้านควน ม.2 ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี แล้วใช้อาวุธปืนยิง นางสาวอารมย์ จอมเพ็ชร อายุ 46 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ส่วนบุตรชาย คือ นายกวินท์ ชวิศสกุล อายุ 27 ปี ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลทุ่งยางแดง จึงเข้าตรวบสอบสถานที่เกิดเหตุ พบหลักฐานเป็นกระสุน ขนาด 9 ม.ม. ห้าปลอก โดย ร.ต.อ.พัลลภ ระบุว่า ในเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ชัดเจน

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี กล่าวว่าแก่ผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนในสถานที่เกิดเหตุจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางฝ่ายพิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจดูว่าอาวุธปืนที่ใช้ในครั้งนั้น เคยถูกใช้ก่อเหตุที่ใดมาก่อนบ้าง เพื่อจะได้ระบุกลุ่มได้

"สาเหตุต้องรอผลตรวจจากปลอกกระสุนว่า มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ใดบ้าง และจะรู้ทันทีว่าเป็นฝีมือการก่อเหตุของกลุ่มใด ขณะนี้ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องขัดแย้งเกี่ยวกับการรับเหมา และการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ เนื่องจากผู้ตายเป็นคนต่างพื้นที่ และยังเป็นเป้าหมายอ่อนแอที่กลุ่มก่อความไม่สงบ พยายามก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ และขอให้ประชาชนมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะเร่งรัดจับกุมคนร้ายให้ได้" พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ กล่าว

เหตุการยิงกันตายในครั้งนี้ เป็นเหตุรุนแรงครั้งที่สองที่มีผู้เสียชีวิต หลังจากที่ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ เข้ารับตำแหน่งแทน พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช ได้เกษียณถึงวาระเมื่อสิ้นเดือนกันยายน โดยเมื่อเวลาตีสองของวันพุธที่ผ่านมา ร.ต.ท.ศักดิ์ชาย  รักศรี  รอง สว.สอบสวน สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายอาลมิง เจ๊ะแมง อายุ 40 ปี เสียชีวิต ริมถนนในหมู่บ้าน ม.1 ต.มะรือโตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเจ้าหน้าที่ สภ.ระแงะ กำลังสอบสวนสาเหตุ

"เหตุการณ์ทุกวันนี้ ทรงตัว มีบ้างขึ้นๆ ลงๆ ก็ทำให้เห็นว่ากลุ่มก่อความไม่สงบยังสามารถเคลื่อนไหวได้ ยังมีโอกาสที่จะก่อเหตุ ก็ขอให้ใช้วิธีที่สันติในการแก้ปัญหา" ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ให้ทัศนะต่อเบนาร์นิวส์

นายอัศวิน หน่อแก้ว ชาวปัตตานี กล่าวว่า ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ แต่แม้ว่าเหยื่อจะป็นคนที่นับถือศาสนาพุทธทั้งสองราย ตนเองก็ขอให้ทุกฝ่ายอย่าใช้ความแตกต่างทางศาสนามาก่อให้เกิดความแตกแยก

"เหตุวันนี้ เสียใจมาก ก็รู้สึกกลัวๆ... คนอิสลามที่ไม่ดีก็มี คนพุทธที่ไม่ดีก็มี เราต้องอยู่ด้วยกันได้เหมือนอดีต อย่าไปกลัวอย่างที่บางคนต้องการให้เกิดความแตกแยก เขาต้องการให้ชาวบ้านฆ่ากันเองแล้ว ก็สามารถทำอะไรกับคนที่นี้ก็ได้ อย่าตกเป็นเครื่องมือของคนเหล่านี้” นายอัศวิน กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

จนท. จับชายไทยพร้อมอาวุธปืน

เมื่อเวลา 13.45 น. ของวันพฤหัสบดีนี้ ในขณะที่ ทหารพรานในสังกัด ฉก.ทพ.45 ลาดตระเวนดูแลความสงบให้กับชาวบ้านบริเวณ ม.8 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเส้นทางส่งเสบียงให้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายบนเขาบือแจง ได้มีผู้ต้องสงสัย 2 คน ขับขี่จักรยานยนต์ผ่านมา แต่ได้แสดงอาการพิรุธและพยายามหลบหนี ทว่าเจ้าหน้าที่จับตัวไว้ได้หนึ่งราย ทราบชื่อคือ นายมูนาวัร เจ๊ะมะ อายุ 22 ปี ซึ่งพบว่ามีปลอกกระสุนขนาด 5.56 ม.ม. ติดตัวมาด้วยสองปลอก ส่วนคนขี่จักรยานยนต์อีกหนึ่งรายหลบหนีไปได้

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมนายมูนาวัร มาดำเนินการซักถามเพื่อขยายผล ที่ ฉก.ทพ.45  ซึ่งนายมูนาวัร ยอมรับว่าเคยทดสอบยิงปืน เอ็ม.-16 และได้นำไปซุกซ่อนในสวนยางในพื้นที่บ้านอาแน ม.8 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ค้นอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวจนพบ เป็นปืนเอ็ม.-16 ตัดสั้น มีร่องรอยขูดลบหมายเลข พร้อมซองกระสุน 1 ซอง เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึด เพื่อนำไปตรวจสอบและขยายผลต่อไป

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง