โฆษกตำรวจ: คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการให้อำนาจเจ้าหน้าที่ดักฟังโทรศัพท์

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2016.08.11
กรุงเทพ
160811-TH-phones-1000.jpg ผู้ใช้บริการคุยโทรศัพท์หน้าสำนักงานเอไอเอส
เอเอฟพี

ในวันพฤหัสบดี (11 ส.ค. 2559) นี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการต่อแผนการแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจดักฟังโทรศัพท์ในคดีความมั่นคงได้

“ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการในการอนุญาตให้ดักฟังโทรศัพท์ ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม” พลตำรวจเอกเดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวแก่รอยเตอร์ในวันนี้ โดยทางโฆษกฯ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังต้องมีการดำเนินการอีกหลายขั้นตอนกว่าที่จะให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจได้

ตามแผนการดังกล่าว จะมีการแก้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดีความอาญา พ.ศ. 2477 เพื่อเพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดักฟังโทรศัพท์ได้ โดยรอยเตอร์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นมาตรการล่าสุดทางด้านความมั่นคงที่ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ดำเนินการ

สำหรับคดีที่เจ้าหน้าที่จะสามารถดักฟังได้นั้น ได้แก่ คดีอาชญากรรม คดีความมั่นคง คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และคดีอาชญากรรมข้ามชาติ

รอยเตอร์อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ไม่ประสงค์จะออกนามว่า การดักฟังโทรศัพท์ต้องได้รับความเห็นชอบจากศาลยุติธรรม

สุนัย ผาสุก นักวิจัยขององค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวว่า แผนการดังกล่าวเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ เมื่อพิจารณาถึงการใช้อำนาจอย่างไม่ถูกต้องในการตั้งข้อกล่าวหาด้านความมั่นคงของตำรวจ และควรมีการป้องกันการใช้อำนาจโดยมิชอบของเจ้าหน้าที่

ทางด้านโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ใช้อำนาจโดยมิชอบ และต้องมีการขออำนาจศาลในการดักฟังโทรศัพท์ทุกครั้ง

นอกจากนี้ ในวันอังคารที่ผ่านมา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้อนุมัติในหลักการต่อแผนการใช้ซิมการ์ดแบบระบุตำแหน่งสำหรับผู้ใช้ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม หรือการอยู่เกินกำหนดได้

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง