สตม.แถลงจับชาวปากีฯ ปลอมพาสปอร์ต อาจโยงไอเอส
2018.01.19
กรุงเทพฯ

พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมด้วย พล.ต.ต. อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายโมฮัมหมัด อิคบาล (MOHAMMAD IQBAL) อายุ 52 ปี สัญชาติปากีสถาน ในวันศุกร์นี้ ในข้อหาผลิตหนังสือเดินทางปลอมเพื่อจำหน่าย พบว่ามีลูกค้าอยู่ในประเทศแถบตะวันออกกลางในหลายสาขาอาชีพ ทั้งอาชญากรทุกรูปแบบ อาจรวมถึงสมาชิกกลุ่มอุดมการณ์รัฐมุสลิมหรือไอเอส
“อย่าเพิ่งไปมองว่าเป็นกลุ่มไอเอสอย่างเดียว พวกผลิตทำตามออร์เดอร์ ส่งให้พวกนักค้าซึ่งมันกระจายออกไปในทุกกลุ่มสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะไอเอส หรือ โจรกรรม หรือ กลุ่มอาชญากรรมทุกรูปแบบ อย่าเพิ่งไปมองอย่างนั้นอย่างเดียว มันไม่จำเป็นต้องเป็น ไอเอส เขาทำตามออร์เดอร์ เรามีหน้าที่ป้องกัน สืบสวนจับกุม เพื่อให้มันลดน้อยลง” พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม. กล่าวกับผู้สื่อข่าว
นายโมฮัมหมัด อิคบาล (MOHAMMAD IQBAL) อายุ 52 ปี สัญชาติปากีสถาน ถูกเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองร่วมกับศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย เข้าจับกุมเมื่อวันอาทิตย์ (14 มกราคม) ที่ผ่านมา พร้อมด้วยของกลางเป็นพาสปอร์ตประเทศสิงคโปร์จำนวน 3 เล่ม และประเทศอินเดีย 1 เล่ม อุปกรณ์ในการผลิต จำหน่ายหนังสือเดินทางปลอมเป็นจำนวนมาก รวมถึง สติ๊กเกอร์วีซ่าปลอมที่ใช้เข้าประเทศต่างๆ เช่น แคนาดา ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน แผ่นพลาสติกลามิเนตปลอม เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการปลอมหนังสือเดินทาง ฯลฯ เป็นต้น
ทั้งนี้ นายอิคบาล รับสารภาพว่าทำจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม. จึงตั้งข้อหาปลอมแปลงหนังสือเดินทาง มีหนังสือเดินทางปลอมไว้เพื่อจำหน่าย และปลอมแผ่นปะตรวจลงตราสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ ขณะนี้ อยู่ระหว่างการควบคุมตัวเพื่อสอบสวนขยายผลไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อวันพุธ (17 มกราคม) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาลว่า การจับกุมนายอิคบาล ครั้งนี้ อาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการไอเอส โดยเชื่อว่านายอิคบาล จะเข้ามาดำเนินการเรื่องการทำวีซ่าให้กับกลุ่มขบวนการที่เหลือที่จะตามเข้ามาในอนาคต แต่ถูกจับกุมเสียก่อน อย่างไรก็ดี รองนายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เป็นผู้ร่วมขบวนการไอเอสจริงหรือไม่ ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงาน
“ลูกค้าหลักของกลุ่มนี้เป็นบุคคลกลุ่มเป้าหมาย เป็นคนตะวันออกกลาง อย่าให้ระบุสัญชาติเลย อย่าเพิ่งไปบอกว่ามีหรือไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย ขณะนี้กำลังขยายผลอยู่ มันเป็นเรื่องความมั่นคงของประเทศ” พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. ให้สัมภาษณ์กับเบนาร์นิวส์
จากการสืบสวนขยายผลการจับกุมเครือข่ายปลอมหนังสือเดินทางเพื่อจำหน่าย ทั้งผู้ผลิตและผู้ค้า ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน พบว่า นายอิคบาล เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายหนังสือเดินทางปลอมรายใหญ่ ใช้ประเทศไทยเป็นที่พักพิงและเป็นฐานการผลิตเป็นเวลานานกว่า 10 ปี เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามความเคลื่อนไหวมาเป็นเวลานานจนมั่นใจ ก่อนเข้าจับกุม
“ที่จับได้เป็นหนังสือเดินทางประเทศสิงคโปร์ เพราะใช้เข้าได้หลายประเทศ แต่ส่วนใหญ่ที่เขาทำคือ หนังสือเดินทางประเทศฝรั่งเศส อิตาลี เพราะคนตะวันออกกลางจะมีหน้าตาเหมือนคนในประเทศพวกนี้ เวลาลักลอบเข้าไปในประเทศแถบยุโรป ก็ง่าย” พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว
พล.ต.ต. อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. กล่าวเสริมว่า หนังสือเดินทางปลอมมีสองแบบ แบบแรกเป็นการผ่าเล่ม คือ เป็นหนังสือเดินทางเล่มจริง รูปจริง ทุกอย่างจริงหมด แต่อาจจะหมดอายุ แล้วเจ้าของให้นำมาผ่าเล่มแล้วยัดใส้ปลอมเข้าไป ซึ่งมูลค่าการทำในประเทศไทยจะถูกมาก แต่เมื่อส่งไปถึงปลายทางในประเทศยุโรปจะมีมูลค่ามากกว่า 100,000 บาท ส่วนหนังสือเดินทางปลอมแบบที่สอง เป็นการทำใหม่ทั้งหมดจากวัสดุในประเทศไทย ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 18,000 – 20,000 บาทต่อหนึ่งเล่ม