ศาลจำคุกเณรคำอีก 16 ปี ฐานพรากผู้เยาว์-อนาจาร
2018.10.17
กรุงเทพฯ

ในวันนี้ ศาลอาญาพิพากษาให้จำคุกนายวิรพล สุขผล หรือ อดีตหลวงปู่เณรคำรวม 16 ปี ในความผิดฐานพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร โดยให้นับโทษต่อจากคดีฉ้อโกงที่ศาลมีคำพิพากษาก่อนหน้าให้จำคุกไว้ 20 ปี โดยศาลเห็นว่าพฤติการณ์ของนายวิรพล เป็นเรื่องร้ายแรง เนื่องจากใช้ความเชื่อจากศรัทธามาใช้ประกอบการกระทำผิดส่งผลให้ศาสนามัวหมอง
นายวิรพล สุขผล อายุ 39 ปี หรืออดีตพระวิรพล ฉีตติโก รู้จักกันในนามหลวงปู่เณรคำ ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมายังศาลอาญารัชดา เพื่อฟังคำพิพากษาคดีกระทำอนาจาร จากการที่นายวิรพล พรากเด็กหญิงวัย 13 ปีเศษ ไปจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครองเพื่อการอนาจารและกระทำชำเรานาน 2 ปี จนมีบุตรด้วยกัน 1 คน เหตุเกิดที่ จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี เกี่ยวพันกันช่วงระหว่างปี 2543-2544 ซึ่งนายวิรพล ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และปฏิเสธการตรวจดีเอ็นเอ เพื่อใช้เทียบกับเด็กที่เกิดขึ้นด้วย
“นายวิรพลกระทำผิดจริงตามฟ้อง โดยอาศัยตำแหน่งพระภิกษุ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ทำให้ศาสนามัวหมอง พิพากษาลงโทษสถานหนัก ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277, 317 ให้ลงโทษ จำคุกในข้อหาพรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร เป็นเวลา 8 ปี และกระทำชำเราบุคคลที่ไม่ใช่ภรรยาตัวเอง เป็นเวลา 8 ปี รวมจำคุก 16 ปี โดยให้นับโทษต่อจากคดีฉ้อโกงประชาชนที่ศาลพิพากษา ให้จำคุก 20 ปี เเล้ว รวมจำคุกทั้งสองคดีเป็นเวลา 36 ปี” คำพิพากษา ระบุ
โดยศาลระบุว่า ได้พิเคราะห์จากพฤติกรรมของนายวิรพล มีการเกี้ยวพาราสีผู้เสียหาย ขับรถมารับผู้เสียหายที่หน้าโรงเรียน แล้วพาไปส่งที่บ้านหลายครั้ง พากันไปมีเพศสัมพันธ์ในที่ต่างๆ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากยายซึ่งเป็นผู้ปกครอง แม้ผู้เสียหายซึ่งขณะนั้นเป็นผู้เยาว์จะยินยอมก็ตาม ประกอบกับผลตรวจดีเอ็นเอที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้นำบุหรี่ เศษจีวร และพระเครื่องของนายวิรพล ไปตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับบุตรชายของผู้เสียหาย พบว่ามีความสัมพันธ์เป็นบิดากับบุตรจริง
ในวันนี้ ผู้เสียหายที่ถูกกระทำอนาจารในคดีนี้ ได้มาร่วมฟังคำพิพากษาด้วย และยืนยันว่านายวิรพล กระทำความผิดจริงขณะที่ยังคงสมณะเป็นสงฆ์ และขณะนี้ บุตรชายมีอายุ 16 ปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ นายวิรพลเคยส่งเสียเลี้ยงดูให้เงินเดือนละ 10,000 บาท แต่หลังจากนายวิรพลถูกดำเนินคดี ก็ไม่ส่งเงินมาช่วยเหลืออีกเลย ทำให้ต้องยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเรียกร้องค่าดูแลบุตรเป็นเงิน 40 ล้านบาท เมื่อเดือนกันยายน ปี 2556 ซึ่งศาลฯ มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบชั่วคราว จนกว่าศาลอาญามีคำพิพากษาในคดีพรากผู้เยาว์นี้ก่อน
ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น ประชาชนที่ยังคงศรัทธาในอดีตหลวงปู่เณรคำที่มาร่วมฟังคำพิพากษาในห้องพิจารณาคดี วันนี้ประมาณ 20 คน เข้ามาให้กำลังใจ บางคนนำพวงมาลัยมามอบให้พร้อมแสดงความเคารพต่ออดีตพระวิรพลอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ นายวิรพล ถูกศาลพิพากษาให้จำคุกรวม 114 ปี ในความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ความผิดฐานฟอกเงิน และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน พร้อมชดใช้เงินให้กับผู้เสียหายจำนวน 29 คน แต่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 วงเล็บ 2 จำคุกได้สูงสุด 20 ปี ขณะที่ ศาลแพ่งมีคำสั่งยึดทรัพย์นายวิรพลไปแล้วรวมกว่า 43 ล้านบาท