ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโทษประหาร 2 แรงงานเมียนมา คดีเกาะเต่า

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2017.03.01
กรุงเทพฯ
TH-defendant-1000 นาย ซอ ลิน หนึ่งในสองผู้ต้องหาชาวพม่า นั่งในรถ นอกศาลจังหวัดเกาะสมุย เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2558
เอเอฟพี

ในวันพุธ (1 มีนาคม 2560) นี้ ศาลจังหวัดเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีฆ่าสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า โดยให้ยืนโทษประหารชีวิต นายซอ ลิน จำเลยที่ 1 และนายเว พิว จำเลยที่ 2 สองแรงงานชาวเมียนมาตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น เนื่องจากศาลเห็นว่า เหตุผลที่ฝ่ายจำเลยใช้อุทธรณ์มีน้ำหนักไม่เพียงพอ โดยขั้นต่อไปทนายฝ่ายจำเลยจะได้ส่งสำนวนเพื่อยื่นขอฎีกาต่อไป

นายนคร ชมพูชาติ หัวหน้าคณะทนายความฝ่ายจำเลย เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ ในวันนี้ว่า ตนเองเพิ่งทราบว่าศาลอุทธรณ์นัดอ่านคำพิพากษาให้โจทก์ฟังในวันพุธนี้จากสื่อมวลชน และเมื่อตนส่งคนไปขอดูข้อมูล ทราบว่า ในวันนี้ เป็นการอ่านคำพิพากษาต่อโจทก์เท่านั้น ส่วนจำเลยทั้งสอง ที่ถูกจำคุกที่เรือนจำบางขวาง ได้ฟังคำพิพากษาจากศาลไปล่วงหน้าแล้วตั้งแต่วันที่ 23 เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

“ผมทราบจากสื่อว่าจะมีการอ่าน ก็ไม่ทราบว่าอ่านกันแล้วหรือ จำเลยก็อยู่ที่นนทบุรีนี่ อ่านกันได้อย่างไร พอเช็คไปแล้วถึงรู้ว่า อ่านที่ศาลจังหวัดเกาะสมุยให้โจทก์ฟังเท่านั้น ผมก็ส่งคนไปดูสำนวน จึงรู้ว่าอ่านให้จำเลยตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาฯ แล้ว ทนายยังไม่เห็น จำเลยก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอก ไม่รู้อ่านภาษาไทยแล้วมีล่ามแปลหรือเปล่า” นายนครกล่าว

ในเรื่องนี้ นายนคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองยังไม่เห็นคำพิพากษาฉบับเต็ม อย่างไรก็ดี คณะทนายความจะได้ประชุม และเขียนสำนวน เพื่อยื่นขอต่อสู้คดีในชั้นศาลฎีกาภายในระยะเวลา 30 วัน

“ขั้นต่อไป เตรียมฎีกา อ่านคำพิพากษา วิเคราะห์คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ละเอียด แล้วเตรียมฎีกา เสร็จเมื่อไหร่ก็ยื่น ดีที่สุดก็ค่อยยื่น ไม่ทันก็ขอขยาย แต่ถ้าศาลไม่ให้เลื่อนก็ 30 วัน” นายนครกล่าว

สำหรับเนื้อคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ ภาค 8 ที่ยืนตามศาลชั้นต้นส่วนหนึ่งมีดังนี้ว่า ส่วนอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง ที่อ้างว่าโจทก์ไม่มีเอกสารและภาพถ่ายในขั้นตอนการจัดเก็บวัตถุพยาน การบรรจุปิดผนึก การส่งและรับวัตถุพยาน และการตรวจสอบวัตถุพยานบางขั้นตอนมาเป็นพยานนั้น ศาลเห็นว่าในการปฎิบัติหน้าที่เกี่ยวกับคดี นับแต่พนักงานสอบสวนรับแจ้งเหตุ เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ อันเป็นจุดเริ่มต้นของการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานไปจนถึงการตรวจพิสูจน์เสร็จสิ้น ผู้ตรวจพิสูจน์ออกรายงานส่งให้พนักงานสอบสวน มีเหตุการณ์ขั้นตอนที่ต้องดำเนินการหลายขั้นตอน การทำเอกสาร ถ่ายภาพเหตุการณ์ และขั้นตอนต่างๆ ทั้งหมด เพื่อเก็บไว้ย่อมเป็นไปไม่ได้

การที่โจทก์ไม่ได้เตรียมเอกสารหรือภาพถ่ายของเหตุการณ์บางขั้นตอน เช่น ไม่ส่งภาพขณะที่ตรวจเก็บวัตถุพยานจากช่องคลอด ทวารหนัก และหัวนมของผู้ตายมาเป็นพยาน จึงไม่เป็นข้อพิรุธที่จะระแวงว่าเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ปฎิบัติงานในขั้นตอนในการตรวจเก็บนั้น เพราะสิ่งที่ทำให้ศาลเชื่อหรือไม่เชื่อพยานหลักฐานของโจทก์นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาพถ่ายภาพหนึ่งภาพใด หรือเอกสารฉบับหนึ่งฉบับใดของเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง หรือขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งเท่านั้น แต่ศาลเชื่อพยานหลักฐานของโจทก์โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานทั้งปวงที่โจทก์นำสืบมาทั้งหมดว่ามีเหตุผลเชื่อมโยง มั่นคงหนักแน่น จนแน่ใจว่ามีการกระทำผิดจริง และจำเลยทั้งสองเป็นผู้กระทำความผิดนั้นโดยปราศจากความสงสัยใดๆ

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้วข้างต้น สำหรับเหตุผลอื่นๆ ตามอุทธรณ์ข้ออื่นของจำเลยทั้งสองไม่เป็นสาระ และไม่ทำให้ผลแห่งคำพิพากษาเปลี่ยนแปลงไป จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองมานั้น ศาลอุทธรณ์ ภาค 8 เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเกาะสมุยจึงได้อ่านคำตัดสินศาลอุทธรณ์ที่พิจารณาตามศาลชั้นต้นคือให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง

ในวันที่ 15 ก.ย. 2557 มีผู้พบศพนายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ และน.ส.ฮานนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ สองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เสียชีวิตจากการถูกของแข็งทุบตี และผู้เสียชีวิตเพศหญิงมีร่องรอยการถูกข่มขืน โดยทั้งคู่ถูกพบที่หาดทรายรี ม.1 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี 2 โดย 2 สัปดาห์ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน คือนายซอ ลิน และเว พิว สองแรงงานชาวเมียนมาที่เคยทำงานอยู่บนเกาะเต่า หลังจากการสอบสวน และรวบรวมหลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งคู่ให้กับพนักงานอัยการในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น

24 ธ.ค. 2558 ศาลจังหวัดเกาะสมุยได้อ่านคำพิพากษาว่า นายซอ ลิน จำเลยที่ 1 และนายเว พิว จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289 (7), 276 วรรคสาม ประกอบมาตรา 83 และจำเลยที่ 2 ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (1) วรรคแรก และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 12 (1), 18 วรรคสอง, 62 วรรคหนึ่ง อีกกระทงหนึ่ง การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดต่อไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันฆ่าผู้ตายที่ 1 ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง ฐานร่วมกันฆ่าผู้ตายที่ 2 เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง โดยทนายฝ่ายจำเลยได้ยื่นขออุทธรณ์ในวันที่ 23 พ.ค. 2559

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง