เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ รวบผู้ต้องหาค้าประทัดและดอกไม้เพลิง ในเดือนรอมฏอน


2015.06.24
TH-firecracker-620 เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ควบคุมตัวนายอิสมาแอ ตูแวตีมุง ข้อหาจำหน่ายจ่ายแจกประทัดและดอกไม้เพลิง ในช่วงเดือนรอมฎอน อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส วันที่ 24 มิ.ย. 2558
เบนาร์นิวส์

วันที่ 24 มิ.ย. 2558 ร.ต.อ. วสันต์ พันธ์โภชน์ สว.ป.สภ.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ร.ต.ท.อับดุลฮากิม เจ๊ะเมาะ หน.ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4412 ร้อย ตชด.447 และกำลังภาคประชาชน ได้ตั้งด่านตรวจ ที่บ้านปะดังยอ ม.3 ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก พบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิซิ ไทตันสีบรอนส์ ทะเบียน บจ 2491 นราธิวาส ขับผ่านมาโดยกระบะหลังใช้ผ้าใบสีดำปิดมิดชิด เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกเพื่อทำการตรวจค้น

พบด้านหลังกระบะมีการบรรทุกประทัดและดอกไม้เพลิง รวม 14 รายการ อาทิ พลุสี ข้าวต้มมัดแบบ 3 เหลี่ยม ประทัดแบบปิงปองและอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2 แสนบาท เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ซึ่งทราบชื่อภายหลังคือ นายอิสมาแอ ตูแวตีมุง 31 ปี อยู่บ้าน ม.1 ต.นานาค อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พร้อมของกลางมาสอบสวนที่ สภ.มูโนะ

โดยนายอิสมาแอ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเป็นเพียงผู้รับจ้างบรรทุกประทัดและดอกไม้เพลิง จากเถ้าแก่คนหนึ่งในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก เพื่อไปส่งให้กับลูกค้าในประเทศมาเลเซีย ที่มารอรับประทัดและดอกไม้เพลิง ที่บริเวณท่าเรือข้ามฟากบ้านปะดังยอ โดยใช้รถยนต์กระบะของตนบรรทุก ซึ่งไม่ทราบมาก่อนว่าในช่วงเดือนรอมฎอน ทาง พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาค 4 ได้สั่งห้ามจำหน่ายจ่ายแจกประทัดและดอกไม้เพลิงในช่วงเดือนรอมฎอน เนื่องจากเป็นการรบกวนสร้างความเดือนร้อน และรำคาญ ต่อชาวมุสลิมที่ประกอบศาสนกิจในเดือนอันศักดิ์สิทธิ์ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ 1.ไม่มีใบอนุญาตในการจำหน่ายประทัดและดอกไม้เพลิง 2. ฝ่าฝืน พรก. ตามคำสั่งของกองอำนวยการความมั่นคงภายใน พร้อมยึดรถยนต์กระบะของกลางที่ใช้ในการกระทำผิดในครั้งนี้ด้วย

ก่อนถูกแจ้งความดำเนินคดี แหล่งข่าวแจ้งว่า มีบุคคลอ้างตัวเป็นนักข่าวใหญ่ ในพื้นที่สุไหงโกลกรายหนึ่ง เข้าขอเคลียร์การจับกุมประทัดดอกไม้ไฟดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยินยอม พร้อมบอกว่าเป็นสิ่งผิดกฏหมายและตักเตือนคนที่อ้างตัวเป็นนักข่าวจริง ก็ไม่ควรทำเสียชื่อสถาบันสื่อฯ

วันเดียวกันที่ 24 มิ.ย. 2558 เจ้าหน้าที่ทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจ 47 นำกำลังลาดตระเวนเส้นทางดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ระหว่าง เดินทางมาถึง บริเวณตรงข้ามโรงเรียนบ้านลากอ ม.4 บ.บาโด ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา พบวัตถุต้องสงสัยบริเวณสวนยางพาราซุกซ่อนในกอไผ่ หน้าโรงเรียนลากอ เป็นวัตถุทรงกระบอก เส้นทางศูนย์กลางขนาดประมาณ 5  นิ้ว ยาว 7 นิ้ว พันด้วยเทปกาวสีดำมีสายไฟโผล่ออกมา จึงแจ้งชุดสุนัข หน่วยเฉพาะกิจอโณทัย และ เจ้าหน้าที่ EOD เข้าตรวจสอบ

จากการตรวจสอบพบเป็นวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง มัดด้วยผ้าเทปสีดำ ไม่พบตัวจุดชนวนระเบิด ใช้ภาชนะบรรจุ เป็นกระปุกออมสิน  ด้นในพบ ตะปูขนาด 3 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 1 กก. และ ประทัดลูกบอลขนาดเล็กประมาณ  40 ลูก เจ้าหน้าที่ได้เก็บวัตถุดังกล่าวไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ต่อไป  ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

คืนวันที่ 23 มิ.ย. 2558 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ตำรวจเมืองยะลา นำกำลังเข้าตรวจสอบเหตุ คนร้าย ขวางประทัดยักษ์ บนถนนสิโรรส ตรงข้ามซอยภูมิณรงค์ เขตเทศบาลเมือง จ.ยะลา จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบคนร้ายได้ นำประทัดยักษ์ เศษแก้ว และก้อนกรวด มาพันด้วยเทปกาว เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ พยายามสร้างสถานการณ์

ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า “ตามนโยบาย ของพลโทปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาค 4 ได้สั่งให้ทุกหน่วยเฉพาะกิจ ในพื้นที่ ทำความเข้าใจกับร้านค้าต่างๆให้งดการขายดอกไม้ไฟและประทัด ตั้งแต่ 1 สัปดาห์ ก่อนเข้าเดือนรอมฎอนจนถึงสิ้นเดือนรอมฎอน การประกาศห้ามเล่นและขายประทัด จะเห็นว่า ปีนี้ไม่มีเสียงประทัดรบกวนและสามารถป้องกันการก่อกวนได้อีกด้วย ในส่วนของเหตุการณ์ คนร้ายยังมีความพยายามที่จะสร้างสถานการณ์อยู่ แต่เจ้าหน้าที่มีมาตราการที่เข้มงวด มั่นใจจะสามารถเฝ้าระวังและป้องกันเหตุช่วงนี้ได้”

พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน 41 กล่าวว่า “7 วัน รอมฎอนผ่านไป สถานการณ์ปกติ หากมองเชิงของการป่วนเมือง ยังมีอยู่ กลางดึกที่ผ่านมา คนร้ายขวางประทัดยักษ์ ที่เมืองยะลา พบวัตถุต้องสงสัย ตรวจสอบพบด้านในมีประทัดกว่า 40 ลูกไม่มีตัวจุดชนวนระเบิด   เหมือนคนร้ายพยายามที่จะหาโอกาสก่อเหตุ  แต่เจ้าหน้าที่ค่อนข้างแน่นหนา จึงไม่สามารถก่อให้เกิดความรุนแรงได้”

“มองว่าจากเหตุการณ์ ขว้างประทัดยักษ์ ในเมืองยะลา เจ้าหน้าที่พบวัตถุต้องสงสัย ที่อ.ยะหา ด้านในเต็มไปด้วยประทัดยักษ์ แต่ไม่มีตัวชนวนระเบิด ชัดเจนว่าช่วงนี้ คนร้ายทำได้แค่ก่อกวนเท่านั้น ในส่วนของการจับกุมดอกไม้ไฟ และประทัด ที่ จ.นราธิวาส มองว่าเป็นเรื่องเดียวกันกับการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่”

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง