ภาคการท่องเที่ยวไทยรอนักท่องเที่ยวจีนกลับมาฟื้นฟู

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2022.09.27
กรุงเทพฯ
ภาคการท่องเที่ยวไทยรอนักท่องเที่ยวจีนกลับมาฟื้นฟู เณรเดินผ่านหน้าเจดีย์ วัดเจดีย์หลวง หนึ่งในวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะเยี่่ยมชมและสักการะ จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 31 ตุลาคม 2563
เอเอฟพี

แม้ว่ารัฐบาลเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัวมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยกว่าห้าล้านคน ณ ปัจจุบัน แต่การขาดนักท่องเที่ยวจากจีน ทำให้เจ้าของรีสอร์ทและแรงงานในภาคการท่องเที่ยวยังไม่สามารถฟื้นตัวจากพิษโควิดได้

วรมนต์ ชัยรัต เจ้าของรีสอร์ต ในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กำลังคิดว่าจะขายรีสอร์ตหนึ่งในสองแห่งทิ้งไป เพราะหลังจากเปิดประเทศมาแล้วหลายเดือน ตนมีรายได้ไม่ถึงร้อยละ 20 ของที่เคยมี ขณะที่ธนาคารให้เริ่มกลับมาชำระหนี้ หลังได้พักชำระไปสองปี

“ถ้าคนจีนกลับมาอาจจะไม่ขายรีสอร์ต แต่ถ้าไม่มีวี่แววว่าประเทศจีนจะเปิดให้คนออกมาเที่ยว คงต้องขาย เพราะแบกรับภาระหนี้ไม่ไหว” วรมนต์ วัย 53 ปี กล่าวกับเบนาร์นิวส์

“สองปีกว่าที่ผ่านมา รายได้เป็นศูนย์ แต่รายจ่ายเกิดขึ้นทุกวัน แม้ว่าตอนนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวหลังเปิดประเทศ รายได้ไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของเมื่อก่อน ไม่พอใช้หนี้” 

นับตั้งแต่การระบาดมา เมื่อเดือนธันวาคม 2562 จนกระทั่งปัจจุบัน โควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 6.54 ล้านคน และได้ทำให้การท่องเที่ยวทั่วโลกชะงักลง ซึ่งในปี 2563 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนประเทศไทยเพียง 6.7 ล้านคน (เป็นชาวจีน 1.2 ล้านคน) ลดลงจาก 39.9 ล้านคน (เป็นชาวจีน 11,138,658 ล้านคน) นำเงินตราเข้าประเทศ 1.9 ล้านบาท กว่าหนึ่งส่วนสี่ หรือ 531,576.65 ล้านบาท เป็นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีน

เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลจีนดำเนินมาตรการจำกัดการเดินทางเข้าและออกนอกประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยว ระงับการดำเนินกิจกรรมของบริษัทนำเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ทำให้นักท่องเที่ยวจากจีนเริ่มยกเลิกการเดินทางมาประเทศไทยตั้งแต่นั้นมา

“นักท่องเที่ยวจีนคือสวรรค์เลยนะ 80 เปอร์เซ็นต์ของลูกค้าของรีสอร์ตเป็นคนจีน นักท่องเที่ยวจีนคือความหวังที่ทุกคนรอ เพราะทุกคนเห็นแล้วว่า นักท่องเที่ยวจีนทำให้หลายคนร่ำรวยขึ้น” วรมนต์กล่าว

วรมนต์ ทำธุรกิจที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวมา 16 ปีแล้ว เริ่มต้นจากการให้บริการห้องพักกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบ backpacker ชื่อ Bamboo Hut ลักษณะเป็นกระท่อมไม้ไผ่ มีห้องน้ำรวม กระทั่งห้าหลังจากนั้น วรมนต์ตัดสินใจซื้อที่ดินสร้างรีสอร์ตสี่ดาวแห่งแรกที่ริมแม่น้ำปาย และได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพราะปายเริ่มเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวไทยและเทศ

เมื่อห้าปีที่แล้ว วรมนต์ตัดสินใจซื้อที่ดินสร้างรีสอร์ตแห่งที่สอง ห่างจากที่แรกไม่กี่ร้อยเมตร เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นักท่องเที่ยวชาวจีนหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย เธอเปิดร้านอาหารเพิ่มเติม มีรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมาก

“ก่อนโควิด นักท่องเที่ยวจีนเยอะมากเพราะคนของเขาเยอะ เวลาคนจีนเข้าห้องพักจะเต็มหมด จนไม่มีห้องเหลือให้นักท่องเที่ยวฝรั่งกับคนไทยได้เลย” วรมนต์กล่าว “ภาพรวมทั้งปี ของนักท่องเที่ยวจีน ฝรั่ง คนไทย มันจะ full booking ตลอดปี”

ด้านเจ้าของบริษัทนำเที่ยว Brightness Tour ที่ให้บริการมากว่า 20 ปี กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลางทางยอดนิยมที่คนจีนชอบเดินทางมาพักผ่อน นับตั้งแต่จีนเปิดประเทศ เพราะอยู่ใกล้ สะดวกในการเดินทาง แหล่งท่องเที่ยวถูกใจ และราคาไม่แพง

“คนจีนมาได้ทั้งปี ก่อนโควิดผมไม่มีเวลาว่างอยู่บ้านเลย อยู่ภูเก็ตตลอด นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาภูเก็ตเป็นหมื่น ๆ คน ปกตินักท่องเที่ยวสี่ถึงห้าพันคนก็แน่นแล้ว ตอนนั้นแน่นไปหมด ภูเก็ต พังงา สมุย สุราษฯ กระบี่ แน่นทุกที่” นิรัน แซ่ซือ เจ้าของ Brightness Tour ระบุ

“ผมรับลูกค้าคนจีนวันละ 200-300 คน ต่อวัน เครื่องบินขึ้น-ลง ตลอดเวลา ยุ่งมาก... ตอนนี้ไม่เห็นเลย” นิรัน กล่าว

ช่วงก่อนโควิด บริษัทฯ ทัวร์ของนิรัน มีพนักงานรวมไกด์ทำงานมากกว่า 20 คน ในการจัดการเดินทางโดยเฉพาะให้นักท่องเที่ยวชาวจีน วันนี้ เปิดประเทศแล้ว นิรัน จ้างพนักงานได้เพียง 3 คน

“ไม่มีเงินจ้างเขา เพราะตั้งแต่โควิดเราก็ปิดมาตลอด โชคดีที่มีเงินสำรองไว้บ้าง แต่ตอนนี้ก็พร่องไปมากแล้ว” นิรัน กล่าว

ความหวังและการปรับตัว

หลังจากมีการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่น เมื่อเดือนธันวาคม 2563 องค์การท่องเที่ยวโลก (UN World Tourism Organization - UNWTO) ระบุว่า หลายประเทศทั่วโลก ได้ใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง รวมถึงการห้ามนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ประเทศ เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 เป็นต้นมา

ในเดือนเมษายน 2563 หลายประเทศที่เป็นตลาดนักเที่ยวหลักของประเทศไทย เช่น จีน มาเลเซีย รัสเซีย อินเดีย ประกาศปิดพรมแดน และประกาศให้ประชาชนงดเว้นการเดินทางหากไม่จำเป็น ส่งผลให้ตลอดเดือนเมษายน 2563 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยเป็นศูนย์

การประกาศใช้มาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อธุรกิจภาคการท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการใช้จ่ายของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่ถือเป็นนักท่องเที่ยวหลักหล่อเลี้ยงธุรกิจท่องเที่ยวประเทศไทย และนักท่องเที่ยวชาวจีนถือว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายกว่าหนึ่งส่วนสี่ของยอดใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวทุกประเทศรวมกัน

“เจ็บปวดทุกแขนง ห้างร้านก็เจ็บปวด ต้องควักเนื้อควักทุนกันไป เอกชนเดือดร้อนกันหมด เรียกได้ว่าเช็ดน้ำตาจนไม่มีน้ำตาให้เช็ด” นิรันกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในปี 2563 นี้ รัฐบาลไทยตั้งเป้าว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยอย่างน้อย 10 ล้านคน หลังหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการยกเลิกการจำกัดการเดินทาง

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลวางเป้าหมายสนับสนุนการท่องเที่ยว และเชื่อว่าหากเป็นไปตามสถานการณ์ท่องเที่ยวที่เอื้ออำนวยในทุกด้าน (Best Case Scenario) คาดว่าจะมีรายได้รวม 2.38 ล้านล้านบาท

ภายหลังรัฐบาลผ่อนคลายเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศไทยของชาวต่างชาติและเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวของไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตั้งแต่ต้นปี 2565 จนถึงเดือนกันยายน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยกว่า 5 ล้านคนแล้ว คาดว่าจนถึงสิ้นปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาได้ตามเป้าหมายที่ 10 ล้านคน หรือมากกว่านั้น” นายอนุชา กล่าว

นักวิเคราะห์หลายคน ระบุว่า จีนอาจจะยังไม่เปิดประเทศเร็ว ๆ นี้ โดยมีความหวังว่าจะได้รับข่าวดีหลังการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ในเดือนพฤศจิกายนว่า จีนจะมีมาตรการผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศได้

ส่วนนิรัน อัพเดทสถานการณ์การเปิดประเทศในจีนว่า สถานการณ์ตอนนี้ โควิดยังไม่หายดี ทางการจีนต้องการให้ประชาชนของจีนปลอดภัย ไม่อยากปล่อยให้ออกไปทั่วโลกแล้วติดเชื้อเข้าในประเทศเพิ่ม และยังไม่มียาที่รักษาโควิดให้หายได้

อย่างไรก็ตาม นิรัน หวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากฮ่องกง มาเก๊า เดินทางเข้ามาประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้

“ตอนนี้ ความหวังว่าเผื่อทางฮ่องกงจะเปิด แต่ตอนนี้เราอาศัยทัวร์คนในประเทศไปเที่ยวต่างประเทศ” นิรันกล่าว

ทั้งวรมนต์และนิรัน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ลักษณะนักท่องเที่ยวหลังเปิดประเทศเปลี่ยนแปลงไปมาก โควิดทำให้คนจนลง ค่าครองชีพสูงขึ้น หลายคนตกงานเพิ่งได้งานทำ แม้ว่าจะอยากเที่ยวแต่ยังไม่มีกำลังพอจะใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ขณะที่นักเดินทางในช่วงนี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น ครอบครัวที่ร่ำรวย ไปกันเองเป็นส่วนตัว ไม่ไปเป็นทัวร์เหมือนเมื่อก่อน

“รายได้ตอนนี้เหมือนหิ่งห้อยเพิ่งเริ่มมีแสง ยังคำนวนไม่ได้ ตั้งแต่ปิดประเทศจนถึงวันนี้รัดเข็มขัดอย่างแรง” นิรันกล่าว

นิรัน กล่าวอีกว่า ธุรกิจท่องเที่ยวเปลี่ยนไปมาก ทำธุรกิจตอนนี้ต้องใช้เงินสดทั้งทัวร์ในประเทศและต่างประเทศ เอเย่นต์ที่เคยทำงานร่วมกันปิดไปหลายที่ เอเย่นต์ที่ยังดีลกันได้อยู่ก็ต้องเริ่มกันใหม่ ขณะที่การลงทุนใหม่ในช่วงนี้มีความสำคัญเพราะของแพงขึ้นมาก

“ความรู้สึกเหมือนเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ เหมือนเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว” นิรัน กล่าวพร้อมระบุว่า ขอเวลาประเมินสถานการณ์อีก 6 เดือน ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

“หวังว่ารัฐบาลจีนจะเข้าใจปล่อยคนของเขาออกมา แต่ถ้าไม่เข้าใจก็ลำบาก” นิรันกล่าวทิ้งท้าย

ที่อำเภอปาย วรมนต์ นั่งล้อมวงคุยกับครอบครัวถึงแนวโน้มสถานการณ์ในอนาคตกับหนี้สินธนาคารหลายสิบล้านบาท

เดือนที่ผ่านมา วรมนต์ บอกว่าโชคดีที่ได้นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลกลุ่มใหญ่ มาช่วยต่อลมหายใจ เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มากันเองเป็นส่วนตัว หรือมาเป็นกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่ ที่พร้อมใช้จ่าย

เดือนก่อนหน้า วรมนต์รับลูกค้าชาวรัสเซียที่ขนเงินสดออกนอกประเทศก่อนเกิดสงคราม และยังกลับประเทศไม่ได้

แต่รายได้ที่ได้รับหลังหักค่าใช้จ่ายส่งได้เพียงดอกเบี้ยของธนาคารเท่านั้น วรมนต์บอกว่า ถ้าหมดสิ้นเดือนตุลาคมนี้จีนยังไม่เข้า ยุโรปยังไม่เข้า คือจบ ไม่มีรายได้เลย คนไทยไม่เที่ยวแล้วเพราะทุกคนจนลง

“ถ้าคนจีนปล่อยให้คนออกมาเที่ยวเมื่อไหร่ เชื่อว่าฟื้นตัวแน่นอน กลับมามีรายได้เหมือนเดิมแน่นอน ถ้านักท่องเที่ยวจีนเข้ามานี่คือ สวรรค์เลย ขายอะไรก็ได้ขาย” วรมนต์กล่าวด้วยความหวัง

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง

ความคิดเห็น

จันทร์
Sep 28, 2022 02:13 AM

เป็นความคิดที่โคตร้หี้ยตกต่ำที่สุด ต้องให่รักท่องเที่ยสจีนที่มีพฤติกรรมที่ต่ำทรามไร้มารยาทที่สุด มาฟื่นฟูเศรษฐกิจไทย มึงคิดแบบนี้ชาติถึงได้ถูกจีนเอาไปเป็น
มรนัฐบสลเหี้ยๆมีคนเหี้ยๆที่มีหน้าที่อำนาจคิดได้แค่นี้
ประเทศไทยที่ไม่ใช่ของคนไทย