ชวนสั่งสอบ 'มงคลกิตติ์' ฐานอ้างว่านำระเบิดเข้ามาทดสอบเครื่องสแกนสภา
2019.10.30
กรุงเทพฯ
ในวันนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ได้อ้างว่าได้นำสารองค์ประกอบวัตถุระเบิด เข้ามายังพื้นที่รัฐสภาเพื่อทดสอบเครื่องสแกนซึ่งไม่สามารถตรวจจับได้ว่า ตนขอตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวก่อนว่าผิดกฎหมายข้อใดหรือไม่
นายชวน กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวว่า ในเบื้องต้นจะติดตามว่าเรื่องดังกล่าวมีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะไม่ได้มีการขออนุญาตในการนำสารประกอบวัตถุระเบิดเข้ามาในพื้นที่รัฐสภา
“ยังไม่ขอวินิจฉัยเรื่องนี้ เนื่องจากยังจะต้องตรวจสอบก่อนว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมายใดหรือไม่” นายชวน กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว และยืนยันว่าระบบการรักษาความปลอดภัยของสภาเป็นไปตามมาตรฐาน
หลังจากนั้น นายชวน ได้เชิญ นายสุชาติ โรจน์ทองคำ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เข้าชี้แจงถึงกรณีนายมงคลกิตติ์ ที่อ้างว่าได้นำสารตั้งต้นวัตถุระเบิดเข้ามาในพื้นที่อาคารรัฐสภา เพื่อทดสอบเครื่องตรวจวัตถุระเบิด และได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาดำเนินการกับนายมงคลกิตติ์ เนื่องจากหากเป็นวัตถุระเบิดจริง อาจก่อให้เกิดความรุนแรงและความเสียหายได้ พร้อมย้ำทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยว่าให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยให้รัดกุมยิ่งขึ้น โดยห้ามมิให้เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก
ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวกับสื่อมวลชนขณะแถลงข่าวการรับมอบเครื่องตรวจวัตถุระเบิดรุ่นใหม่จากบริษัทในสหรัฐอเมริกา และส่งมอบต่อให้รัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 2 เครื่อง เพื่อใช้ในการทดสอบการรักษาความปลอดภัยในการประชุมอาเซียนที่จะมีขึ้นในปลายสัปดาห์นี้ว่า ตนรู้สึกเป็นกังวล หลังได้ทราบข่าวจากฝ่ายความมั่นคงว่าจะมีผู้ก่อการร้ายเข้ามาในพื้นที่ภาคใต้เวลานี้ ประมาณ 100 กว่าคน
“ที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่เคยมีเครื่องตรวจวัตถุระเบิด และ 2 เครื่อง ที่จะส่งมอบนี้ เคยทดสอบที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว มีรัศมีตรวจระเบิด TNT ครึ่งปอนด์ ในระยะ 8 เมตร หากปริมาณ 1 กรัม ใช้เวลาตรวจจับประมาณ 30 วินาที โดยวันนี้ ได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD ให้นำระเบิด TNT เข้ามาในรัฐสภา ปรากฏว่าเครื่องตรวจในสภาฯ ไม่สามารถตรวจพบได้ แสดงว่ารัฐสภาแห่งนี้ไม่ได้มีความปลอดภัย” นายมงคลกิตติ์ ระบุ
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อด้วยว่า ทีม EOD ได้นำระเบิดดังกล่าว เข้าไปในห้องทำงานของตน ซึ่งอยู่กลางฐานรากห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ หมายความว่า ใครก็ได้สามารถนำระเบิดมาวางใต้ฐานที่ประชุมสภาฯ ได้เลย หากไม่มีเครื่องตรวจระเบิดที่มีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้ปฏิเสธข่าวกรณีที่นายมงคลกิตติ์ ระบุว่าจะมีชายฉกรรจ์เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อหวังสร้างสถานการณ์ช่วงประชุมอาเซียนว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว
“ขอยืนยันว่า ขณะนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงเตรียมการดูแลความปลอดภัยในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และความปลอดภัยของผู้นำต่างประเทศที่มาเยือนไทย รวมถึงการประชุมที่จะเกิดขึ้นในปีนี้กว่า 100 เวที จึงอยากให้ประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแลความเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยเฉพาะในช่วงประชุมที่มีผู้นำจากหลายประเทศเข้าร่วม เพราะถือเป็นภาพลักษณ์สำคัญของประเทศ” พล.ท.คงชีพ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว