ตำรวจแถลงจับ 11 ชาวกัมพูชาหนีจากมาเลเซียมาซ่อนในสุไหงโกลก นราธิวาส

มารียัม อัฮหมัด
2021.01.15
ปัตตานี
ตำรวจแถลงจับ 11 ชาวกัมพูชาหนีจากมาเลเซียมาซ่อนในสุไหงโกลก นราธิวาส ชาวกัมพูชา 11 คน ถูกจับกุมที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งใน อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส หลังจากหลบหนีจากรัฐยะโฮร์เข้ามาฝั่งไทย วันที่ 14 มกราคม 2564
เบนาร์นิวส์

ในวันศุกร์นี้ พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม แรงงานชาวกัมพูชา 11 ราย ที่หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายจากมาเลเซีย และมาแอบซ่อนในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เพื่อรอเดินทางกลับกัมพูชาได้ เตรียมผลักดันกลับประเทศหลังเสร็จสิ้นการกักตัว โดยแรงงานสารภาพว่า ได้จ่ายเงินให้นายหน้า 1.2 หมื่นบาทต่อหัว เพื่อเป็นค่าพาลักลอบข้ามแดนเข้าไทย ด้านผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสเตรียมให้รางวัลนำจับมูลค่า 1 หมื่นบาท แก่ผู้ที่สามารถชี้เบาะแสขบวนการนำชาวต่างชาติเข้าประเทศ

พล.ต.ต.นรินทร์ เปิดเผยว่า วานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีบุคคลต้องสงสัยมาหลบอาศัยอยู่ในบ้านเช่าแห่งหนึ่งใน ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้า ตำรวจ สภ.สุไหงโกลก และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สุไหงโกลก เข้าตรวจสอบจนพบชาวกัมพูชา 11 ราย เป็นชาย 7 คน หญิง 2 คน และเด็กหญิง 2 คน โดยหลังควบคุมตัวได้ประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าตรวจคัดกรองโรคแล้ว

“แรงงานกัมพูชาทั้ง 11 คน ถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง ในจังหวัดนราธิวาส ทั้งหมดหลบหนีเข้ามาประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้ไปเป็นแรงงานที่ประเทศมาเลเซีย แต่มาเลเซียประกาศล็อกดาวน์ ถึงเดือนสิงหาคม 2564 ทำให้ไม่มีงานทำ จึงต้องพยายามหลบหนีกลับเข้ามาในประเทศไทย เพื่อหาทางกลับบ้านที่กัมพูชา” พล.ต.ต.นรินทร์ กล่าว

จากการสอบสวนทราบว่า ชาวกัมพูชาทั้ง 11 ราย เคยอาศัยอยู่ในรัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย แล้วเดินทางมาที่แนวชายแดนด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก่อนเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยมีนายหน้าชาวไทยมารับด้วยรถจักรยานยนต์ครั้งละ 1-2 คน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากชายแดนมาถึงบ้านเช่าหลังดังกล่าว โดยในการข้ามมายังประเทศไทย แต่ละคนต้องจ่ายค่านายหน้ารายละ 1,800 ริงกิต หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 12,600 บาท

“ทั้ง 11 คน ไม่มีอาการป่วยไข้แต่อย่างใด แต่ต้องรออุปกรณ์ตรวจสอบวัดอุณหภูมิจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอีกครั้ง ปัจจุบัน พวกเขาถูกคุมตัวอยู่ที่โรงพักสุไหงโกลก เราจัดห้องพิเศษเฉพาะให้อยู่ เพื่อควบคุมโรค 14 วัน คาดว่าจะรู้ผลตรวจโควิดใน 3-4 วัน” พล.ต.ต.นรินทร์ ระบุ

นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีผู้ลักลอบข้ามแดนจากประเทศมาเลเซีย มายังประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากหลายคนกลัวการติดโรค หรือไม่มีงานทำ

“การหลบหนีเข้าเมืองในปัจจุบันยังพบทุกวัน ทั้งไทย ลาว พม่า กัมพูชา ที่ไปทำงานที่นั่น คนไทยจากสามจังหวัดของเราก็เข้ามา ซึ่งคนไทยเข้ามาถ้าเราตรวจพบในช่องทางธรรมชาติ ก็จะมีการปรับ 800 บาท แล้วนำตัวเข้าโลคัลควอรันทีนทันที ส่วนต่างด้าว ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 ถึงตอนนี้น่าจะไม่ต่ำกว่า 130 คนแล้ว ที่เราคุมตัวได้ นโยบายของเราตอนนี้คือ ไม่ดำเนินคดี ก็จะให้ ตม. ทำเรื่อง แล้วผลักดันกลับประเทศ” พล.ต.ต.นรินทร์ ระบุ เพิ่มเติม

ต่อประเด็นการข้ามแดนผิดกฎหมาย ในวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวแก่สื่อมวลชนหลังการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลว่า คนไทยที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านทุกคน แล้วมีความประสงค์จะเดินทางกลับเข้ามายังประเทศให้เข้ามาอย่างถูกกฎหมาย ตามจุดผ่านแดน เพื่อให้รัฐบาลสามารถตรวจคัดกรองโควิด-19 ได้

“นี่บ้านเรา ประเทศของเราทุกคนมีสิทธิเดินทางกลับเข้ามาอยู่แล้ว ตามช่องทางที่ถูกต้อง เข้ามาอย่างถูกกฎหมาย ไม่ต้องกลัวว่าหากติดเชื้อแล้วจะต้องมารับการรักษา มันเป็นสิ่งที่ดี ดีกว่าเข้ามาแล้วไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร แล้วก็หลบหนี ตัวเองติดเชื้อก็ไปติดคนอื่น นำความเดือดร้อนให้กับคนอื่นอีกมากมาย… ปัญหาคือ ทุกคนไม่อยากถูกกักตัว 14 วัน ก็อยากจะหลบ อยากจะไปทำอย่างอื่น จริง ๆ แล้วมันเป็นผลเสียมากกว่า” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

ผบ.ฉก.นราธิวาสพร้อมมอบ 1 หมื่นบาท แก่ผู้แจ้งเบาะแสจับนายหน้าแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย

พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวหลังการประชุม เพื่อวางมาตรการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวและแรงงานไทย ที่อาจฉวยโอกาสลักลอบหนีข้ามแดนจากประเทศมาเลเซียเข้าสู่ประเทศไทยว่า ปัจจุบันได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มกำลังเพื่อสกัดช่องโหว่บริเวณพรมแดนไทยมาเลเซีย เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายแล้ว

“หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นรอบที่ 2 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวที่แอบลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ จากรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ถึงปัจจุบัน จำนวน 93 ครั้ง รวมแรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุมจำนวน 525 คน อีกทั้งยังมีแนวโน้มต่อการเตรียมลักลอบเข้าไทยตามช่องทางธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากมาเลเซียประกาศล็อกดาวน์” พล.ต.ไพศาล กล่าว

“เราได้เตรียมตั้งรางวัลนำจับ 10,000 บาท ให้กับผู้ชี้เบาะแส ในการจับกุมขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวและแรงงานไทยเข้าประเทศ ซึ่งหากกลุ่มขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศถูกจับกุมได้ ปัญหาการลักลอบข้ามแดนจากฝั่งมาเลเซียจะหมดไป ส่งผลให้อัตราความเสี่ยงต่อการนำเชื้อโควิด-19 จากประเทศมาเลเซีย เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทยจะลดน้อยลงในที่สุด” พล.ต.ไพศาล กล่าวเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติวานนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยต่อสื่อมวลชนถึงการตรวจสอบขบวนการขนแรงงานต่างด้าวซึ่งเป็นต้นเหตุการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีว่า จากการสืบสวนทำให้เชื่อได้ว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว โดยปัจจุบัน มีผู้ต้องสงสัย 33 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นาย โดยจะเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และเบื้องต้นจะออกหมายจับ 8 รายในสัปดาห์หน้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการนำเข้าแรงงานเมียนมาไปยังจังหวัดสมุทรสาคร

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง