สถาบันพระปกเกล้า: คนชายแดนใต้ยังสนับสนุนการพูดคุยสันติสุข
2017.09.25
นราธิวาส
ในวันอาทิตย์ (24 กันยายน 2560) นี้ พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธี และธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ระบุว่า จากการสำรวจพบว่า ประชาชนและผู้นำทางความคิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มากกว่าครึ่ง จากกลุ่มตัวอย่างร่วม 2000 คน สนับสนุนให้มีการพูดคุยสันติสุข และสอดคล้องกับผลการสำรวจ 2 ครั้งก่อนหน้า
การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ (PeaceSurvey) โดยสถาบันพระปกเกล้า และสถาบันในพื้นที่ภาคใต้ 15 สถาบัน ครั้งที่ 3 นี้ ที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส ว่า ผู้นำทางความคิด และประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังสนับสนุนให้รัฐบาลดำเนินการพูดคุย ซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจ 2 ครั้งก่อนหน้า
สำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 1,608 คน ประกอบด้วยคนไทยพุทธ ไทยจีน มลายู และมุสลิม ในจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลาในอำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ตลอดจนผู้นำทางความคิดจำนวน 260 คน
“สำหรับผลการสำรวจในประเด็นที่สำคัญ 2 กลุ่มตัวอย่างคือ ประชาชนทั่วไป และผู้นำศาสนาพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้นำทางความคิด ร้อยละ 72.7 และประชาชนร้อยละ 56.9 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด สนับสนุนให้ใช้การพูดคุยเป็นแนวทางในการแก้ปัญหา อีกทั้งส่วนใหญ่เห็นว่า การพูดคุยจะทำให้บรรยากาศดีขึ้น และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่สนับสนุน และไม่แน่ใจในการใช้กระบวนการพูดคุย” พล.อ.เอกชัย กล่าว
“เป้าหมายของการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการทำงานร่วมกันในการเสริมสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในพื้นที่ เพื่อสะท้อนเสียงของประชาชนให้รัฐบาลผู้เกี่ยวข้อง และสังคมโดยรวมได้รับรู้ความต้องการของประชาชนที่แท้จริงเกี่ยวกับ กระบวนการสันติภาพและคาดหมายว่า ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของประชาชน” พล.อ.เอกชัยกล่าว
พล.อ.เอกชัยระบุว่า ประชาชน 26.5 เปอร์เซนต์ และผู้นำทางความคิด 39.3 เชื่อมั่นว่า การพูดคุยสันติสุขจะแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ ขณะที่ประชาชน 36.3 รู้สึกเฉยๆ และ 19.4 รู้สึกไม่เชื่อมั่น
ข้อเสนอของกลุ่มตัวอย่างต่อมาตรการที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ควรดำเนินการในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในชุมชน เพื่อหลีกเลี่ยงการก่อเหตุกับเป้าหมายอ่อนแอ และแนะนำให้รัฐบาลส่งเสริมอาชีพสร้างรายได้แก้ปัญหายาเสพติด และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม และเป็นธรรมไม่เลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม
ประชาชนกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่า ผู้นำทางศาสนา และ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) คือกลุ่มคนและหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ และประชาชนให้คะแนนการทำงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา 5.31/10 ขณะที่กลุ่มผู้นำทางความคิดให้ 5.7/10
โดยก่อนหน้านี้ สำรวจมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งครั้งที่ 1 เก็บข้อมูลระหว่าง วันที่ 8 กุมภาพันธ์ - 13 มีนาคม 2559 พบว่า ประชาชน 56.4 เปอร์เซนต์ สนับสนุนการพูดคุยสันติสุข แต่มีเพียง 20.6 เปอร์เซนต์ที่เชื่อว่า การพูดคุยจะแก้ปัญหาความรุนแรงได้
ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม - วันที่ 22 สิงหาคม 2559 พบว่า ประชาชน 56.1 เปอร์เซนต์ และผู้นำทางความคิด 80.9 เปอร์เซนต์ สนับสนุนการพูดคุยสันติสุข ขณะที่ประชาชน 21.9 และผู้นำทางความคิด 30 เปอร์เซนต์ เชื่อมั่นว่า การพูดคุยจะแก้ปัญหาความรุนแรงได้
ต่อผลการสำรวจครั้งนี้ นายเจะมูดอ ดอเลาะ ชาวปัตตานี เปิดเผยกับเบนาร์นิวส์ถึงความต้องการต่อการจัดการปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ในฐานะคนในพื้นที่ว่า ต้องการให้แก้ไขปัญหาปากท้อง การศึกษา และยาเสพติดมากกว่าจะสนใจการสนับสนุนการพูดคุยสันติสุข
“ชาวบ้านต้องการมากที่สุดคือ แก้เรื่องปัญหาปากท้อง การศึกษา และยาเสพติด การเจรจาหรือการพูดคุย ที่รัฐกำลังทำอยู่ก็ถือว่า เป็นแนวทางที่ดี แต่ไม่ใช่ความต้องการสูงสุดแค่ว่า ทำได้ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย” นายเจะมูดอกล่าว
ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอด 13 ปี สถิติจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2560 โดยสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีเหตุการณ์รุนแรง 15,797 ครั้ง เป็นเหตุความมั่นคง 9,563 ครั้ง และทำให้มีผู้เสียชีวิต 7,361 คน