เฟซบุ๊กขู่ฟ้องรัฐบาลไทย หลังถูกสั่งให้แบนเพจ'รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส'

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2020.08.25
กรุงเทพฯ
200825-TH-facebook-blocked-1000.jpg นายพานสุวรรณ ณ แก้ว(คนกลาง) อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นส่งนายปวิน ชัชวาลพงษ์พันธ์ กลับประเทศไทย ที่หน้าสถานทูตญี่ปุ่น วันที่ 25 สิงหาคม 2563
นนทรัฐ ไผ่เจริญ/เบนาร์นิวส์

ในวันอังคารนี้ เฟซบุ๊ก ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์สัญชาติอเมริกัน ระบุในแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนต่างประเทศว่า เตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายกับรัฐบาลไทย หลังจากที่รัฐบาลไทยสั่งให้เฟซบุ๊กปิดกั้นการเข้าถึงกลุ่ม “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส” ในประเทศไทย ด้าน เครือข่ายประชาชน เข้ายื่นหนังสือต่อสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยให้ส่งตัวนายนายปวิน ชัชวาลพงษ์พันธ์ อาจารย์ประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ผู้ตั้งกลุ่ม “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส” กลับมารับโทษในประเทศไทย

เฟซบุ๊ก ได้ออกแถลงการณ์ตอบคำถามสำนักข่าวรอยเตอร์ ในประเด็นดังกล่าว หลังจากที่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้มีคำสั่งให้เฟซบุ๊กปิดกั้นการเข้าถึงกลุ่ม “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส” ซึ่งมีการเขียนข้อมูลวิพากษ์-วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย ที่ก่อตั้งโดยนายปวิน

“หลังจากที่เฟซบุ๊ก ได้พิจารณาอย่างระมัดระวังและถี่ถ้วนแล้ว เราตัดสินใจที่จะจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่ทางรัฐบาลไทยระบุว่า เป็นเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องจากรัฐบาลเช่นครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่รุนแรง และขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากล และยังส่งผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงออก” โฆษกเฟซบุ๊ก กล่าวผ่านแถลงการณ์

“หลังจากมีการทบทวนเรื่องนี้อย่างรอบคอบ ทางเฟซบุ๊กได้พิจารณาแล้วว่า การที่เราถูกบังคับให้จำกัดการเข้าถึงเนื้อหาในกลุ่มดังกล่าวนั้น รัฐบาลไทยถือว่ากระทำผิดกฎหมาย คำขอร้องเช่นนี้ เป็นเรื่องร้ายแรง ขัดต่อหลักกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และมีผลกระทบอย่างเยือกเย็นต่อความสามารถของประชาชนในการแสดงความเป็นตัวตนของตนเอง” ตอนหนึ่งของแถลงการณ์ ระบุ

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวแก่สื่อมวลชนถึงประเด็นดังกล่าวว่า ไทยพร้อมสู้ทางกฎหมาย หากเฟซบุ๊กจะฟ้องรัฐบาลไทย

“การที่เรามีการดำเนินการในเรื่องของเพจต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นการดำเนินการตามกฎหมายไทยทั้งสิ้น แล้วก็ไม่เคยไปใช้อำนาจที่เรียกว่า เผด็จการ ผมไม่ได้มีแล้ว ขอคำสั่งศาลทุกตัว เพราะฉะนั้นผมคิดว่า… หากมีการฟ้องดังกล่าว เราก็ต้องใช้กฎหมายไทยไปสู้ ตามกฎหมายของเราถึงแม้ตามกฎหมายนั้นจะมีสิทธิเสรีภาพ แต่ต้องไม่ผิดกฎหมายไทย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

“ทุกคนต้องเคารพกฎหมายของแต่ละประเทศเหมือนกัน ผมเองก็ไม่เคยไปก้าวล่วงต่างประเทศ เพราะว่า มันกฎหมายของเขา เพราะฉะนั้นกฎหมายของใครก็ของใคร เพราะฉะนั้นใครจะทำอะไรก็แล้วแต่ ก็ขอให้ระมัดระวังด้วยในเรื่องเหล่านี้… ไม่ว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง มันมาจากเพจกลุ่มที่เรียกว่า รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส นะครับ ซึ่งก็รู้ว่าใครขับเคลื่อนตรงนี้อยู่ก็คือ สมศักดิ์ (เจียมธีรสกุล) กับ ปวิน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติม

ขณะที่ นายดอน ปรมัติวินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไทยจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายของไทย แม้จะละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศก็ตาม

“ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาในข้อกฎหมาย กำลังดูที่มาที่ไปของเรื่อง แต่ถ้าผู้โพสต์ทำผิดกฎหมายรัฐบาล ก็อยู่ในฐานะที่ใช้กฎหมายของไทยเข้ามาควบคุมให้ถูกต้อง เรื่องสิทธิเสรีภาพตามกฎหมายระหว่างประเทศถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่จะมาใช้ในกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศไทยได้หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาดูว่า เว็บนั้นคุณสมบัติอย่างไร นำเสนอเรื่องที่ดีที่เกิดขึ้นกับประชาชนหรือสังคมไทยได้หรือไม่” นายดอน กล่าว

ทั้งนี้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ระบุว่า ที่ผ่านมา การร้องขอให้เฟซบุ๊กปิดบัญชีที่ละเมิดกฎหมายไทย ประสบความสำเร็จมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์

“เราส่งคำสั่งศาลไปให้ลบเนื้อหาต่าง ๆ ที่ไม่ถูกต้องภายใน 15 วัน ถือเป็นการทำตามกฎหมาย หากเขาลบก็ไม่ดำเนินคดีเขา ไม่ว่าเป็นคนไทยหรือคนต่างประเทศ เมื่อมาดำเนินธุรกิจต่าง ๆในประเทศไทย ต้องเคารพในกฎหมายไทย ที่เราทำก็ทำภายใต้กฎหมาย ไม่ได้รังแกใครเลยเพราะเป็นคำสั่งศาล ก็ดำเนินการตามคำสั่งศาลกับทุกแพลตฟอร์มไม่ใช่แต่เฉพาะเฟซบุ๊ก ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เขาก็ลบให้ ทั้งนี้ของเดิมมีข้อความที่หมิ่นเหม่ในเฟซบุ๊ก 1,120 ยูอาร์แอล” นายพุทธิพงษ์ ระบุ

สำหรับ กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นปี 2563 โดย นายปวิน ซึ่งเป็นวิทยากรรับเชิญในเวทีเสวนาเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ไทยในหลายประเทศ และมักเขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ไทยบ่อยครั้ง หลังการรัฐประหาร 2557 นายปวิน เป็นหนึ่งในบุคคลที่ คสช. เชิญให้ไปรายงานตัว แต่นายปวินได้ปฎิเสธการปฎิบัติตามคำสั่ง โดยอ้างว่าติดภารกิจสอนหนังสือที่ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบัน ได้รับหนังสือเดินทางจากรัฐบาลญี่ปุ่น และยังพำนึกอยู่ในประเทศญี่ปุ่น

กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ก่อนถูกปิดกั้นมีสมาชิกกลุ่มมากกว่า 1 ล้านคน มีการเขียนข้อความ รูปภาพ หรือเผยแพร่ข่าวกว่า 100 ชิ้น และมีผู้แสดงความคิดเห็นจำนวนมากในแต่ละวัน ทั้งนี้ นายปวินเป็นหนึ่งในบุคคลที่ กระทรวงดีอีเอส ออกประกาศเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2560 ให้ประชาชนงดเว้นการติดต่อ และเผยแพร่ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต เนื่องจากอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

“บล็อกกี่ทีก็เปิดใหม่ เปิดเมื่อคืน ณ ตอนนี้มีสมาชิกมากกว่า 400,000 แล้ว รัฐบาลไม่เข้าใจว่า กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลสไม่ใช่สถานที่ แต่มันเป็นผู้คนและเน็ตเวิร์ก ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สมาชิกส่วนหนึ่งในกลุ่มใช้มันเป็นที่พูดคุยเรื่องสถาบันอย่างตรงไปตรงมา และมันได้สร้างสิ่งแวดล้อมใหม่ให้เค้ามองว่า การพูดเรื่องสถาบันมันจำเป็นต่ออนาคตของเค้าและลูกหลานเค้า มันเลยกลายมาเป็นเน็ตเวิร์กของคนที่มีความคิดตรงกัน ยิ่งบล็อกกลุ่มนี้ ยิ่งทำให้เค้าอยากรู้ พาคนมาเพิ่ม นี่มันปี 2020 คุณไม่สามารถปิดบังข้อมูลอีกต่อไป บล็อกอีกก็เปิดใหม่ สู้กันค่ะ ในสงครามไซเบอร์ ดิชั้นยอมแพ้ไม่เป็น” นายปวิน ระบุ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังจากที่กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลสถูกปิดกั้น และขณะเบนาร์นิวส์ตีพิมพ์ เพจที่เพิ่งเปิดใหม่ดังกล่าวนี้ มีสมาชิกมากกว่า 640,000 ราย

ในวันเดียวกัน ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นายพานสุวรรณ ณ แก้ว และนายประกอบกิจ อินทร์ทอง ตัวแทนคณะบุคคลเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลญี่ปุ่นให้ดำเนินการกับ นายปวิน โดยระบุว่า การกระทำของนายปวิน เป็นการจาบจ้วง ยุยงปลุกปั่น อาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันกษัตริย์ และสร้างความแตกแยกในสังคม

“เรามีข้อเรียกร้อง 4 ข้อดังนี้ 1. ให้รัฐบาลของญี่ปุ่นใช้อำนาจหยุดพฤติกรรมล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ของนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ อย่างเด็ดขาดทุกช่องทาง และส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย เพื่อรักษามิตรภาพที่ดีของประชาชนชาวไทยกับประชาชนชาวญี่ปุ่นให้ยาวนานต่อไป 2. ให้ปลดนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ จากการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเกียวโต และมิให้เป็นวิทยากรบรรยายในสถาบันการศึกษาอีกต่อไป” นายพานสุวรรณ อ่านแถลงการณ์กลุ่ม

“3. รัฐบาลญี่ปุ่นต้องแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้เห็นเป็นรูปธรรม ว่าไม่ได้ให้การสนับสนุนการกระทำของปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ และแถลงผลความคืบหน้าการดำเนินการทุกระยะ 4. ประชาชนชาวไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อเรียกร้องนี้คงจะได้รัการตอบสนองจากรัฐบาลญี่ปุ่น โดยพวกเราจะเฝ้าติดตามผลการดำเนินการอย่างละเอียดต่อเนื่อง และพร้อมจะยกระดับ หากไม่ได้รับการแก้ไขจากรัฐบาลของท่าน” นายพานสุวรรณ กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยได้ส่งตัวแทนเจ้าหน้าที่มารับหนังสือ แต่มิได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ โดยการยื่นหนังสือเป็นไปอย่างสงบใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนกลุ่มผู้ยื่นราว 10 คน จะเดินทางกลับ

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง