ป.ป.ส. ยึดยาไอซ์ 296 กิโลกรัม คาดส่งออกออสเตรเลีย

ในวันอังคาร (27 มิถุนายน 2560) นี้ นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และคณะ ได้แถลงจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดเครือข่ายภาคกลางจำนวน 4 ราย สามารถยึดยาบ้า 1.7 ล้านเม็ด พร้อมด้วยยาไอซ์ เกือบ 300 กิโลกรัม เผยเตรียมลำเลียงผ่านจังหวัดภาคใต้ คาดว่าปลายทางคือประเทศออสเตรเลีย

นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยในการแถลงที่สำนักงาน ป.ป.ส. ว่า เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ป.ป.ส. และหน่วยงานร่วมสามารถจับกุมเครือข่ายยาเสพติดเครือข่ายนายศรายุทธ เอกมงคลสุข อายุ 28 ปี และสมาชิกรายอื่นอีก 3 คน ประกอบด้วย นายอดิศักดิ์ แก่นทองแดง อายุ 24 ปี นายทิวัฒถ์ กลิ่นอบเชย หรือหนึ่ง อายุ 23 ปี และนายพฤฒิชัย ไชยยงค์ อายุ 22 ปี ได้ที่บ้านพักในซอยเจริญนคร 40 แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพฯ

“จากการเข้าจับกุมในจังหวัดตรัง (คดีก่อนหน้า) พบว่านายหนึ่งหรือทิวัตน์ (หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม) ใช้รถบีเอ็มดับเบิ้ลยู สีดำ ทะเบียน 5กศ 8466 กรุงเทพฯ มีพฤติการณ์การค้ายาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนติดตาม จนวันที่ 26 ช่วงเย็น ก็พบรถคันดังกล่าว พร้อมนายทิวัฒถ์ และมีรถเชฟโรเลตสีน้ำตาล ทะเบียน 3กญ 9468 กรุงเทพอีกคัน จึงจับกุมได้ 4 คน และทราบว่าผู้ที่เป็นตัวการ ก็คือนายศรายุทธ เอกมงคลสุข การตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 1,718,000 เม็ด พร้อมด้วยไอซ์ 296 กิโลกรัม ในรถเชฟฯ” นายศิรินทร์ยากล่าว

นายศิรินทร์ยา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสืบสวนผู้ต้องหาพบว่า ยาบ้าจำนวนดังกล่าวจะแพร่ระบาดเข้าสู่ชุมชน ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่วนยาไอซ์จำนวน 296 กิโลกรัมนั้น จะถูกส่งต่อไปยังพื้นที่ภาคใต้ แต่ไม่มีการยืนยันว่าส่งไปยังประเทศมาเลเซียหรือไม่ แต่ด้วยเหตุผลที่ประเทศออสเตรเลียเป็นตลาดยาไอซ์ที่สำคัญ จึงเชื่อว่าปลายทางอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียมากกว่า

การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากในวันที่ 27 เมษายน 2560 เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมยาบ้า 4,016,000 เม็ด ยาไอซ์ 100 กิโลกรัม และเคตามีน 49 กิโลกรัม ที่จังหวัดเชียงราย  และเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาอีก 3 ราย พร้อมยาบ้า 4,040,000 เม็ด ที่จังหวัดตรัง จึงได้มีการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่องจนทราบว่านายทิวัฒถ์และบุคคลในเครือข่าย ลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจากทางภาคเหนือ และนำมาเก็บไว้ที่ย่านธนบุรี ก่อนนำมาส่งให้หัวหน้ากลุ่มในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ป.ป.ส.จึงร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆ เพื่อเข้าจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญกลุ่มนี้จนสำเร็จ

ในส่วนของมาตรการป้องกันปราบปรามยาเสพติด นายศิรินทร์ยาเผยว่าการใช้มาตรการสมทบสนับสนุน ช่วยเหลือ และมาตรการริบทรัพย์นั้น ในปีงบประมาณ  2560 สามารถทำลายเครือข่ายยาเสพติดและยึดทรัพย์ได้สูงกว่าปี 2559 อีกทั้งในปีนี้ มีประชาชนจำนวนมากร่วมมือกันแจ้งเบาะแสยาเสพติดเกือบ 1 หมื่นราย โดย ป.ป.ส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้เข้าไปตรวจสอบและจับกุม อีกทั้งยังได้นำตัวผู้เสพเข้ามาบำบัดรักษาเพื่อไม่ให้เข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดซ้ำอีก ทั้งนี้ก็เพื่อลดจำนวนยาเสพติดในพื้นที่หมู่บ้านชุมชน และขจัดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

“การที่พี่น้องประชาชนแจ้งเบาะแสมา คือการเข้าไปดำเนินการลดยาเสพติดในชุมชน ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานหลัก คือ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และฝ่ายทหาร ทำการดำเนินการเข้าไปตรวจสอบสิ่งที่พี่น้องประชาชนร้องเข้ามา ในช่วงปีงบประมาณปี 2560 นั้น มีการร้องเรียนเข้ามาตามช่องทางต่างๆ เกือบ 10,000 ราย

และได้นำตัวผู้เสพชักชวนเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาในระบบสมัครใจ โดยเมื่อสมัครใจเข้ามารักษาแล้ว แต่ยังกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก ก็ต้องมีการดำเนินการในมาตรการต่อไป เพื่อต้องการลดปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในหมู่บ้านและชุมชน” นายศิรินทร์ยา กล่าว