คสช.แจ้งตำรวจ 10 แกนนำคนอยากเลือกตั้ง นำชุมนุมเสาร์ที่แล้ว

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2018.03.30
กรุงเทพฯ
180330-TH-demonstrators-620.jpg นายรังสิมันต์ โรม(เสื้อสีดำ) และแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ขณะอยู่บนรถปราศรัยหน้ากองทัพบกในการชุมนุมวันที่ 24 มีนาคม 2561
วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช/เบนาร์นิวส์

ในวันศุกร์นี้ พ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม เปิดเผยแก่เบนาร์นิวส์ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้าแจ้งความเอาผิดกับ 10 แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง จากการรวมตัวเดินขบวนจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มายังกองบัญชาการกองทัพบก เมื่อวันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2561

พ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน กล่าวว่า พันเอกบุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ ฝ่ายกฎหมายของคสช. เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษผู้จัดและแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง 10 คน ในข้อหาละเมิดคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ในการจัดให้มีการมั่วสุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข้อหายุยงปลุกปั่นตามกฎหมายอาญามาตรา 116 และความผิดอื่นๆ

“แจ้งความดำเนินคดีในเนื้อหาสาระที่ผู้ชุมนุมละเมิดคำสั่งของหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 3/2558 เป็นเรื่องมั่วสุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และ ม.116 เดินทางเท้าบนถนน ผิดเงื่อนไข พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ เดี๋ยวจะมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบมาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติม ฝ่าฝืนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าจะนัดวันที่ 9 เมษายน 2561 เฉพาะแกนนำกับผู้จัด 10 คน” พ.ต.อ.จักรกริศน์กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

สำหรับผู้จัดและแกนนำการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษในวันศุกร์นี้ประกอบด้วย นายกาณฑ์ พงษ์ประภาพันธ์, นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์, นายรังสิมันต์ โรม, น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา, นายธนวัฒน์ พรหมจักร, นายเอกชัย หงส์กังวาน, นายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ, นายอานนท์ นำภา, นายปกรณ์ อารีกุล และน.ส.ศรีไพร นนทรีย์

นายรังสิมันต์ โรม หนึ่งในแกนนำของกลุ่มฯ เปิดเผยแก่เบนาร์นิวส์ว่า แม้ถูกแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษจากการชุมนุมเรียกร้องการเลือกตั้ง แต่ตนเองและกลุ่มคนอยากเลือกตั้งจะยังเดินหน้ารณรงค์ให้เกิดการเลือกตั้งต่อไป โดยจะมีการชุมนุมในวันที่ 5, 12 และ 19-22 พฤษภาคม 2561 ซึ่งจะเป็นการชุมนุมใหญ่ในวาระครบรอบ 4 ปี การยึดอำนาจของ คสช.

“กิจกรรมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถูกคดีก็สู้ไป หลายคนก็คิดว่าจะโดนคดีอยู่แล้ว เราเรียกร้อง 3 ข้อ คือ ให้กองทัพบกเลือกข้างว่าจะอยู่ข้างประชาชนหรือข้าง คสช. ให้จัดการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ และสุดท้ายคือ ขอให้ยุบคสช. เรามองว่า คสช.สามารถแยกออกกับกองทัพได้ ถ้าวันนึงประชาชนต้องการไล่ คสช. แล้วถ้าทหารไม่แยกจาก คสช. ก็หมายความว่า ประชาชนก็ต้องไล่ทหารด้วย” นายรังสิมันต์กล่าว

ก่อนหน้านี้ ประชาชนซึ่งรวมตัวชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว ในนามกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เคยจัดชุมนุมมาแล้วหลายครั้ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2561 เช่น การชุมนุมที่ทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสสนามกีฬา การชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน การชุมนุมที่จังหวัดนครราชสีมา การชุมนุมที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และการชุมนุมย่อยอื่นๆ ซึ่งทำให้มีแกนนำและประชาชนบางส่วนถูกดำเนินคดีในข้อหาความผิด ขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 กฎหมายอาญามาตรา 116 และ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ

ต่อการเรียกร้องของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งให้กองทัพบก แยกจาก คสช. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยต่อสื่อมวลชนในสัปดาห์นี้ว่า คสช. ไม่สามารถแยกกับกองทัพได้ และรัฐบาลจะจัดการเลือกตั้งตามโรดแมปอยู่แล้ว

“บ้านเมืองกำลังเดินไปตามโรดแมปที่กำหนดไว้แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ว่าจะเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์... กองทัพมันก็อยู่ในคสช. อันเดียวกันอยู่แล้ว” พล.อ.ประวิตรกล่าว

ส่วน  กรณีพรรคการเมืองประชุม เมื่อต้นสัปดาห์ กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)โดยมีการเรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งคสช.เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าว ตามรายงานจากบางกอกโพสต์วันนี้ ว่า ที่ผ่านมาเคยบอกแล้วว่า การยกเลิกคำสั่งคสช.นั้น ต้องมีแน่นอน

"แต่ตอนนี้ต้องรอให้พรรคใหม่ ตั้งพรรคให้เรียบร้อยก่อน เพื่อให้ทุกพรรคเดินไปพร้อมกัน ในเดือนมิ.ย.นี้"

เมื่อถามว่า การปลดล็อกให้พรรคต้องมีเงื่อนไข เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เห็นมีอะไรที่พรรคขัดแย้งกัน

ขณะเดียวกันวานนี้ มีการเปิดเผยข้อมูลจากสื่อมวลชนญี่ปุ่นว่า นายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สองอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นผู้หลบหนีการลงโทษจำคุกในประเทศไทย ได้เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นเพื่อร่วมงานเปิดตัวหนังสือของ นายฮาจิเมะ อิชิอิ อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยญี่ปุ่น ซึ่งพลเอกประวิตร ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังติดตามตัวอยู่

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง