จับประธานอิตาเลียนไทย ล่าเสือดำ พร้อมอาวุธปืนในเขตอนุรักษ์ฯ

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2018.02.06
กรุงเทพฯ
180206-TH-poaching-tycoon-620.jpg นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ถูกจับในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเศวร อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี คืนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561
ภาพโดย เจ้าหน้าที่ทุ่งใหญ่นเรศวร

นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ และพวกรวม 4 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิดตาม พรบ.ป่าไม้ และ พรบ.อาวุธปืน รวม 9 ข้อหา และนำตัวส่งฟ้องต่อศาลทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ในวันอังคาร (6 กุมภาพันธ์ 2561) หลังเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ตรวจพบนายเปรมชัย และพวก พร้อมด้วยของกลาง เป็นอาวุธปืน และซากเสือดำ ซึ่งเป็นสัตว์ห้ามล่า รวมถึงสัตว์ป่าอีกหลายชนิด ในพื้นที่ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ที่ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปตั้งแคมป์

นายเปรมชัย และพวก ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก่อนที่ศาลอนุญาตให้ประกันตัวด้วยวงเงินคนละ 150,000 บาท

“ชุดลาดตระเวนไปเจอตอนกำลังจะลั่นไก รวมทั้งพบร่องรอยหลักฐานที่ทิ้งไว้หลังล่าเสร็จ และพอล่าเสร็จแล้วนำหลักฐานไปซุกซ่อนไว้ใกล้ตัว ซึ่งพบซากสัตว์ป่า มีอยู่ในครอบครองในพื้นที่ที่เขาพักแรม เช่นไก่ฟ้าหลังเทา และสัตว์ป่าอื่นๆ” นายวิเชียร ชิณวงษ์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ในขณะกำลังร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน

“แจ้งข้อกล่าวหาต่อบุคคลทั้งสี่คน ประมาณเจ็ดถึงแปดข้อหา ส่วนใหญ่เป็นความผิดตาม พรบ.ป่าไม้ ถึงแม้ว่าการกระทำความผิดจะไม่ได้เกิดคาตา แต่วัตถุพยานที่ยึดได้แสดงความผิดไว้ ซึ่งสามารถจะมัดถึงตัวได้ ส่วน พรบ.อาวุธปืนเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ” หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ กล่าวเพิ่มเติม

นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี พร้อมพวกรวม 4 คน ถูกเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก เข้าควบคุมตัวในวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงปืนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ พบนายเปรมชัย กับพวก ตั้งเต็นท์พักในพื้นที่ที่ไม่อนุญาตให้ตั้งแคมป์ พร้อมของกลางเป็นซากเสือดำ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองในบัญชีที่หนึ่งของอนุสัญญาไซเตส (อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ - Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora - CITES) มีสถานะใกล้สูญพันธุ์ คาดว่ามีอายุเกินห้าปี น้ำหนักประมาณสิบกิโลกรัม ร่วมกับซากสัตว์ป่าคุ้มครองอื่นๆ และยังพบอาวุธปืนยาว (ปืนไรเฟิล) และเครื่องกระสุนจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้นำตัวนายเปรมชัยและพวก ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.อ.ทองผาภูมิ เพื่อดำเนินคดีโทษฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองฯ มีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองฯ นำเครื่องมือที่ใช้ในการล่าสัตว์ป่า หรือจับสัตว์ หรือ อาวุธใดๆ เข้าไปในพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่า เก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พรบ.ป่าไม้ 8 ข้อหา และพนักงานสอบสวนเพิ่มข้อหาตาม พรบ.อาวุธปืน อีก 1 ข้อหา รวมทั้งหมด 9 ข้อหา โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 คนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ในวันนี้ เจ้าหน้าตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ขึ้นรถไปฝากขังต่อศาลทองผาภูมิ โดยทนายความได้ยื่นขอประกันตัวต่อศาลด้วยเงินสดคนละ 150,000 บาท ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวทั้ง 4 ชั่วคราวระหว่างการสอบสวน หลังจากนั้น นายเปรมชัย และทนายความขึ้นรถเดินทางกลับกรุงเทพฯทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว

นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ บริษัทยักษ์ใหญ่ของวงการก่อสร้างลำดับต้นๆ ของประเทศไทย ได้รับสัมปทานระดับเมกะโปรเจคท์ ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนจำนวนมาก อาทิ สนามบินสุวรรรณภูมิ  โครงการรถไฟไทย-จีน โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สายสีส้ม สายสีแดง โครงการท่าเรือแหลมฉบัง เฟสสาม โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการบริหารจัดการน้ำ โดยปีที่ผ่านมา บมจ.อิตาเลียนไทย ได้รับโปรเจคขนาดใหญ่มูลค่ารวม 1.3 แสนล้านบาท รวมถึงโรงไฟฟ้าแม่เมาะมูลค่า 3.5 หมื่นล้าน และมีส่วนสำคัญในการผลักดันโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาล ในปี 2561 ทั้งหมดนี้ไม่นับรวมกับโครงการขนาดใหญ่ในต่างประเทศ

รัฐบาลสั่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

ในวันเดียวกัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีการดำเนินคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ในข้อหาลักลอบล่าสัตว์ป่าคุ้มครองว่า เป็นเรื่องผิดกฎหมาย ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ตนไม่มีอำนาจไปก้าวล่วง

“การลักลอบล่าสัตว์เป็นเรื่องผิดกฎหมาย ไม่ว่าใครก็ตามต้องถูกลงโทษ ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม... ตัดสินโดยศาลตามกระบวนการยุติธรรม ผมไม่มีอำนาจไปก้าวล่วง ให้ทุกส่วนดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา อย่ามาอ้างผม อ้างใครเอื้อประโยชน์ใคร” นายกฯ ระบุ

โดย พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายเต็มที่ กรณีการดำเนินคดีนายเปรมชัย ระบุว่า แม้ผู้กระทำความผิดจะเป็นนักธุรกิจดัง มีชื่อเสียง มีตำแหน่งทางสังคม ก็ไม่เกี่ยวกัน

“กฎหมายไม่มีใครใหญ่ ใครไม่ใหญ่ ใครนำพา ใครร่วมด้วย ใครเกี่ยวข้องก็จับให้หมด ไม่ได้มีปัญหา เรื่องนี้สบายใจได้ว่า เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย” รอง ผบ.ตร. กล่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง