ศาลสั่งส่งตัว “เตียว ฮุย ฮวด” ให้จีนนำไปดำเนินคดีฉ้อโกง
2023.01.18
กรุงเทพ

ในวันพุธนี้ ศาลอาญามีคำสั่งให้ส่งตัว นายเตียว ฮุย ฮวด นักธุรกิจชาวมาเลเซีย เป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปให้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อไปดำเนินคดีฉ้อโกงชาวจีนในมาเลเซีย เหตุเกิดเมื่อสี่ปีก่อน
นายเตียว ฮุย ฮวด (Teow Wooi Huat) ได้หลบหนีมายังประเทศไทยและทำธุรกิจการพนันที่ด่านนอก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา แล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจับตัวได้เมื่อเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว ตามคำขอของทางการจีน ซึ่งได้ขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนในเวลาถัดมาเมื่อเดือนกันยายน
นายเตียว หรือเทดดี้ เป็นเจ้าของกิจการอาณาจักรด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ MBI Group และเป็นผู้ก่อตั้ง MBI International Sdn Bhd ตามการรายงานของสำนักข่าวเบอร์นามา ซึ่งเป็นสำนักข่าวทางการของมาเลเซีย
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล ผช. ผบ.ตร. กล่าวว่า ทางการจีนได้ขอตัวนายเตียวเพื่อไปดำเนินคดีฉ้อโกง เพราะนายเตียวถูกกล่าวหาว่าได้หลอกลวงชาวจีนในมาเลเซียให้ลงทุนในธุรกิจที่มีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ จนกระทั่งในปี 2562 ได้มีกลุ่มชาวจีนที่ได้รับความเสียหายรวมตัวกันที่หน้าสถานทูตจีนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อเรียกร้องให้ทางการมาเลเซียช่วยเหลือ
นายจุติ สวนรักษา ทนายความของนายเตียว ได้ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ถูกร้องขอถูกกลั่นแกล้งโดยพรรคการเมืองพรรคหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งร่วมมือกับนักการเมืองในจีนบางส่วน ทั้งที่ทราบดีว่าผู้ถูกร้องขอไม่ได้กระทำความผิดตามคำร้องขอของจีนให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน
อย่างไรก็ตาม ศาลอาญามีความเห็นต่างออกไป โดยระบุว่า การขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนนี้เป็นความผิดตามกฎหมายสาธารณรัฐประชาชนจีน และกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นความผิดอาญาที่มีโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป และความผิดที่มีลักษณะทางการเมือง หรือเป็นความผิดทางทหาร ตามความแห่ง พรบ. ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 มาตรา 19
“ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังยุติได้ว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับราชอาณาจักรไทย มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2542” ผู้พิพากษาศาลอาญาอ่านคำตัดสินผ่านทางวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ให้แก่นายเตียว ซึ่งนั่งฟังการพิพากษาอยู่ในเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพฯ ได้รับทราบ
“การกระทำของผู้ถูกร้องขอ (นายเตียว ฮุย ฮวด) ครบองค์ประกอบความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และชักชวนบุคคลเข้าร่วมเครือข่ายในการประกอบธุรกิจขายตรง... จึงมีคำสั่งขังผู้ถูกร้องขอไว้เพื่อส่งตัวข้ามแดนไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป” ผู้พิพากษาศาลอาญากล่าว
หลังการตัดสิน ศาลได้ตอบคำถามของนายเตียวถึงสิทธิการอุทธรณ์คำสั่งว่า สามารถทำได้ในเวลา 30 วัน และหากชั้นอุทธรณ์มีความเห็นว่าให้ส่งตัวนายเตียวไปประเทศจีน ก็ให้ส่งตัวภายในเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งถึงที่สุด หรือตามแต่ศาลจะขยายเวลา ซึ่งทนายความระบุว่า จะได้ขอคัดคำพิพากษาเพื่อศึกษารายละเอียด และจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป
ในคำร้องของสำนักงานอัยการสูงสุดระบุว่า นายเตียวมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาสาธารณรัฐประชาชนจีน มาตรา 224 วรรคหนึ่ง มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และโทษปรับ และหากเป็นกรณีที่มีพฤติการณ์ร้ายแรง มีอัตราโทษจำคุก 5 ปีขึ้นไป และโทษปรับ
คำร้องระบุถึงความผิดฐานจัดตั้งองค์กรที่ชักจูงและประกอบการขายตรง โดยแอบอ้างเป็นธุรกิจการให้บริการ โดยให้ผู้เข้าร่วมชำระเงินค่าบริการหรือซื้อสินค้าเพื่อเข้าเป็นสมาชิก ให้มีการจัดลำดับชั้นในลักษณะแชร์ลูกโซ่เพื่อขยายฐานผู้เข้าร่วมมากขึ้นเพื่อนำมาคิดคำนวณเป็นค่าตอบแทน มีพฤติกรรมชักชวน ข่มขู่ให้ผู้อื่นมาเข้าร่วมหลอกเอาทรัพย์สิน โดยส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม
หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า นายเตียวได้ฉ้อโกงเป็นมูลค่าหลายร้อยล้านริงกิต ขณะที่สำนักข่าวเบอร์นามารายงานว่า ในปี 2560 ทางการมาเลเซียได้ยึดบัญชีเงินฝากที่เชื่อมโยงกับ MBI International เป็นเงินกว่า 177 ล้านริงกิต
วันนี้ นอกจากทนายความของนายเตียวแล้ว ยังมีล่ามภาษาจีนส่วนตัว เจ้าหน้าที่จากสถานทูตจีน สถานทูตมาเลเซีย ผู้ช่วยส่วนตัวของนายเตียว รวมถึงคนสนิท นิติกรจากสำนักงานอัยการสูงสุด และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มาร่วมรับฟังคำพิพากษาด้วย
ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนนี้ ทางการมาเลเซียได้ขอตัวนายเตียวไปดำเนินคดีฉ้อโกงในประเทศมาเลเซีย หลังจากที่ทางการจีนได้ขอตัวก่อนแล้ว ศาลจึงปฏิเสธคำขอของฝ่ายมาเลเซียที่จะให้เลื่อนการอ่านการพิจารณาคำขอของทางการจีน
ด้าน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในขณะที่จับกุมตัวนายเตียวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 นั้น ทางการมาเลเซียไม่ได้ส่งมอบหมายจับให้ฝ่ายไทยช่วยจับตัวนายเตียวแต่อย่างใด