ผบ.ทบ.ตรวจกองทัพภาคสี่ เข้มงวดมาตรการความปลอดภัยปีใหม่
2018.12.31
นราธิวาส และปัตตานี

พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ภาคใต้ ในวันจันทร์นี้ เพื่อตรวจมาตรการรักษาความปลอดในช่วงปีใหม่ หลังจากที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ก่อเหตุวางระเบิด-ยิง ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. จนถึงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้
พลเอกอภิรัชต์ ยังได้ไปที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส เพื่อเยี่ยมกำลังพลในสังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4905 กรมทหารพรานที่ 49 จำนวน 3 นาย ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายดักซุ่มยิง ขณะเดินทางโดยรถยนต์ในพื้นที่อำเภอศรีสาคร นราธิวาส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสามนายมีอาการปลอดภัย นอกจากนั้น พล.อ.อภิรัชต์ ได้เดินตรวจจุดเกิดเหตุต่างๆ ที่คนร้ายใช้อาวุธปืนและระเบิดแสวงเครื่องยิงและขว้างถล่มใส่ฐาน พร้อมทั้งได้เชิญเหรียญพระนเรศวรพระราชทาน ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานผ่าน ผบ.ทบ. เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย และกำลังภาคประชาชน ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ อ.ระแงะ เพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นศูนย์รวมแห่งความรักชาติ โดยมีนายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอระแงะ เป็นตัวแทนรับเหรียญพระราชทาน
พลตรีสมดุลย์ เอี่ยมเอก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารบก ได้รับทราบแผนการรักษาความปลอดภัย และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
“ที่สำคัญเมื่อได้รับฟังสรุปแผนรักษาความปลอดภัยต่างๆ รวมถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ ก็มีความเชื่อมั่น ส่วนในเรื่องของการทำงานที่ยังมีช่องว่างต้องช่วยกันดู และมั่นใจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่มีประสบการณ์ รู้รายละเอียด รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของผู้ก่อเหตุรุนแรงเป็นอย่างดี น่าจะรับมืออยู่” พลตรีสมดุลย์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว
เหตุรุนแรงนับจากระเบิดนางเงือก
คนร้ายได้เริ่มก่อเหตุรุนแรงระลอกใหม่ เมื่อตอนดึกของคืนวันที่ 26 ธ.ค.นี้ ด้วยการวางระเบิดรูปปั้นนางเงือกและรูปปั้นหนู บนหาดสมิหลา จังหวัดสงขลา ที่เป็นที่นิยมของนักเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนั้น คนร้ายยังได้วางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูงในพื้นที่อำเภอควนเนียงขาด 2 ต้น ส่วนอีกจุดอยู่ถัดออกไปในเขตรอยต่อ อ.ควนเนียงกับ อ.บางกล่ำ มีการนำระเบิด 4 ลูก ไปผูกไว้ที่โคนเสาไฟฟ้า 4 ต้น แต่เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เข้าไปทำการเก็บกู้เอาไว้ได้ ซึ่งระเบิดที่พบเป็นการก่อเหตุในช่วงเวลาเดียวกันกับที่เกิดเหตุระเบิดที่ชายหาดแหลมสมิหลา
ในขณะนั้น นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงในพื้นที่ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ในวันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม เกิดเหตุคนร้ายประมาณ 20 คน บุกโจมตีฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลกาลิซา ในอำเภอระแงะ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน อ.ระแงะ ที่ 4 ถูกส่งมาประจำที่ฐาน และได้เกิดการยิงปะทะกันนานราวครึ่งชั่วโมง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ คนร้ายได้เข้ามายึดพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาลิซา เพื่อใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่อีกด้วย นอกจากนั้น มีเหตุวางระเบิดอย่างประปรายในพื้นที่อำเภอยี่งอ ศรีสาคร ตากใบ และจะแนะ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยสี่ราย
จนกระทั่งวันเสาร์ที่ 29 ได้เกิดหลายครั้ง โดยคนร้ายได้ยิงทหารในสังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4905 กรมทหารพรานที่ 49 ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 นาย ในขณะเดินทางโดยรถยนต์ในพื้นที่อำเภอศรีสาคร นราธิวาส
ในวันเดียวกัน คนร้ายได้ประกบยิงนางกัญญารัตน์ ยศอักษร อายุ 59 ปี เสียชีวิต กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากตลาดนัดเพื่อกลับบ้านพักไปตามถนนสายโคกโพธิ์–ป่าบอน ในปัตตานี ซึ่ง ร.ต.อ.สถิตย์ เกษตกาลาม์ รอง สว.สอบสวน สภ.โคกโพธิ์ กล่าวว่า จากการตรวจที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบกระดาษสีขาว เขียนด้วยหมึกสีน้ำเงิน จำนวน 1 แผ่น มีข้อความในทำนองแก้แค้นว่า “สำหรับจับ และเก็บคนมลายู สำหรับจับ และฆ่าคนมลายู” ส่วนประเด็นและสาเหตุ เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
ในเวลา ประมาณ 20.50 น. ร.ต.อ.นิกร หุ้ยล่อง รอง สว.สภ.มายอ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงนายมาหามะรอนิง นาแว อายุ 49 ปี ขณะเดินทางกลับบ้านจากการละหมาด กระสุนถูกบริเวณไหล่ขวา ได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลมายอ
นอกจากนั้น คนร้ายยังได้ลอบวางระเบิดรางรถไฟสายยะลา–สุไหงโก-ลก ในพื้นที่อำเภอรือเสาะ และยังได้วางระเบิดเสาไฟฟ้าในพื้นที่อื่นของนราธิวาสอีก 5 แห่ง
ส่วนในวันอาทิตย์นี้ ร.ต.อ.ชยุต แก้วนุ้ย รอง สว.(สอบสวน) สภ.ระแงะ รับแจ้งเหตุคนร้ายวางระเบิดชนิดแสวงเครื่อง บริเวณท่อลอด บ.บาโงกูโบ ม.6 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
“ฝ่ายขบวนการยังคงมีความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อแสดงศักยภาพ” ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ กล่าววิเคราะห์เหตุการณ์แก่เบนาร์นิวส์ โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สำนักข่าวเบอร์นามา รายงานว่า ทางการมาเลเซียได้ออกการเตือนพลเรือนที่เดินทางมายังพื้นที่เสี่ยงในประเทศไทย ให้ใช้ความระมัดระวังและรายงานการเดินทางต่อสถานกงสุล
หลายฝ่ายประณามการยึดพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
จากการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาลิซา เมื่อคืนวันศุกร์ นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ออกมาประณามการกระทำของคนร้าย
“เหมือนทุกฝ่ายไม่เคารพกัน ต่อข้อเรียกร้องที่ขอพื้นที่ปลอดภัย แถมยังเกิดเหตุลักษณะนี้แบบซ้ำๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง สถานพยาบาลโรงเรียนหรือสิ่งเปราะบางทั้งหลาย ผู้หญิง เด็ก คนชรา ครู และบุคลากรทางการแพทย์ต้องได้รับการคุ้มครอง การใช้ตรงนี้ไปโจมตีค่ายทหารก็ถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง” นางอังคณา กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
ด้านสมาพันธ์บุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ ได้ออกแถลงการณ์ 4 ข้อ โดย หนึ่ง กล่าวประณามการยึดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อก่อความไม่สงบและข่มขู่บุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ทุกกรณี สอง ขอให้กระทรวงสาธารณสุข พิจารณามาตรการป้องกันความปลอดภัยในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลชายแดนใต้ และแก่บุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ อย่างเป็นรูปธรรม สาม ขอให้รัฐบาล กอ.รมน. และหน่วยงานรัฐ ออกมาตรการเยียวยาบุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ในทุกมิติ และ สี่ ตั้งกองทุนเยียวยาบุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ และครอบครัวขึ้นมา