เซ็กซ์กูรูเบลารุส ปฏิเสธข้อหาค้าประเวณี-ซ่องโจร
2018.08.20
กรุงเทพฯ

ในวันจันทร์นี้ นางสาวอนาสตาเซีย วาชูคาวิช นางแบบชาวเบลารุสที่อ้างว่ามีหลักฐานเชื่อมโยงการที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกสหรัฐครั้งที่ผ่านมา พร้อมพวกรวม 8 คน ให้การต่อหน้าผู้พิพากษาศาลจังหวัดพัทยาปฏิเสธความผิดในข้อหาจัดหาคนค้าประเวณีและซ่องโจร พร้อมขอต่อสู้คดีในชั้นศาล ขณะที่ศาลพัทยานัดตรวจพยานหลักฐานเพิ่มเติมวันที่ 27 สิงหาคมนี้
สำหรับคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกรวบตัวนายอเล็กซานเดอร์ คีริลอฟ หัวหน้ากลุ่ม และนางสาวอนาสตาเซีย วาชูคาวิช พร้อมกลุ่มชาวรัสเซียชายหญิงรวมจำนวน 10 ราย ที่ตั้งตนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการมีเพศสัมพันธ์เปิดหลักสูตรอบรมสาธิตการมีเพศสัมพันธ์ในโรงแรมกลางเมืองพัทยา ในข้อหาทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งศาลจังหวัดพัทยายกฟ้อง แต่อายัดตัวนายอเล็กซานเดอร์ พร้อมพวกรวม 8 คน เพื่อดำเนินคดีต่อในข้อหาจัดหาบุคคลเพื่อค้าประเวณี และอั้งยี่ซ่องโจร ขณะที่พนักงานสอบสวนได้กันชาวรัสเซียในกลุ่มผู้กระทำความผิดไว้จำนวน 2 คน เพื่อเป็นพยานในชั้นศาล
ศาลอาญาจังหวัดพัทยาได้เบิกตัวนายอเล็กซานเดอร์ นางสาวอนาสตาเซีย พร้อมพวกรวมทั้งหมด 8 คน ในการนัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐานในคดีที่อัยการเป็นโจทย์ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ในข้อหาจัดหาบุคคลเพื่อค้าประเวณี และอั้งยี่ซ่องโจร ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดรวม 17 ปี ซึ่งนายอเล็กซานเดอร์ ในฐานะจำเลยที่หนึ่ง ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นการกระทำโดยส่วนตัวไม่มีความผิดตามกฎหมาย
“วันนี้ เป็นคดีของอเล็กซานเดอร์ เป็นการแยกสำนวนของอเล็กซานเดอร์ออกมา เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการดำเนินคดี” นายกฤษณา บุญเทียม ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลจังหวัดพัทยา ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
นายวรสิทธิ์ พิริยะวิบูลย์ อดีตทนายความของนายอเล็กซานเดอร์ และนางสาวอนาสตาเซีย ให้สัมภาษณ์กับเบนาร์นิวส์ ทางโทรศัพท์ระบุว่า ตนได้ขอแยกสำนวนของลูกความทั้งสองออกมา เนื่องจากทั้งสองคนต้องการรับสารภาพเพื่อให้ศาลลงโทษสถานเบา ซึ่งคาดว่าจะได้รับโทษจำคุกระหว่าง 1–2 ปี หรือเท่าที่ได้รับมาแล้ว แต่ลูกความของตนเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้ายและขอต่อสู้คดี ตนเองจึงได้ขอถอนตัวออกจากคดี ต่อหน้าศาลในวันนี้
“ผมตั้งใจแยกสำนวนของทั้งสองคนออกมาเพราะเขาต้องการรับสารภาพ จะได้จบ แต่ทั้งสองเปลี่ยนใจขอต่อสู้คดีโดยขอกลับไปใช้ทนายความคนเดิม โดยบอกศาลว่าสิ่งที่ตนทำไม่เป็นความผิดเนื่องจากเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นหลังการสัมมนาในพื้นที่ส่วนตัว” นายวรสิทธิ์ กล่าวกับเบนาร์นิวส์
นายวรสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ลูกความของตนทั้งสองมีความผิดจริงตามคำฟ้อง ไม่ว่าจะเป็นการรวมตัวกันมากกว่า 5 คน มีนำคนต่างชาติเข้ามาโดยมีเจตนาความความผิดในประเทศไทย มีการเก็บค่าบริการ ตนจึงได้แนะนำให้อเล็กซานเดอร์ และ อนาสตาเซีย รับสารภาพและขอให้ลงโทษสถานเบา ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าศาลอาจใช้ดุลพินิจสั่งจำคุกอีกไม่เกิน 2 ปี เนื่องจากลูกความทั้งสองจำคุกมาประมาณ 6 เดือนแล้ว
“จากพยานหลักฐานที่อัยการนำมาแสดงในวันนี้พบว่าอัยการเตรียมสืบพยาน 11 ปากจากพยานทั้งหมด 23 ลำดับ โดยจะแสดงให้ศาลเห็นถึงการเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด และมีการเตรียมการมาจากรัสเซีย.. นอกจากนี้ยังมีเพื่อนชาวรัสเซียในกลุ่มของเขา อีก 2 คน ที่ตำรวจกันไว้เป็นพยานในชั้นศาล พร้อมด้วยภาพถ่าย และวิดิโอ ต่างๆ” นายวรสิทธิ์ ระบุ
อดีตทนายของอเล็กซานเดอร์ และอนาสตาเซีย กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า หากทั้งสองสู้คดีและไม่ได้รับการประกันตัว ไม่รู้ว่าจะถูกจำคุกอีกนานแค่ไหน เนื่องจากคดีนี้ต้องสู้กันถึง 3 ศาล โดยคดีนี้มีโทษจำคุกรวมสูงสุด 17 ปี
ในขณะที่นายอเล็กซานเดอร์ กำลังปฏิเสธข้อกล่าวหา นางสาวอนาสตาเซียร้องให้ตลอดเวลา โดยหนึ่งในผู้ต้องหาทั้งแปด กล่าวว่า ตนถูกหลอกมา ทำไมต้องมาขึ้นศาล ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ศาลอาญาจังหวัดพัทยา ได้นัดตรวจพยานหลักฐานเพิ่มเติมในวันที่ 27 สิงหาคม ระหว่างนั้นผู้ต้องหาทั้งแปดคน จะถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำบางละมุง พัทยา ขณะที่ทนายวรสิทธิ์ ได้ถอนตัวออกจากการเป็นทนายในคดีนี้แล้ว
นางสาวอนาสตาเซีย หรือใช้อีกชื่อหนึ่งทางออนไลน์ว่า “นาสเชีย ไรบกา” วัย 21 ปี อ้างว่าเป็นนางแบบในหน้าอินสตาแกรม เธอยังได้เขียนหนังสือชื่อ “การล่อเศรษฐีให้ติดหมัด” และอ้างว่าตนเคยมีความสัมพันธ์กับ นายอเล็ก เดริปัสกา มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย วัย 50 ปี ทั้งเธอยังโพสต์ภาพหวือหวาของตัวเอง รวมทั้งภาพที่กำลังโอบกอดนัวเนียกับเศรษฐีชาวรัสเซียอีกด้วย
ชื่อของเธอ เริ่มมีให้เห็นตามสื่อเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่นายอเล็กซี นาวัลนี ผู้นำการเมืองฝ่ายค้านของรัสเซีย ได้เผยแพร่คลิปยูทูบรายงานการสืบสวนยาว 25 นาที
จากอินสตาแกรมของนางสาวอนาสตาเซีย ที่เต็มไปด้วยภาพและวิดีโอคลิป และมีการโพสต์วิดีโอคลิปบันทึกเสียงการสนทนาส่วนหนึ่ง ระหว่างนายอเล็ก เดริปัสกา มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย กับนายเซอเจ ไปรโฮดกา รองนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย และเป็นอดีตที่ปรึกษาอาวุโสที่ทำงานกับประธานาธิบดีรัสเซีย นายวลาดิเมียร์ ปูติน บทสนทนาเกิดขึ้นบนเรือยอชท์ของนายอเล็ก เดริปัสกา