ผลเลือกตั้งไม่เป็นทางการ เพื่อไทย-พลังประชารัฐ สูสี
2019.03.24
กรุงเทพฯ
ในวันอาทิตย์นี้ จากการสรุปผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง 95 เปอร์เซ็นต์ อย่างไม่เป็นทางการ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่า พรรคเพื่อไทยได้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตมากที่สุด 128 ที่นั่ง ตามมาด้วย พลังประชารัฐ 99 ที่นั่ง โดย กกต. จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการภายใน 60 วัน
เบนาร์นิวส์ ได้รวบรวมตัวเลขที่นั่ง ส.ส. ของแต่ละพรรค จากการรายงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผ่านหน้าเฟสบุ๊คแฟนเพจ “สำนักประชาสัมพันธ์ กกต.” รวมทั้งการรวบรวมของสำนักข่าวท้องถิ่นหลายสำนัก ซึ่งระบุตรงกันว่า พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ รองลงมาคือพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย และพรรคอื่น
ทั้งนี้ ผลการเลือกตั้ง อย่างไม่เป็นทางการ ของพรรคใหญ่ ได้แก่ พรรคเพื่อไทยได้ 128 ที่นั่ง พลังประชารัฐ 99 ที่นั่ง ภูมิใจไทย 37 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ 29 ที่นั่ง อนาคตใหม่ 26 ที่นั่ง ส่วนพรรคเล็กได้แก่ ชาติไทยพัฒนา 7 ที่นั่ง ไทรักธรรม 7 ที่นั่ง ภูมิพลังเกษตรกรไทย 3 ที่นั่ง พลังศรัทธา 2 ที่นั่ง และมีพรรคที่ได้ 1 ที่นั่งอีก 12 พรรค
ส่วนจำนวนคะแนนรวม อย่างไม่เป็นทางการ ของพรรคใหญ่ คือ พลังประชารัฐ 7,641,100 คะแนน เพื่อไทย 7,167,752 คะแนน อนาคตใหม่ 5,269,642 คะแนน ประชาธิปัตย์ 3,254,617 คะแนน และ ภูมิใจไทย 3,217,923 คะแนน
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. สรุปตัวเลขผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่ไม่ได้สรุปว่าพรรคใดได้ ส.ส. แบบแบ่งเขตกี่ที่นั่ง แต่จะแถลงข่าวอีกครั้งในวันจันทร์นี้
“มีผู้มาใช้สิทธิ์ 65.96 เปอร์เซ็นต์ มีบัตรเสีย 5.6 เปอร์เซ็นต์ บัตรที่ไม่ลงคะแนนเสียงให้ผู้ใด 1.5 เปอร์เซ็นต์ จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 51,205,624 คน โดยผู้ใช้สิทธินอกราชอาณาจักร 101,004 ราย” นายอิทธิพร กล่าว
สำหรับกรณีที่ มีบัตรเลือกตั้ง 1.5 พันใบ ที่ส่งมาจากประเทศนิวซีแลนด์ล่าช้า ไม่ทันเวลานับคะแนน กกต. นั้น นายอิทธิพรกล่าวว่า จะได้ดำเนินการวินิจฉัยในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ชี้แจงว่า กกต. จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการภายใน 60 วัน เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เวลาพิจารณาข้อร้องเรียนต่างๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งหลังจากนั้นจึงจะสามารถสรุป จำนวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคได้
“การนับคะแนนจะหยุดเมื่อนับคะแนนถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นการนับคะแนนของ ส.ส.แบ่งเขต และจะมีการประกาศผลการเลือกตั้ง สส. แบบแบ่งเขต อย่างเป็นทางการภายใน 60 วัน ที่ต้อง 60 วัน เพราะต้องมีการพิจารณาเรื่องคดีต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เช่น การซื้อเสียง ผู้ได้รับคะแนนสูงสุด อาจจะต้องถูกระงับสิทธิ์สมัคร ถ้าพบว่ามีการทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม” พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว
“เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่ของ ส.ส. แบบแบ่งเขต ทำให้คะแนน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อจะเปลี่ยนแปลงไปด้วย ดังนั้นเราจะไม่คำนวณคะแนน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ณ วันนี้ โดยเราจะคำนวณคะแนน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เมื่อประกาศ ส.ส. แบบแบ่งเขต อย่างเป็นทางการแล้ว 60 วันถึงจะประกาศได้อย่างเป็นทางการ”
อภิสิทธิ์ลาออก หลังประชาธิปัตย์พลาดเป้า
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค หลังจากที่เคยประกาศเอาไว้ว่า หากพรรคได้ที่นั่งไม่ถึง 100 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งนี้จะลาออก
“ขอบคุณผู้มอบคะแนนเสียงให้พรรคประชาธิปัตย์ แม้ว่าการนับคะแนนยังไม่ยุติ แต่แน่ชัดว่า ผลการเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ผมได้ตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอันดับที่นั่ง หรือจำนวนที่นั่ง ผมต้องขอโทษผู้สนับสนุนพรรค ปชป.ทุกคน ที่ไม่สามารถผลักดันแนวคิดของเราให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้"
"จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผมต้องแสดงความรับผิดชอบ ในฐานะหัวหน้าองค์กร เพราะฉะนั้น ผมขอลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่บัดนี้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ ที่ทำการพรรค หลังปิดหีบเลือกตั้ง ระบุว่า ขอบคุณคะแนนจากประชาชน และพรรคจะเริ่มทำงานทันทีเพื่อประชาธิปไตย
“การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ใช่จุดจบ ไม่ใช่เส้นชัยของการเดินทาง การได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่ยั่งยืน การได้มาซึ่งความเป็นธรรมในสังคม ต้องใช้เวลาในการเดินหน้าต่อไปอีก อยากเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องทุกคนทำงานร่วมกับอนาคตใหม่ต่อไป ตั้งแต่พรุ่งนี้ การเลือกตั้งเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่สำคัญของการนำมาซึ่งประชาธิปไตยที่ยั่งยืนในอนาคต” นายธนาธร กล่าว
ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคเพื่อไทยระบุว่า ขอบคุณคะแนนจากประชาชน และเรียกร้องให้ ส.ว. 250 คน ที่จะถูกคัดเลือกโดย คสช. ทำหน้าที่ตามเจตนารมณ์ของประชาชน
“ทุกคะแนนทุกความไว้วางใจจะไม่สูญเปล่า เราจะมุ่งมั่นในการที่จะทำงานอย่างหนักต่อไป เพื่อที่จะเป็นส่วนนึงที่จะทำให้เกิดความสุข กับประชาชน เกิดเศรษฐกิจที่ดี ความผาสุขสงบในบ้านเมือง ในทุกนโยบายที่ให้สัญญา เรารับทำความคาดหวัง และภารกิจ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
“ในหลักการ เรายืนยันการที่เราจะยินดีร่วมทำงานกับพรรคที่ไม่สนับสนุนการต่อท่ออำนาจของ คสช. หรือ พลเอกประยุทธ์ เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไร แปลว่านั่นเป็นความปรารถณาจากประชาชนว่า อยากจะให้ใครบริหารประเทศต่อ เรายังยืนในหลักการว่า พรรคอันดับหนึ่งไม่ว่าจะเป็นใครต้องมีสิทธิจัดตั้งรัฐบาลก่อน เราหวังว่า ส.ว. ที่ถูกแต่งตั้งโดย คสช. สองร้อยห้าสิบคนจะได้ดำเนินการตามเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชนในการเลือกตั้ง” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ทางพรรคพร้อมจัดตั้งรัฐบาล โดยได้มีการติดต่ดกับพรรคอื่นบ้างแล้ว
คสช. จะยังอยู่ในอำนาจจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่
พันเอกอธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกฝ่ายในนามของรัฐบาล สำหรับการจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันนี้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
“เมื่อมีการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว พรรคการเมืองต่าง ๆ ก็จะเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลต่อไป ในส่วนของนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่โดยสมบูรณ์ ด้วยความรักและปรารถนาดีต่อทุกคน เพื่อแก้ไขปัญหาและวางรากฐานที่มั่นคงมั่งคั่งให้กับประเทศและพี่น้องประชาชนคนไทยตลอดไป” พันเอกอธิสิทธิ์ ระบุต่อสื่อมวลชน
ความสงบ ความกลัวทักษิณ และ การย้ายพรรคของ ส.ส. คือ ปัจจัยที่ทำให้ พปชร. ได้คะแนนเยอะ
นายฐิติพล ภักดีวานิช คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวแก่เบนาร์นิวส์หลังทราบผลคะแนนการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการว่า นโยบายเรื่องความสงบ การต่อต้านนายทักษิณ ชินวัตร และการที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) สามารถดึง อดีต ส.ส.จากพรรคอื่นๆ มาร่วมงานกับพรรคได้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ พรรคได้คะแนนมากกว่าที่หลายฝ่ายคาด
“ผลการเลือกตั้งไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ ดูจาก พปชร. ได้จากคะแนน สังเกตการหาเสียง นโยบายเชิงประชานิยม มองว่าเป็นจุดนึงที่ทำให้ได้คะแนน แต่อีกส่วนนึงที่น่าตั้งข้อสังเกต คือ ช่วงการเลือกตั้ง กระบวนการหลายๆอย่าง เช่นการใช้อำนาจรัฐ นโยบายของรัฐ การควบคุมเสรีภาพการหาเสียง ระบบการเลือกตั้งใหม่ ที่พยายามที่จะจำกัดสัดส่วน ส.ส. โดยการนับคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ วาทกรรมความสงบ การต่อต้านทักษิณ และ การได้ ฐานเสียง ส.ส.เก่าเป็นปัจจัยสำคัญ” นายฐิติพล กล่าว
“กลุ่มสนับสนุนทหารไม่ได้มองว่า ประชาธิปไตยสร้างความสงบได้ ซึ่งน่ากังวลในการพัฒนาประชาธิปไตยในอนาคต ทำให้เราเป็นรัฐที่สนับสนุนปกครองโดยทหาร ไม่สนับสนุนเรื่องการสร้างความโปร่งใสตรวจสอบได้ คะแนนที่ได้ ส่วนนึงสะท้อนการยอมรับทหาร การเมืองหลังจากนี้ไม่ได้จะทำให้เกิดปัญหามากนัก แรงต้านไม่เหมือนในอดีต เพราะมีคนยอมรับค่อนข้างจะเยอะ ยุบไทยรักษาชาติไม่ได้มีผล เพราะเสียงไม่น่าจะมาฝั่ง พปชร. อยู่แล้ว”
นายฐิติพลระบุว่า รูปแบบการเลือกตั้งแบบใหม่ที่ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว มีข้อดีคือการสร้างโอกาสทางการเมืองให้กับพรรคการเมืองใหม่ พรรคขนาดเล็ก หรือขนาดกลาง เช่นที่เห็นผลคะแนนที่พรรคอนาคตใหม่ได้