ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าว ไทยสหรัฐเห็นพ้องกัน ให้ไทยเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2015.12.16
TH-russell-620 นายอภิชาติ ชินวรรโณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ร่วมแถลงข่าวกรอบการหารือยุทธศาสตร์ ไทย-สหรัฐฯ ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2558
เบนาร์นิวส์

นายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ด้านกิจการภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ได้กล่าวในวันพุธ (16 ธ.ค. 2558) นี้ว่า สิ่งหนึ่งที่ประเทศไทยและสหรัฐอเมริกาเห็นพ้องต้องกันคือ การนำประเทศคืนสู่ระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

นายรัสเซล ได้มาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งที่สองในรอบปี ในครั้งนี้มาเพื่อร่วมหารือในกรอบยุทธศาสตร์ ไทย-สหรัฐฯ ครั้งที่ 5 โดยได้เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในตอนเช้าอีกด้วย

ภายหลังการหารือตามกรอบยุทธศาสตร์ ไทย-สหรัฐฯ ครั้งที่ 5 ที่กระทรวงการต่างประเทศเสร็จสิ้นลงในช่วงบ่าย นายอภิชาติ ชินวรรโณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนายแดเนียล รัสเซล ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงผลการหารือ และได้ตอบคำถามสื่อมวลชนในเรื่อง ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ ที่ตกต่ำมาตั้งแต่การรัฐประหารรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในปี 2557

“พลเอกประยุทธ์ได้เปิดโอกาสให้ผมมีส่วนร่วมในการรับฟังเสนอความคิดเห็นถึง ความหวัง เป้าหมาย ความห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย และการสร้างความคืบหน้า ในความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐ ซึ่งมีบางอย่างที่ยังไม่สามารถเห็นพ้องต้องกันได้” นายรัสเซลกล่าว

“มีสิ่งหนึ่งที่เรามีความเห็นร่วมกันคือ เรื่องความสำคัญของประชาชนไทยที่ต้องเดินไปสู่อนาคตที่มีเสถียรภาพ มีความมั่นคง ซึ่งจะป็นเส้นทางนำไปสู่รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยที่มีพลเรือนเป็นหัวหน้าคณะรัฐบาล” นายรัสเซลกล่าวเพิ่มเติม

นายรัสเซลเดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นเวลาสองวัน ในวันที่ 16 ถึง 17 ธ.ค. นี้ เพื่อหารือในกรอบยุทธศาสตร์ ไทย-สหรัฐฯ ครั้งที่ 5 ที่ครอบคลุมหัวข้อความร่วมมือระหว่างกันในทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องสุขภาพ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เศรษฐกิจ การทหาร และสิทธิในการบินเหนือน่านฟ้าทะเลจีนใต้ เป็นต้น โดยการประชุมในครั้งนี้ห่างจากครั้งที่ 4 ที่มีขึ้นเมื่อ ปี 2555 เนื่องจากสถานการณ์ภายในประเทศไทย

นายแดเนียล ยังได้ตอบคำถามถึงเรื่องสิทธิมนุษยชนในไทยว่า “เรื่องสิทธิมนุษยชนไม่ใช่เรื่องเฉพาะของไทยหรือของสหรัฐ แต่เป็นเรื่องสากล เป็นเสรีภาพที่ทุกคนต้องการ และควรจะได้รับเสรีภาพนั้น”

“นั่นคือความปรารถนาของเราและเป็นสิทธิของประชาชนแห่งราชอาณาจักรไทย ที่ต้องได้รับการยอมรับในการผสมผสานกับการมีรัฐบาลพลเรือนที่เป็นประชาธิปไตยที่มีเสถียรภาพ” นายแดเนียลกล่าว

นายรัสเซลกล่าวว่า แน่นอนว่าตนเองได้ฟังการอธิบายถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยจากพลเอกประยุทธ์ อย่างตั้งใจ รวมทั้งบทบาทของท่านที่จะนำประเทศกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย

“ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นมิตรกับประเทศไทย เรายืนเคียงข้างคนไทย เรายืนอยู่ข้างประเทศไทย เราต้องการเห็นประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน มีความมั่นคง มีเสถียรภาพ รุ่งเรือง และมีอิทธิพล ซึ่งประเทศไทยมีบทบาทที่สำคัญต่อภูมิภาคและต่อเวทีโลก” นายรัสเซลกล่าว

พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวภายหลังการพบปะของ พลเอกประยุทธ์ และนายรัสเซล ในวันนี้ว่า “จะเข้าใจสถานการณ์ประเทศไทยได้ ต้องย้อนกลับไปดูการเมืองในอดีตว่า เกิดอะไรขึ้น จะทำให้เข้าใจปัจจุบัน มองอนาคตได้อย่างชัดเจน ขอให้มองประเทศไทย อย่ามองที่ตัวบุคคล ไม่ต้องเชื่อ แต่ขอให้ไปศึกษาเพิ่มเติม โดยนายกฯ ได้บอกว่าไทยได้ผ่านอะไรมาบ้าง”

ด้านนายอภิชาติ ชินวรรโณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การหารือครั้งนี้ สะท้อนสถานการณ์เชิงบวกของประเทศทั้งสอง โดยได้รักษาธรรมเนียมในการหารือที่เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา มุ่งเน้นความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และสร้างสรรค์

“ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า ไทยในฐานะเราเป็นพันธมิตรคู่สนธิสัญญาที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐในเอเชีย ความสัมพันธ์ของไทย-สหรัฐก็เป็นตัวแปรสำคัญที่จะธำรงค์ไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค และเป็นปัจจัยสำคัญต่อยุทธศาสตร์ ปรับสมดุลสู่ภูมิภาคเอเชียของสหรัฐ”

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง