ประวิตรระบุเหตุระเบิดพัทลุง-สตูลฝีมือขบวนการใต้

มาตาฮารี อิสมะแอ และ มารียัม อัฮหมัด
2019.03.11
นราธิวาส และปัตตานี
190311-TH-bomb-narathiwat-1000.jpg เจ้าหน้าชุดเก็บกู้ระเบิดตรวจพื้นที่ หลังจากเกิดเหตุระเบิดริมถนน ในอำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส วันที่ 11 มีนาคม 2562
เอเอฟพี

ในวันจันทร์นี้ เจ้าหน้าที่ทหารพราน ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดที่คนร้ายวางไว้ริมถนนบ้านศาลา เจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส จำนวน 1 นาย ก่อนที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเดินทางลงภาคใต้ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีวางระเบิดต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดพัทลุงและสตูล ซึ่งพบว่าเป็นฝีมือของกลุ่มขบวนการที่ออกปฏิบัติการนอกพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้

ในวันนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พร้อมด้วยคณะ ได้เดินไปยังจังหวัดพัทลุงและสตูล เพื่อติดตามความคืบหน้าในการสอบสวนเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์นี้ คนร้ายได้ลอบวางระเบิดกว่า 10 จุด ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง สตูล รวมทั้งเป้าหมายอีกสองแห่ง ในยะลาและนราธิวาส โดยเป็นเหตุในสถานีตำรวจภูธรเมืองสตูลถึง 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยในวันนี้ พลเอกประวิตร กล่าวว่า กลุ่มก่อความไม่สงบในภาคใต้เป็นผู้ลงมือปฏิบัติการในครั้งนี้

“ก็ได้มาบางคนแล้ว... เขาทำอะไรไม่ได้ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเราใช้กำลังพล ใช้ยุทธวิธีอะไรต่างๆ มันก็เลยออกมา... ไม่น่าจะเป็นเรื่องการเมือง” พลเอกประวิตร ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ก่อนที่บินลงพื้นที่ภาคใต้ ยังโดยระบุว่า ไม่ต้องกังวลว่าจะมีการก่อเหตุในช่วงใกล้การเลือกตั้งอีก เพราะขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้วางกำลังรักษาความปลอดภัยแล้ว

ด้าน รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษาของพลเอกประวิตร กล่าวเพิ่มเติม หลังจากการลงพื้นที่ว่า การก่อเหตุรุนแรงนอกพื้นที่ของกลุ่มก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้นั้น เพราะฝ่ายขบวนการไม่สามารถก่อเหตุในพื้นที่ในวันครบรอบการลงนามในสนธิสัญญาแองโกลสยาม 1909 ได้

“จังหวะที่โดนแรงกดดัน มันมีวันครบรอบ สร้างสถานการณ์ในพื้นที่ไม่ได้ ก็อาจจะใช้พื้นที่เหล่านี้แทน” รศ.ดร.ปณิธาน กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์ในวันนี้

“เมื่อสัก 30 ปี กลุ่มพูโลก็มีมาระเบิดในกรุงเทพ ไม่ใช่เรื่องใหม่ ที่เห็นมีกรณีที่ระเบิดกระบี่ ตรัง ก็เกิดขึ้น สมุยก็มี ไม่ใช่เรื่องใหม่ มันอาจจะเป็นแนวโน้มที่ต้องระวังมากขึ้น” รศ.ดร.ปณิธาน กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ก่อนเกิดการระเบิด ได้มีการพ่นสเปรย์หรือแขวนป้ายผ้าในพื้นที่หลายสบแห่งในสามจังหวัด ด้วยคำว่า PATANI 110 ที่หมายถึง วันครบรอบ 110 ปี การลงนามในสนธิสัญญากรุงเทพ หรือสนธิสัญญาแองโกลสยาม 1909 (Anglo-Siamese treaty 1909) ซึ่งไทยต้องคืนดินแดนบางส่วนให้กับอังกฤษผู้เป็นเจ้าอาณานิคมเหนือดินแดนมาเลเซีย เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ปี 1909

สำหรับสนธิสัญญาแองโกลสยาม มีข้อตกลงสำคัญ 6 ข้อ คือ 1. เมืองมลายู เคดะห์ กลันตัน เปอร์ลิส ตรังกานู เกาะลังกาวีและบางส่วนของรามัน-ระแงะ ให้มอบคืนแก่รัฐบาลอังกฤษ

เจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบในสตูล กล่าวว่า ในขณะนี้ สามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยว่า เป็นผู้ก่อเหตุระเบิดไว้ได้แล้ว 5 ราย แต่ไม่ขอเปิดเผยรายชื่อเพื่อไม่ให้กระทบรูปคดี

“เราจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้ 5 ราย แต่ในชั้นนี้ขอสงวนข้อมูลไว้ก่อน” ตำรวจสายสืบรายเดียวกัน กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสตูล และพัทลุง ได้รูปพรรณสัณฐานคนร้ายจากกล้องวงจรปิด

ระเบิดทหารเจ็บหนึ่งนาย

เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.ท.ศรายุทธ์ คชวงศ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดลาดตระเวน สังกัด ร้อย ทพ.4808 กรมทหารพรานที่ 48 ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ที่บริเวณริมถนนบ้านศาลา ม.4 ต.จวบ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า เศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนัก 5 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและริมไหล่ทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ ส.ท.มาฮัมหมัด ยูโซ๊ะ 37 ปี ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณต้นขาขวาและหัวเข่าขวา เพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลเจาะไอร้องไปก่อนหน้าแล้ว

“จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.ท.มาฮัมหมัด หัวหน้าชุด ได้ระดมกำลังรวม 6 นาย เดินเท้าออกจากฐาน ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 400 เมตร เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางพื้นที่รับผิดชอบ ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิด” ร.ต.ท.ศรายุทธ์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ล่าสุดเมื่อเวลา 20.30 น. ร.ต.ท.พลเทพ เกิดมุด รอง สว.สอบสวนสภ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงนาย อับดุลสาตา สาและ อายุ 49 ปี ในบริเวณพื้นที่ ม.2 รอยต่อ ม.3 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี บาดเจ็บและเสียชีวิต ในระหว่างนำส่งโรงพยาบาลทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี จากการสอบสวนทราบว่า เหตุเกิดขณะที่ผู้ตายกำลังเดินทางไปทำธุระในพื้นที่กำลังเดินทางจะกลับบ้าน ระหว่างทางได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงใส่ ก่อนหลบหนี ส่วนประเด็นและสาเหตุ ร.ต.ท.พลเทพ กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนและสอบสวน

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง