ชาวยะลาทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมร่วมรณรงค์ปฎิเสธความรุนแรง

ในวันศุกร์ (29 กรกฎาคม 2559) นี้ ประชาชนไทยพุทธและไทยมุสลิมพร้อมทั้งหน่วยราชการในจังหวัดยะลา พร้อมใจกันร่วมกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านการใช้ความรุนแรง หลังจากที่ในช่วงที่ผ่านมาเกิดเหตุความไม่สงบหลายครั้งติดต่อกัน

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นที่บริเวณสนามบ้านทุ่งคา ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา โดยมีนายราชิต สุดพุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยนายอำเภอเมืองยะลา ตำรวจ ทหาร และประชาชนร่วมกันแสดงความสามัคคี เพื่อต่อต้านความรุนแรง โดยพี่น้องชาวไทยมุสลิมกว่า 50 คนที่มาร่วมงานได้จัดทำพิธีละหมาดฮายัด เพื่อเป็นการขอพรให้เกิดความสงบสุขขึ้นในพื้นที่

นายมาโซ ดือราแม อิหม่ามบ้านทุ่งคา กล่าวต่อเบนาร์นิวส์ว่า พิธีละหมาดในวันนี้เป็นการขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าเพื่อหวังให้เกิดความสงบ

“การละหมาดฮายัดครั้งนี้เพื่อขอพรจากพระเจ้าให้เกิดความสงบ เพราะเราอยากให้เกิดความปกติ เกิดความสงบสุขในพื้นที่ ขออย่าเข้ามาสร้างความไม่สงบขึ้นอีกเลย ขออย่าให้คนในพื้นที่เกิดความแตกแยก และมีความอดทน มีความสามัคคี” นายมาโซกล่าว

ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ กล่าวกับเบนาร์นิวส์เมื่อวันพฤหัส (28 ก.ค. 2559) วานนี้เกี่ยวกับจำนวนเหตุการณ์รุนแรงว่า

“สถานการณ์ครึ่งปีแรก ยังถือว่า ใกล้เคียงกับหลายๆปีที่ผ่านมา อาจมีบางช่วงที่สูงขึ้นและบางช่วงลดลง แต่โดยรวมยังใกล้เคียงจากข้อมูล 150 เดือน 12 ปีกว่า เกิดความไม่สงบในพื้นที่ 15695 ครั้ง เสียชีวิต 6689 ราย บาดเจ็บ 12281ราย”

ผู้เสียชีวิตหนึ่งราย บาดเจ็บสองราย ในจังหวัดยะลา

เหตุการณ์ความไม่สงบล่าสุดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันอังคาร (26 ก.ค. 59) ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านทุ่งคา ม.2 ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา จังหวัดยะลา โดยคนร้ายตั้งด่านลอย และทำทีเป็นเจ้าหน้าที่ขอตรวจรถยนต์ประชาชน ก่อนจะลงมือยิง และปล้น จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย คือ นายอดิศร สุขาเขิน อายุ 25 ปี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย

นายดลเดช พัฒนรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า จังหวัดได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตแล้ว

“..มอบเงินเยียวยา..ให้กับครอบครัวของ นายอดิศร สุขาเขิน ผู้เสียชีวิต เป็นเงิน 500,000 บาท และให้แก่ นายธงไชย เข็มเพชร จำนวน 30,000 บาท และนายอภิชัย รัตนซ้อน จำนวน 10,000 บาท [ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสอง] เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ” ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลากล่าว

ด้าน พ.ต.อ.กฤษฏา แก้วจันดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เผยว่า “รถยนต์ที่คนร้ายปล้นไปครั้งนี้ คาดว่าจะนำไปก่อเหตุประกอบระเบิดคาร์บอมบ์ ตอนนี้รถยนต์ถูกปล้นไป เป็นวันที่ 4 แล้ว เจ้าหน้าที่ก็ยังคงออกค้นหาอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่ารถยังอยู่ในพื้นที่ แต่ยังคงไร้วี่แวว ไม่พบรถยนต์คันดังกล่าวแต่อย่างใด”

ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิต นางสาวกัลยา สุขาเขิน พี่สาวของนายอดิศร เผยข้อมูลของคนร้ายเพิ่มเติม และวอนให้ผู้ก่อความไม่สงบยุติความรุนแรงในพื้นที่

“เขาเสียชีวิตจากเหตุที่ถูกกลุ่มคนร้ายแต่งกายชุดดำดักปล้นรถยนต์กระบะของร้านอะลูมิเนียม เหตุเกิดพื้นที่บ้านทุ่งคา ม.2 ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา เมื่อคืนวันที่ 26 กค.59 ที่ผ่านมา เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็ขอให้เกิดความสงบโดยเร็ว” นางสาวกัลยากล่าว

จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า เกิดการปล้นรถยนต์ เพื่อใช้ก่อเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่จังหวัดยะลา ตั้งแต่ ปี 2547–2559 มาแล้ว 3 ครั้ง โดยรวมการก่อเหตุในวันที่ 26 ก.ค.2559 ครั้งล่าสุดด้วย

นายมะนาปีเยาะ หะยีเจ๊ะมุ ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส วันที่ 29 ก.ค. 2559 (เบนาร์นิวส์)

ชาวบ้านนราธิวาสถูกยิง เสียชีวิตสองราย ในสองพื้นที่อำเภอ

ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน (29 ก.ค. 2559) เกิดเหตุการณ์รุนแรง เมื่อเวลา 16.00 น. ร.ต.อ.เอกราช ศศินิล ร้อยเวร สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณถนนสายนราธิวาส – สุไหงปาดี บริเวณบ้านยานิง ม.2 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกองเลือดริมถนน ผู้บาดเจ็บสาหัสถูกนำส่งโรงพยาบาลเจาะไอร้องก่อนหน้า ทราบชื่อภายหลัง คือ นายมะนาปีเยาะ หะยีเจ๊ะมุ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 ม.4 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้น ไม่ทราบชนิดและขนาด เข้าที่บริเวณลำตัวจำนวนหลายนัด และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวน เจ้าหน้าที่ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายทำธุระอยู่ข้างสวนริมถนนสายดังกล่าว ต่อมาได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอด จากนั้น 1 ใน 2 คนร้ายได้เดินลงจากรถใช้อาวุธปืนที่เตรียมมาจ่อยิงใส่ผู้ตายจำนวนหลายนัดจน ล้มฟุบลงกับพื้น จากนั้นคนร้ายจึงวิ่งขึ้นรถและขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ใต้รายวัน

ต่อมาเมื่อเวลา 18.00 น.ของวันเดียวกัน คนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ประกบยิง นางสุวรรณา พรหมกา อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 ม.8 บ.ลาลู ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ขณะขับรถจักรยานยนต์ทะเบียน กค 6808 นราธิวาส จะกลับบ้านพัก บนถนนในหมู่บ้านฮูลูปาเระ ม.1 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดและขนาด จ่อยิงใส่นางสุวรรณาจำนวนหลายนัด จนล้มฟุบลง จากนั้นคนร้ายขับหลบหนีไป พร้อมเอารถของนางสุวรรณาไปด้วย

ชาวบ้านพากันส่งโรงพยาบาลระแงะ แต่นางสุวรรณาได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เป็นการยิงเหยื่อ เพื่อนำรถไปใช้ในการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่