ไทย-มาเลเซีย เสริมสัมพันธ์ในการต่อต้านภัยคุกคาม
2018.08.28
กรุงเทพ

ผู้บัญชาการกองทัพไทยและผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย เป็นประธานร่วมในการประชุมคณะกรรมการระดับสูงไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 35 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันอังคารนี้ เพื่อเน้นย้ำความร่วมมือของสองฝ่ายในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การลาดตระเวนร่วมกัน การต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ และการต่อต้านภัยคุกคามข้ามพรมแดน
พลเอกธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.ทท. และ พลเอกตันศรี ดาโต๊ะ เสรี ปังลิมา ฮาจิ ซุลกิฟลี บิน ฮาจิ ไซนัล อบิดิน ผบ.สส. ได้แสดงความยินดีต่อความก้าวหน้าของการดำเนินการร่วมมือของคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee - RBC) และคณะกรรมการฝึกร่วมผสม (Joint Combined Exercise Committee - JCEC) ที่เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพและหน่วยงานของทั้งสองประเทศ ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การลาดตระเวนร่วม และการพัฒนาชายแดน รวมทั้งการจัดการฝึกร่วมผสมไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 3
“ดังที่คุณได้เห็นแล้วว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการระดับสูงครั้งที่ 35 แล้ว คณะกรรมการได้พัฒนาความร่วมมือให้เติบโตขึ้นและมีความเป็นเสถียรภาพมากขึ้น เราทำงานร่วมกันมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเกี่ยวกับชายแดนที่ได้รับการประสานร่วมมือเป็นอย่างดี และผมคิดว่าความร่วมมือดังกล่าวส่งผลที่ดี” พลเอกตันศรี ดาโต๊ะ เสรี ปังลิมา กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
“ส่วนใหญ่เราพูดคุยในประเด็นเกี่ยวกับปัญหาชายแดนและอาชญากรรมข้ามชาติ ในการที่เราจะต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ มีงานหลายอย่างที่เราทั้งสองประเทศได้ทำร่วมกัน เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านข่าวกรอง มันชัดเจนว่ามีงานหลายอย่างที่เราได้ร่วมกันทำจนสำเร็จ เรามีปัญหาเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น เรื่องดาอิช (ไอเอส) เราจำเป็นต้องทำงานอย่างหนักเพื่อจัดการปัญหานี้” พลเอกตันศรี ดาโต๊ะ เสรี ปังลิมา กล่าวเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยกล่าวแก่เบนาร์นิวส์โดยไม่ประสงค์ออกนามว่า เมื่อประมาณ 4 ถึง 5 ปีก่อน มีความพยายามของสมาชิกอุดมการณ์รัฐอิสลามหรือไอเอสในอินโดนีเซีย ในการหาสมาชิกใหม่ ๆ จากประเทศไทยไปร่วมรบในซีเรีย โดยได้เปิดเว็บไชต์ลับหรือใช้เฟซบุ๊กประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีผู้สนใจในประเทศไทยเข้าชมหรือแสดงความคิดเห็นสนับสนุน ประมาณห้าพันคน อย่างไรก็ตาม จำนวนได้ลดลงเหลือไม่เกินห้าร้อยคนในปัจจุบัน เนื่องจากแนวทางสุดโต่งไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก แม้แต่ในกลุ่มชาวไทยมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ในส่วนของรัฐบาลไทยได้ปฏิเสธมาโดยตลอดว่า ไม่มีกลุ่มไอเอสในประเทศไทย ซึ่งทางกองทัพภาคที่สี่ก็ได้ระบุเช่นกันว่า ยังไม่ปรากฏการเคลื่อนไหวของสมาชิกไอเอสต่างชาติที่ข้ามแดนเข้ามาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ส่วนหนึ่งเพราะกลุ่มก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์รัฐปัตตานี ในขณะเดียวกัน ยังมีบางกลุ่มร่วมมือกับพ่อค้ายาเสพติดและพ่อค้าของเถื่อนทำธุรกิจนอกกฎหมายและก่อเหตุเพื่อเอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจมืด ที่เรียกว่า ภัยแทรกซ้อน
ด้านพลเอกธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.ทท. กล่าวว่า ในการประชุม ได้ติดตามความคืบหน้าพัฒนาการตามแนวชายแดนที่มีคณะย่อย ๆ 6 คณะดำเนินการอยู่ และได้ดำเนินการเป็นไปตามแผนงานด้วยความเรียบร้อย ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความใกล้ชิดและความร่วมมือที่แน่นแฟ้นมากขึ้นโดยลำดับ
ในส่วนของการดูแลชายแดนนั้น พลเอกธารไชยยันต์ กล่าวว่าทางไทยและมาเลเซียได้เซ็นบันทึกความเข้าใจในการสร้างกำแพงตามแนวชายแดนระหว่างประเทศทั้งสอง เพื่อเป็นการควบคุมการเข้าออกของกลุ่มอาชญากรและกลุ่มผู้ก่อการร้าย
“ตอนนี้ เราได้ลงนามเอ็มโอยูเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างที่คณะกรรมการจะร่วมกันดำเนินการให้เป็นรูปธรรมเร็ว ๆ นี้ครับ นัดประชุมกันแล้วครับ เริ่มโดยเร็วที่สุด เพราะคณะกรรมการจะต้องไปคุยกันในเรื่องรายละเอียด” พลเอกธารไชยยันต์กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
พลเอกตันศรี ดาโต๊ะ เสรี ปังลิมา กล่าวเสริมว่า เท่าที่ตนทราบ รัฐบาลมาเลเซียยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายหลักในด้านความมั่นคง แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนรัฐบาลมาอยู่ภายใต้ด็อกเตอร์มหาเธร์ โมฮัมหมัด ที่ชนะเหนือการเลือกตั้งเหนืออดีตนายกรัฐมนตรีนิจิบ ราซัค เมื่อเร็ว ๆ นี้
“เรามีคณะกรรมการร่วมในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรอง เรามีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองที่ส่งผลกระทบระหว่างสองประเทศ และการแลกเปลี่ยนข่าวกรองเป็นสิ่งที่สำคัญมาก” พลเอกตันศรี ดาโต๊ะ เสรี กล่าวตอบ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำอย่างไรที่จะช่วยประเทศไทยในการสอดส่อง-คัดกรองอาชญากรที่ข้ามไปมาระหว่างพรมแดนสองประเทศ