รัฐบาล-กองทัพไทย ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน สปป.ลาว

ในช่วงเย็นของวันพุธที่ 25 กรกฎาคม กองทัพอากาศไทย ได้จัดเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 หรือ C-130 นำสิ่งของพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ฯ ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุทกภัยขนาดใหญ่ที่สปป.ลาว พร้อมทั้งลำเลียงถุงยังชีพจากรัฐบาลไทยไปในเที่ยวบินเดียวกัน ขณะที่ทีมกู้ภัยจากประเทศไทยและสิ่งของบรรเทาทุกข์ชุดแรกถึง สปป.ลาวแล้ว จากเหตุการณ์ที่เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย เกิดรอยแตก เมื่อคืนวันจันทร์ จนทำให้มวลน้ำขนาดใหญ่ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ในแขวงอัตตะปือ และแขวงจำปาสัก

เรดิโอฟรีเอเชีย ภาคภาษาลาว รายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยประเทศลาวรายงาน พบผู้เสียชีวิตในขณะนี้ 26 รายแล้ว และยังสูญหายอีก 131 คน หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทม์ รายงานว่า ประชาชนกว่า 3,000 ราย ต้องการความช่วยเหลือ ขณะที่ประชาชน 2,851 คน ได้รับการช่วยเหลือและปลอดภัยแล้ว โดยเชื่อว่ามีผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 6.6 พันคน

พลอากาศตรี พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า กองทัพอากาศได้เตรียมนำสิ่งของพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ฯ ประกอบด้วย น้ำดื่มพระราชทาน จำนวน 10,000 ขวด ผ้าเช็ดตัวพระราชทาน จำนวน 2,000 ผืน เครื่องกรองน้ำพระราชทาน จำนวน 49 เครื่อง อาหารและยาพระราชทานอีกจำนวนหนึ่ง ขึ้นเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 หรือ C-130 เพื่อไปส่งยังสปป.ลาว โดยเที่ยวบินเดียวกันนี้ยังได้บรรทุกถุงยังชีพในนามรัฐบาลไทย จำนวน 5,000 ชุด ไปพร้อมกันด้วย

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์น้ำท่วมหนักใน สปป.ลาว พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมในการเข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งในเบื้องต้น โฆษกรัฐบาลเปิดเผยได้ว่า ได้มีอาสาสมัครจากประเทศไทยได้เดินทางเข้าไปยัง สปป.ลาวแล้ว

"ประเทศไทยในฐานะเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับ สปป.ลาว ซึ่งยินดีที่จะสนับสนุนทั้งในด้านบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นหน่วยกู้ภัย แพทย์ พยาบาล ทหาร เจ้าหน้าที่ไฟฟ้า ฯลฯ รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต่าง ๆ โดยสามารถดำเนินการได้ทันที หากได้รับการประสานงานจากทางการของ สปป.ลาว" นายกฯ ระบุ

ในวันเดียวกัน ทีมกู้ภัยจากประเทศไทยชุดแรก จำนวนกว่า 100 ชีวิต ถึงสปป.ลาวแล้ว พร้อมด้วยได้นำเรือติดเครื่องยนต์ท้องแบนจำนวน 4 ลำ เจ๊ตสกี 2 ลำ ชุดประดาน้ำ 10 ชุด เพื่อนำไปสมทบกับทีมกู้ภัยจาก สปป.ลาว ในการวางแผนลงพื้นที่ช่วยเหลือต่อไป

ด้านจังหวัดตามแนวชายแดนประเทศไทยติดกับสปป.ลาว มูลนิธิการกุศลมุกดาหาร ร่วมกับ หอการค้าจังหวัดมุกดาหาร  นรข. รวมถึงหน่วยงานราชการ ห้ามร้าน และประชาชนในจังหวัดมุกดาหาร ได้ร่วมกันรวมบรวมสิ่งของยังชีพที่จำเป็นเพื่อเตรียมส่งต่อไปยังผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม สันเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ในพื้นที่เมืองสนามไซ แขวงอัตตะปือ และแขวงจำปาสัก สปป.ลาว ต่อไป

นายสันติชัย วรวิริยะประเสริฐ กรรมการมูลนิธิการกุศลมุกดาหาร กล่าวว่า ตนจะนำของที่ได้จากการรับบริจาค ประกอบด้วย น้ำดื่ม 3,000 แพ็ค ยารักษาโรค ข้าวสาร 1,200 ถุง ไฟฉาย เทียนไข เสื้อชูชีพ เสื้อผ้า 1,200 ชุด ผ้าห่ม 1,200 ผืน นม 100 กล่องใหญ่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 100 กล่องใหญ่ ถุงดำ ไปมอบให้กับทางการลาว ที่แขวงสะหวันนะเขต เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เดือดร้อนจากเขื่อนแตกต่อไป

“ประชาชนสองประเทศในจังหวัดรอยต่อ มีการเดินทางไปมาค้าขายกันตลอด จึงเปรียบเสมือนญาติ น้ำท่วมทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตรเป็นอย่างมาก หวังว่าการเอาสิ่งของไปมอบให้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ถูกน้ำท่วมได้บ้าง” นายสันติชัย กล่าว

นายจิรโรจน์ เรืองกิตต์ชัยกุล กรรมการมูลนิธิการกุศลมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งของที่นำไปมอบให้ผู้ประสบภัยชาวสปป.ลาว ในวันนี้ เป็นเพียงชุดแรกที่บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ส่วนที่เหลือจะส่งตามไปเรื่อยๆ

โครงการเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย กำลังผลิตไฟฟ้า 410 เมกะวัตต์ เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2556 มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2562

ก่อสร้างโดยบริษัท พีเอ็นพีซี เซเปียน-เซน้ำน้อย พาวเวอร์ ซึ่งเป็นการร่วมทุนของ บริษัท เอสเคเอ็นจิเนียริ่งและคอนสตรัคชั่น (SK Engineering and Construction) ถือหุ้น 26 % บริษัท โคเรีย เวสเทิร์น พาวเวอร์ (Korea Western Power) ถือหุ้น 25 % บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี ถือหุ้น 25% และบริษัท รัฐวิสาหกิจหุ้นลาว (LHSE) ถือหุ้น 24% มูลค่าโครงการทั้งหมดกว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยไฟฟ้า 90 เปอร์เซ็นต์ที่ผลิตได้จะถูกส่งมาขายในประเทศไทย