คนพุทธค้านการอนุญาตสวมฮิญาบเข้าเรียนอนุบาลปัตตานี

มารียัม อัฮหมัด
2018.05.23
ปัตตานี
180523-TH-hijab-650.jpg นักเรียนโรงเรียนอนุบาลปัตตานีมอบดอกไม้ให้กับนายประจักษ์ ชูศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลปัตตานี เพื่อขอบคุณที่อนุญาตให้สรวมฮิญาบได้ วันที่ 21 พ.ค.2561
มารียัม อัฮหมัด/เบนาร์นิวส์

ในวันพุธนี้ ชาวพุทธกว่า 300 คน รวมตัวประท้วงที่วัดนพวงศาราม ในอำเภอเมือง ปัตตานี ต่อการที่กระทรวงศึกษาธิการอนุญาตให้นักเรียนชาวไทยมุสลิมแต่งกายแบบอิสลาม เข้าเรียนในโรงเรียนอนุบาลปัตตานี (โรงเรียนวัดนพวงศาราม) เนื่องจากเชื่อว่า เป็นการขัดกับเจตนารมย์ดั้งเดิมของเจ้าอาวาสที่มอบที่ดินวัดให้สร้างโรงเรียน

การประท้วงครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2561 นายดาลัน นุงอาหลี ศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี และนายประจักษ์ ชูศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลปัตตานี ได้แถลงร่วมกันว่า กระทรวงศึกษาธิการมีคำสั่งให้นักเรียนชายและหญิงของโรงเรียนอนุบาลปัตตานี สามารถสวมเครื่องแบบนักเรียนในแบบอิสลามเข้าเรียนได้ ตามกฎของกระทรวงศึกษาธิการ คือ นักเรียนชายใส่กางเกงขายาว และนักเรียนหญิงใส่ผ้าคลุมผม (ฮิญาบ) เข้าเรียนได้

โรงเรียนอนุบาลปัตตานี (โรงเรียนวัดนพวงศาราม) มีนักเรียนทั้งหมดกว่า 1000 คน และร้อยละ 40 เป็นนักเรียนไทยมุสลิม

คำสั่งดังกล่าวเป็นการขัดกับมติการประชุมร่วมระหว่างผู้อำนวยการโรงเรียน ตัวแทนสงฆ์ ผู้นำศาสนาอิสลาม และตัวแทนผู้ปกครองชาวไทยมุสลิม เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 ที่ไม่อนุญาตให้นักเรียนแต่งกายแบบอิสลามเข้าเรียน เนื่องจากเชื่อว่าไม่ควร เพราะโรงเรียนเป็นที่ธรณีสงฆ์ จนมีผู้ปกครองชาวไทยมุสลิมกว่า 50 คน รวมตัวประท้วงที่หน้าโรงเรียน

พระสิริจริยาลังการ เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี (มหานิกาย) กล่าวว่า จากกรณีความขัดแย้ง มีคำสั่งให้ใช้กฎระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบธรรมด้วยหลักของความยุติธรรม และใช้อำนาจเกินขอบเขต เพราะโรงเรียนแห่งนี้มีสัญญาการขอยืมใช้พื้นที่ธรณีสงฆ์ของวัดนพวงศารามว่า ให้เจ้าอาวาสดูแล และเป็นผู้ให้ความเห็นชอบในทุกกรณีของโรงเรียน

“เจตนารมณ์ของอดีตเจ้าอาวาสที่ได้วางเอาไว้แล้วร่วม 50 ปี ไม่มีความขัดแย้งใดๆ แต่ครั้งนี้ มีผู้ประสงค์ให้มีการยกเลิกเจตนารมย์ ที่ให้กุลบุตรกุลธิดาได้ศึกษาอยู่ร่วมกันอย่างปกติ ไม่ให้มีการแต่งกายแปลกแยกออกไป นักเรียนมีความสุขในการอยู่ร่วมกันแบบไม่มีข้อแปลกแยกด้านกายภาพ เจตนานี้ก่อให้เกิดสันติสุขในโรงเรียน” พระสิริจริยาลังการกล่าว

“การตัดสินใจของผู้ใหญ่ที่มีอำนาจในครั้งนี้ เป็นการทำเกินอำนาจ และใช้กฎหมายที่ไม่คำนึงถึงความรู้สึกสะเทือนใจของพี่น้องพุทธศาสนิกชน เป็นการแก้ปัญหาอย่างฉาบฉวย บกพร่อง ถือเป็นการทำลายสันติสุขของวัด ของพุทธศาสนิกชน และผู้อยู่ร่วมในสังคมของจังหวัดปัตตานีจนหมดสิ้น ความรู้สึกขัดแย้งก็เกิดขึ้น เพราะเหตุมีคำสั่งให้ลบหลู่ ยกเลิก” เจ้าคณะจังหวัดปัตตานีกล่าว

พระสิริจริยาลังการกล่าวเพิ่มเติมในฐานะตัวแทนชาวพุทธว่า ขอให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจทบทวนการออกคำสั่งดังกล่าว ยกเลิก และให้โรงเรียนปฎิบัติตามกฎที่ดำเนินกันมาอย่างยาวนาน ดังเดิม

หลังคำสั่งของกระทรวงศึกษาธิการ ในวันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม 2561 นักเรียนชาวไทยมุสลิมของโรงเรียนอนุบาลปัตตานี จึงได้แต่งเครื่องแบบนักเรียนตามความเชื่อของศาสนาอิสลามมาเรียนที่โรงเรียน

ต่อการประท้วงของชาวพุทธ ผู้ปกครองชาวไทยมุสลิม (สงวนชื่อและนามสกุล) รายหนึ่งกล่าวว่า จะให้บุตรของตนเองแต่งเครื่องแบบนักเรียนอิสลาม เนื่องจากเชื่อว่าเป็นการทำตามกฎกระทรวงศึกษาธิการ

“ยืนยันที่จะให้ลูกสวมใส่เครื่องแบบตามระเบียบกำหนดทุกอย่าง เรื่องนี้ต้องขอความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย” ผู้ปกครองรายดังกล่าวระบุ

สำหรับการมีคำสั่งอนุญาตให้นักเรียนชาวไทยมุสลิมของโรงเรียนอนุบาลปัตตานี สามารถใส่เครื่องแบบนักเรียนแบบอิสลามได้ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2561 ว่า หลังจากนี้ผู้บริหาร และศึกษาธิการจังหวัดจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและครูถึงเรื่องนี้

“การหารือได้ข้อยุติแล้ว โดยนักเรียนมุสลิมสามารถแต่งกายตามหลักศาสนาได้ แต่ให้แต่งตามระเบียบของโรงเรียน เช่น นักเรียนชายใส่กางกางขายาวสีเดียวกับนักเรียนทั่วไป ส่วนนักเรียนหญิง ให้คลุมฮิญาบสีขาว หรือสีเดียวกับสีกระโปรง หลังจากนี้ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการโรงเรียนไปชี้แจงให้ผู้ปกครองได้รับทราบและเข้าใจตรงกัน” พล.อ.สุรเชษฐ์กล่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง