ยิ่งลักษณ์ขอรัฐชะลอการยึดทรัพย์คดีจำนำข้าว อ้างคดียังไม่สิ้นสุด

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2017.02.15
กรุงเทพฯ
TH-yingluck-620 นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พูดกับสื่อ เมื่อเดินทางมาถึงศาลฎีกา ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ เพื่อให้หลักฐานในการพิจารณาคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายของโครงการรับจำนำข้าว เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559
เอเอฟพี

ในวันพุธ (15 กุมภาพันธ์​ 2560) นี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เขียนข้อความลงบนเฟซบุ๊คแฟนเพจส่วนตัว ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของการที่รัฐบาลจะเดินหน้ายึดทรัพย์สินของตนเอง เพื่อชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากโครงการรับจำนำข้าว ในสมัยที่พรรคเพื่อไทยบริหารประเทศ โดยชี้ว่าเป็นการกระทำที่ขาดความเป็นธรรม เพราะคดียังอยู่ในการพิจารณาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และตนเองได้ยื่นขอทุเลาคำสั่งดังกล่าวไปแล้ว

“สิ่งที่เกิดขึ้นกับดิฉันวันนี้ ท่านกลับไม่ได้คำนึงถึงหลักความยุติธรรมใดๆทั้งสิ้น ไม่ได้คำนึงว่า ศาลกำลังจะพิจารณาการร้องขอของดิฉันอยู่แม้แต่น้อย แต่กลับให้ข่าวว่า พร้อมที่จะยึดทรัพย์ดิฉันทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งจากศาล ในเรื่องการขอทุเลาคำสั่งการทางปกครอง และหากศาลมีการทุเลาการบังคับคดีค่อยหยุดกระบวนยึดทรัพย์ แต่ทรัพย์ที่ยึดไปก่อนหน้านั้นก็จะไม่คืน” น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุ

“ดิฉันจึงอยากจะถามอีกครั้งว่า นี่หรือนักกฎหมายของรัฐที่เพียรพูดว่า จะคำนึงถึงความยุติธรรมและเป็นกลางกับทุกฝ่าย แล้วอย่างนี้จะหวังให้ผู้เป็นรัฐบาลยุติธรรมกับผู้อื่นในยามบ้านเมืองต้องการเห็นการปรองดองแบบนี้เหรอคะ” อดีตนายกรัฐมนตรีตั้งคำถาม

การเขียนข้อความดังกล่าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นการตอบโต้การให้สัมภาษณ์ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีที่เปิดเผยต่อสื่อมวลชนในวันอังคารที่ผ่านมาว่า รัฐบาลได้หารือร่วมกับกรมบังคับคดี และกระทรวงพาณิชย์ถึงการเริ่มกระบวนการยึดทรัพย์สินของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีโครงการรับจำนำข้าว โดยระบุว่า สามารถยึดทรัพย์ได้ แม้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ยื่นคำขอทุเลาคำสั่งการยึดทรัพย์ไปแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ดี นายวิษณุได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนอีกครั้งในวันพุธว่า การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เชื่อว่าการเดินหน้ายึดทรัพย์ของรัฐบาลไม่เหมาะสม และไม่สามารถทำได้นั้น ฝ่ายรัฐบาลกลับเห็นว่า การยึดทรัพย์สามารถดำเนินการได้ และคำสั่งยึดทรัพย์ชอบด้วยกฎหมาย

“เราได้พูด(สามารถยึดทรัพย์สินได้ทันที แม้ศาลยังตัดสินคดีไม่เสร็จ)อย่างนี้มาหกเดือนแล้ว... ในทัศนะของท่านจะเป็นอย่างไรก็สุดแท้แต่ ความหมายของท่านในความหมายว่า ยังไม่ได้มีการตัดสินเลยคดีอาญาว่าผิดจริง-ไม่จริง คดียังคาอยู่ในศาลฯแล้วก็ไปยึดทรัพย์ก่อน มันยังไม่เสร็จ ควรให้คดีอาญาตัดสินซะก่อนให้เสร็จ ถ้าบอกว่าผิดจึงค่อยมายึดทรัพย์กัน นั่นความหมายของท่านให้เป็นอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร” นายวิษณุกล่าว

“ความหมายของรัฐบาลคือแล้วเสร็จ คือเสร็จตามกฎหมายวิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง เสร็จตามกฎหมายว่าด้วยการรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเมื่อออกคำสั่งมันก็แล้วเสร็จ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า ผู้ถูกคำสั่งไปร้องต่อศาลขอให้เพิกถอน หรือร้องขอให้ทุเลาได้ ก็นั่นแปลว่ากระบวนการมันแล้วเสร็จ ถ้าไม่แล้วเสร็จก็ไม่มีอะไรไปทุเลา ไม่มีอะไรไปเพิกถอน” นายวิษณุระบุ

การเดินหน้ากระบวนการยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นไปตามความเห็นของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2559 ที่เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายกรัฐมนตรีให้เรียกเก็บค่าเสียหายจากความประมาทเลินเล่อที่มีต่อการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว

คดีโครงการรับจำนำข้าว

ในการหาเสียงเลือกตั้งปี 2554 พรรคเพื่อไทยได้ใช้โครงการรับจำนำข้าวเป็นหนึ่งในโครงการหาเสียงหลักของพรรค และเมื่อได้รับการเลือกตั้งรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ดำเนินโครงการดังกล่าวจริง โดยให้รัฐบาลรับจำนำข้าวในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดขององค์การตลาดเพื่อการเกษตร และองค์การคลังสินค้า โดยจ่ายเงินให้กับประชาชนที่นำข้าวมาจำนำกับรัฐบาลเกวียนละ 15,000 บาท

ระหว่างการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวได้มีการเปิดเผยข้อมูลจากหลายฝ่ายว่า มีการสูญหายของข้าวในการดูแลของรัฐ ข้าวที่ถูกเก็บไว้เสื่อมคุณภาพ และส่งผลให้ข้าวเสื่อมราคา ความเสียหายดังกล่าวถูกประเมินมูลค่าเบื้องต้นเป็นเงินกว่า 5 แสนล้านบาท

ปี 2555 พรรคประชาธิปัตยจึงยื่นคำร้องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ในกรณีที่ น.ส. ยิ่งลักษณ์ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายของโครงการรับจำนำข้าว

วันที่ 9 พฤษภาคม 2557 ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดในกรณีดังกล่าวก่อนส่งให้อัยการสูงสุด(อสส.)พิจารณาในวันที่ 17 กรกฎาคม 2557

วันที่ 23 มกราคม 2558 อสส. มีความเห็นสั่งฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในคดีจำนำข้าว ต่อศาลฎีกาฯ วันเดียวกัน ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้มีมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยคะแนน 190:18 เสียง ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกตัดสิทธิที่จะดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี และวันที่ 19 มีนาคม 2558 (วันนัดอ่านคำสั่ง) ศาลฎีกาฯ มีมติรับฟ้องคดีจำนำข้าว

วันที่ 19 พฤษภาคม 2558 ศาลฎีกาฯพิจารณาคดีครั้งแรก น.ส.ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอประกันตัวด้วยหลักทรัพย์เป็นบัญชีเงินฝากมูลค่า 30 ล้านบาท มีการนัดสืบพยานตั้งแต่ปี 2558 – 2559

วันที่ 21 กันยายน 2559 คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายกรัฐมนตรีเรียกค่าเสียหายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นเงิน 35,717 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 20% ของมูลค่าประเมินความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด 178,586 ล้านบาท รัฐบาลจึงได้พยายามเดินหน้ายึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง