ชาวประมงไอ้โง่ปัตตานีเรียกร้อง คสช. ยกเลิกคำสั่งห้ามใช้เครื่องมือตามคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 24/2558
2015.11.16
ในวันจันทร์ (16 พฤศจิกายน 2558) นี้ กลุ่มประมงพื้นบ้าน ที่ใช้เครื่องมือประเภทลอบพับ หรือไอ้โง่ และโพงพาง ประมาณ 150 คน รวมตัวเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกคำสั่งของ คสช. ฉบับ 24/2558 ที่ห้ามการใช้เครื่องมือโพงพาง รั้วไซมาน หรือกั้นซู่รั้วไซมาน เครื่องมือลี่ หรือเครื่องมืออื่น ที่มีลักษณะและวิธีการคล้ายคลึงกัน ที่ศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลปัตตานี หรือหากไม่ได้ จะขอผ่อนผันชั่วคราวเป็นเวลาหกเดือน
นายสือหมัน สือแม ตัวแทนกลุ่มประมงพื้นบ้าน ที่ใช้เครื่องมือประเภทลอบพับหรือไอ้โง่ และโพงพาง จังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ทุกวันนี้ ชาวบ้านเดือดร้อนมากจากการประกาศใช้คำสั่ง คสช.ฉบับ 24/2558 เรื่องการแก้ไขปัญหาการทําการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ตามข้อ 2 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อใช้ซึ่งเครื่องมือทําการประมง (2) เครื่องมือโพงพาง รั้วไซมานหรือกั้นซู่รั้วไซมาน เครื่องมือลี่ หรือเครื่องมืออื่นที่มีลักษณะและวิธีการคล้ายคลึงกัน เป็นอย่างมาก
“เราอยากขอให้มีการผ่อนผันให้สามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้ไปก่อนเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อให้เราตั้งตัวได้ แล้วยืนยันว่าจะไม่ทำอีกเลย” นายสือหมัน กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
ต่อมา นายวัชรินทร รักษ์ยอดจิต ประมงจังหวัดปัตตานี ได้เชิญตัวแทนซึ่งเป็น แกนนำกลุ่มประมงพื้นบ้านที่ใช้เครื่องมือประเภทลอบพับหรือไอ้โง่และโพงพาง ร่วมประชุมหารือเพื่อหาทางออก ประกอบด้วย 1. นายสุรศักดิ์ แหละหมัน 2. นายมาโนช ทิพย์ยอแล๊ะ 3. นายแวซอเฮาะ เมาะโซร์ และ 4. นายสือหมัน สือแม
ทั้งหมดใช้เวลาร่วมประชุมที่ห้องประชุมชั้น 2 ของสำนักงานศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลปัตตานี 1 ชั่วโมง แกนนำกลุ่มประมงพื้นบ้านที่ใช้เครื่องมือประเภทลอบพับหรือไอ้โง่และโพงพาง ยื่นข้อเสนอ ดังนี้ 1. ขอความอนุเคราะห์ยืดระยะการทำการประมง โดยเครื่องมือประเภทลอบพับ หรือ ไอ้โง่ และโพงพาง ไปอีก 6 เดือน 2. ขอขยายขนาดตาอวน 3. ขอเงินชดเชยเยียวยาจากรัฐบาล ในกรณีที่ให้กลุ่มของตนเองเลิกทำการประมงประเภทนี้ 4. กรณีเครื่องทำการประมงที่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดไปแล้วนั้นขอให้ทางรัฐบาลมีการเยียวยาช่วยเหลือด้วย
ซึ่งนายวัชรินทร์ รักษ์ยอดจิต ประมงจังหวัดปัตตานี ได้รับข้อเสนอ และดำเนินการนำเรียนผู้บังคับบัญชาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทำให้แกนนำกลุ่มประมงพื้นบ้านที่ใช้เครื่องมือประเภทลอบพับหรือไอ้โง่และโพงพางพอใจ จึงพากันสลายการรวมตัว
นาย วัชรินทร์ รักษ์ยอดจิต ประมงจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า “จากข้อเสนอทั้งหมดที่ แกนนำกลุ่มประมงพื้นบ้านที่ใช้เครื่องมือประเภทลอบพับหรือไอ้โง่และไพงพาง ต้องการ และได้ยื่นมานั้น จะนำเรียนผู้บังคับบัญชาและส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการต่อไป แต่ก็ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำตามกฎหมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย”
ประเทศไทยได้รับใบเหลืองจากสหภาพยุโรป หรือ อียู เมื่อวันที่ 21 เมษายน รัฐบาลไทยได้สั่งพักการออกเรือประมงหลายพันลำที่ไม่มีใบอนุญาต หรือมีอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานของอียู
ลูกเรือประมงที่ดำรงชีพด้วยการประมง ต่างก็ออกมาประท้วงกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ซึ่งการประมงเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจในพื้นที่แถบนั้น บางคนสิ้นหวังจนถึงกับฆ่าตัวตาย
นายภูเบศ จันทนิมิ นายกสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เผยวันจันทร์นี้ว่า ในจังหวัดปัตตานี ช่วงนี้ มีเรือประมงที่ไม่สามารถออกประมงได้ และยังคงจอดอยู่ที่ท่าเรือ ประมาณ 2,000 ลำ เพราะกฏข้อบังคับของรัฐบาล
โดยเมื่อต้นเดือนนี้ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีไทยได้อนุมัติพระราชกำหนดกฎหมายฉบับใหม่ที่เข้มงวด เพื่อควบคุมการทำประมงผิดกฎหมาย และหลีกเลี่ยงการถูกสหภาพยุโรป ห้ามนำเข้าอาหารทะเลมูลค่าปีละกว่าสามหมื่นล้านบาท และ เพื่อนำมาตรการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย การขาดการรายงาน ไร้การควบคุม (หรือ ไอยูยู) มาปฏิบัติ
ภายใต้ร่างพระราชกำหนดฉบับนี้ ผู้ประกอบการเรือประมงอาจถูกจำคุก หรือลงโทษปรับ และอย่างอื่น หากมีการจ้างแรงงานประมงผิดกฎหมาย ไม่จดทะเบียนเรือประมง ใช้เครื่องมือไม่ถูกต้อง เช่น ใช้ตาข่ายที่ถี่เกินไป และไม่รายงานการเข้า-ออกท่าเรือถูกต้อง ในส่วนของโรงงานเองนั้น จะมีสัดส่วนวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ที่ลมดุลกัน เป็นต้น
โดยที่ ผู้ฝ่าฝืนอาจถูกยึดเรือ หรือถูกถอนใบอนุญาต และอาจถูกจำคุกเป็นเวลาสองปี หรือถูกปรับเป็นจำนวนเงินสูงสุด 6 ล้านบาท (168,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการฝ่าฝืน