ครอบครัวข้องใจนักโทษคดีความมั่นคงตายระหว่างติดคุกนราธิวาส

ในวันอังคารนี้ ครอบครัวของนายอารซู เวาะงอย ผู้ต้องขังคดีความมั่นคงซึ่งเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวที่จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2561 เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการเสียชีวิตนายอารซู เนื่องจากสงสัยในกระบวนการนำส่งและระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์

นายอารซู ถูกตัดสินจำคุกในวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 จากคดีร่วมกันก่อการร้ายอั้งยี่ ซ่องโจร พยายามฆ่าเจ้าพนักงานโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพกอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลตัดสินคดีจำคุก 2 ปี ถูกควบคุมตัวที่เรือนจำกลางจังหวัดนราธิวาส และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2561 จากอาการปอดติดเชื้อ และเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2561

นายอารือมัน เวาะงอย สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลจวบ พี่ชายของนายอารซู เปิดเผย ที่บ้านเลขที่ 235 ม.8 บ้านไอปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ว่า ในฐานะสมาชิกครอบครัว รู้สึกมีข้อสงสัยกับการเสียชีวิตของน้องชาย เนื่องจากเชื่อว่ามีการดำเนินการล่าช้า จนทำให้นายอารซูเสียชีวิต

“ตั้งข้อสังเกตว่า กรณีน้องชายป่วยในเรือนจำ ไอออกเลือด ทำไมทางเรือนจำไม่นำไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในพื้นที่ทันที ทางหมอได้สั่งให้ทางเรือนจำรีบนำน้องชายเข้ารับการรักษาด่วน แต่ทำไมเรือนจำปล่อยให้เวลาล่วงเลย 1 เดือนเต็ม จนน้องชายมีอาการทรุดหนักถึงส่งโรงพยาบาล” นายอารือมัน กล่าว

นายอารือมัน ระบุว่า นายอารซู ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 2 ปี และอยู่ระหว่างการสู้คดีในชั้นอุทธรณ์

“ก่อนหมดเวลาเยี่ยม พยาบาลก็ยืนยันเต็มปากว่า ผู้ป่วยมีอาการทรงตัว แต่เพียงแค่ 20 นาที น้องชายกลับสิ้นใจตาย ได้รับคำตอบจากพยาบาลว่า ไม่ทราบว่าสายยางเครื่องช่วยหายใจหลุดจากปากคนไข้ได้อย่างไร ทำให้หน้าจอมอนิเตอร์ดับได้อย่างไร อาจเป็นสาเหตุที่น้องชายตายจากไปอย่างกะทันหัน มันเกิดอะไรขึ้นกับโรงพยาบาลแห่งนี้” นายอารือมัน กล่าว

ขณะเดียวกัน นางสาวรัตติกา สามะ ภรรยาของนายอารซู เปิดเผยว่า นายอารซู มีอาการป่วยหนักตั้งแต่ถูกควบคุมตัวในเรือนจำ จึงได้ประสานศูนย์ทนายมุสลิมนราธิวาส เพื่อให้ประสานช่วยเหลือ กระทั่งภายหลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

“สามีไม่สบายหนัก ไอเป็นเลือด ตอนไปเยี่ยมเขาบอกตลอดว่า ป่วยไม่มีแรงจะลุกเดิน เลยไปหาศูนย์ทนายมุสลิม นราธิวาส และเล่าอาการให้ฟังเพื่อขอความช่วยเหลือ จนวันหนึ่ง เรือนจำนำสามีไปตรวจที่โรงพยาบาล และวินิจฉัยว่าเป็น วัณโรค รู้สึกตกใจเพราะ เขาไม่สูบบุหรี่ แต่คิดว่ารักษาหาย หลังจากนั้น มีการสั่งห้ามเยี่ยม 1 เดือน จนพบว่า สามีอยู่ที่โรงพยาบาล” นางสาวรัตติกา กล่าว

“เมื่อถึงโรงพยาบาลพบว่าสภาพร่างกายน่าตกใจ ซูบผอม และหน้าบวม วันแรกสามีนอนพักฟื้นที่ห้องรวมคนไข้ทั่วไป หลังจากนั้น 3 วัน อาการหนักขึ้น แพทย์ได้ย้ายเข้าพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจมาโดยตลอด เมื่ออาการดีขึ้นจึงถูกย้ายมาห้องรวม กระทั่งเสียชีวิต” นางสาวรัตติกา กล่าวเพิ่มเติม

ด้าน นายธรณ์ธันย์ บัวกิ่ง ผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของนายอารซูว่า ได้นำนายอารซู เข้ารับการรักษาตัวหลังจากมีอาการความดันโลหิต แต่แพทย์ระบุว่า ได้เสียชีวิตจากอาการปอดติดเชื้อ

“เขาป่วยอยู่แล้วเป็นความดันโลหิต พอเขาไม่สบาย เรือนจำก็ส่งเขาไปรักษาตัว ต่อมาภาวะหัวใจล้มเหลวอย่างรุนแรง จึงเสียชีวิต เวลา 21.00 น. ของวันที่ 6 ธันวาคม 2561 หมอบอกว่า สาเหตุการตายเพราะปอดติดเชื้อ” นายธรณ์ธันย์ กล่าว

นายธรณ์ธันย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากแจ้งให้ญาติทราบ ญาติไม่ได้ติดใจอะไร นายไซนูเด็ง เวาะงอย น้องชายของนายอารซู ก็ยืนยันว่าครอบครัวไม่ได้ติดใจ มีการลงชื่อก่อนนำศพกลับไปประกอบพิธี โดยนายอารซูถือเป็นผู้ต้องขังที่เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวรายแรกของเรือนจำ