กองทัพเรือยอมใช้เครื่องยนต์เรือดำน้ำจีนหากผ่านเงื่อนไขสามข้อ

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2023.04.26
กองทัพเรือยอมใช้เครื่องยนต์เรือดำน้ำจีนหากผ่านเงื่อนไขสามข้อ เรือหลวงช้าง เรือสนับสนุนการยกพลขึ้นบกลำใหม่ที่กองทัพเรือจะใช้เป็นเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำอีกหนึ่งภารกิจ เดินทางเข้าสู่น้ำไทยหลังจากได้รับมอบจากจีน วันที่ 14 เมษายน 2566
กองทัพเรือไทย

พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดเผยว่า กองทัพเรือจะยอมให้อู่ต่อเรือดำน้ำจีนติดตั้งเครื่องยนต์ที่ผลิตในประเทศจีนแทนเครื่องยนต์เอ็มทียูของเยอรมนี ถ้าหากว่ากองทัพเรือจีนให้การรับรองว่าเครื่องยนต์ของตนมีความปลอดภัย และทางการจีนมีมาตรการที่เหมาะสมในการชดเชยความล่าช้าในการส่งมอบเรือดำน้ำ S26-T ให้กับกองทัพเรือไทย

พล.ร.อ. เชิงชาย กล่าวกับสื่อมวลชนที่ท่าเทียบเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในวันอังคารที่ผ่านมานี้ว่า ตนได้เดินทางไปพูดคุยกับ พล.อ. หลี่ ซ่าง ฝู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของจีน ในช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้ ทำให้ได้ข้อสรุปเบื้องต้น ในเรื่องเครื่องยนต์สำหรับเรือดำน้ำที่ไทยสั่งซื้อจากจีน

“บริษัท CSOC จำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์จากเครื่องยนต์  MTU396 เป็นเครื่องยนต์ CHD620 ซึ่งทำโดยจีน มีข้อพิจารณาสำคัญ 3 ข้อ คือ ข้อแรกคือ เครื่องยนต์ต้องมีความปลอดภัย, ข้อที่สอง กองทัพเรือจีนต้องให้การรับรองเครื่องนี้กับกองทัพเรือไทย และข้อที่สาม ต้องมีการชดเชยในการเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้เหมาะสมที่กองทัพเรือไทยควรจะได้รับจากการเสียโอกาสที่ได้รับเรือดำน้ำช้าเกินไป อันนี้ เป็นข้อพิจารณาสำคัญที่เราจะเดินหน้าข้อตกลงต่อ หรือเราจะยกเลิกข้อตกลง” พล.ร.อ. เชิงชาย กล่าว

พล.ร.อ. เชิงชาย ระบุว่า รัฐบาลจีนยืนยันว่าเครื่องยนต์ CHD620 มีความปลอดภัย และจะให้การรับรองเครื่องยนต์ดังกล่าวกลับมายังไทยภายในเดือนมิถุนายน 2566 หลังจากนั้น จะได้มีการตกลงกับไทยอีกทีว่าจะรับข้อเสนอหรือไม่ และไทยจะรับการชดเชยอย่างไร

“เครื่องยนต์ที่จีนสร้าง ใช้เทคโนโลยีเหมือนกับหรือใกล้เคียงกับที่เยอรมันจัดสร้าง แล้วได้มีการใช้อยู่บนเรือผิวน้ำของกองทัพเรือจีนอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเรือบรรทุกเครื่องบินก็ใช้เครื่องยนต์ CHD620” พล.ร.อ. เชิงชาย กล่าว

“แต่ว่าเขาเอาเครื่องยนต์ CHD620 มาปรับปรุงให้ติดตั้งในเรือดำน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเรือดำน้ำของกองทัพเรือไทย หรือ กองทัพเรือปากีสถานก็ตาม หรือแม้แต่เรือดำน้ำของจีนในอนาคต ทางเยอรมันก็ไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องยนต์ของเยอรมันเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นก็ต้องเป็นเครื่องยนต์ CHD620 นี่แหละครับ” พล.ร.อ. เชิงชาย กล่าวเพิ่มเติม

พล.ร.อ. เชิงชาย ระบุว่า ถ้าไทยตัดสินใจยอมรับเครื่องยนต์จีน จะใช้เวลาต่อเรือดำน้ำ S-26T ประมาณ 40 เดือนจึงจะพร้อมส่งมอบ และกำลังพลของทหารเรือจะต้องใช้เวลาฝึกการใช้งานเรือดำน้ำที่ประเทศจีน 2 ปี หรือ 2 ปีครึ่ง

ตามแผนการเดิม ไทยต้องการจัดหาเรื้อดำน้ำแบบ S-26T รวม 3 ลำ มูลค่า 36,000 ล้านบาท แต่มีการชะลอแผนดังกล่าวเนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่การเปลี่ยนเครื่องยนต์ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป

พล.ร.อ. เชิงชาย กล่าวว่า ในขณะที่ต้องชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำอีก 2 ลำ กองทัพเรือจะเปลี่ยนแผนไปจัดหาเรือฟริเกตต่อสู้เรือดำน้ำแทน โดยจะเป็นการใช้งบประมาณในร่าง พ.ร.บ. งบประมาณประจำปี 2567

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2560 กองทัพเรือไทย และบริษัท ไชน่า ชิปบิวดิ้ง แอนด์ ออฟชอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (China Shipbuilding & Offshore International Co. Ltd. – CSOC) ได้ตกลงจ้างสร้างเรือดำน้ำพลังงานดีเซล-ไฟฟ้า แบบ S-26T หนึ่งลำ มูลค่า 13,500 ล้านบาท ในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล โดยได้ลงนาม ณ อาคารรับรองรัฐบาล เตี้ยวหยูไถ่ ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และเดือนกันยายน 2561 ได้มีการพิธีตัดแผ่นเหล็กเริ่มการก่อสร้างแล้ว

ต่อมา การต่อเรือดำน้ำเจอปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ โดยข้อตกลงเดิม กองทัพเรือไทยต้องการเครื่องยนต์แบบ MTU396 ที่ผลิตในเยอรมนี แต่ทางบริษัท CSOC ไม่สามารถจัดหาให้ได้

“เยอรมนี ไม่ได้ปฏิเสธการส่งออกเครื่องยนต์เพราะว่าจะนำไปติดตั้งให้กับผลิตภัณฑ์สำหรับประเทศที่สาม คือ ประเทศไทย การส่งออกอาจถูกปฏิเสธเพราะว่ามีวัตถุประสงค์ที่จะใช้ในผลิตภัณฑ์เพื่ออุตสาหกรรมทางทหาร-การกลาโหม จีนไม่ได้บอกกล่าวหรือประสานมายังทางเยอรมนีก่อนที่จะเซ็นสัญญาไทย-จีน โดยเสนอเครื่องยนต์ MTU จากเยอรมนีเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์” นายฟิลิปป์ ดวร์ท ทูตทหารประจำสถานเอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศไทย กล่าวกับบางกอกโพสต์ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565

ทั้งนี้ สหภาพยุโรปสั่งห้ามประเทศสมาชิกค้าอาวุธกับจีน หลังจากที่จีนเคยปราบปรามการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยของนักศึกษาจีนอย่างรุนแรง ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินของปักกิ่ง ในปี 2532

ทั้งนี้ หลังจากเกิดปัญหา นายลู่ ซอง รองประธาน บริษัท CSOC และตัวแทนฝ่ายจีน กับ พล.ร.อ. เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือ ได้ร่วมประชุมหาข้อสรุปเรื่องเครื่องยนต์เรือดำน้ำ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 โดย ฝ่ายจีนได้เสนอเครื่องยนต์แบบ CHD620 ให้ไทยพิจารณาใช้แทนเครื่องยนต์เยอรมัน

รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช รองผู้อำนวยการ สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ไทยจะยังคงมีความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงที่ดีกับทั้งสหรัฐอเมริกาและจีน ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในทางการเมืองหรือการทหาร

“ถ้าทางปีกอนุรักษ์นิยม รวมไทยสร้างชาติสามารถฟอร์มรัฐบาลได้ ความสัมพันธ์กับประเทศจีนก็จะพัฒนาเพราะนายกฯ ประยุทธ์มีความสัมพันธ์กับจีนดีอยู่แล้ว มีทั้งการช่วยเหลืออาวุธยุทโธปกรณ์ หรือการค้าขาย ส่วนความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ถ้านายกฯ ประยุทธ์ชนะ เชื่อว่าอาจมีการกดดันเรื่องประชาธิปไตยเช่นเดิม แต่จะยังคงรักษาการซ้อมรบเอาไว้ เพราะถ้าหากสหรัฐแช่แข็งความสัมพันธ์กับไทย ไทยก็อาจหันหน้าเข้าหาจีนมากขึ้น” รศ.ดร. ดุลยภาค กล่าว

“ไม่ว่าอำนาจเปลี่ยนไปทางไหน ความสัมพันธ์ก็จะไม่ต่างจากเดิมมากนัก” รศ.ดร. ดุลยภาค กล่าวเพิ่มเติม

ประเทศไทยเคยมีเรือดำน้ำที่ซื้อจากประเทศญี่ปุ่นประจำการ 2 ลำ ตั้งแต่ปี 2480 และได้รับล็อตที่สองอีก 2 ลำ ในปี 2482 แต่ปลดประจำการไปนานแล้ว

ต่อมาในสมัยรัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา ในปี 2538 กองทัพเรือได้เสนอโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำจากบริษัท ค็อกคุมส์ ประเทศสวีเดน แต่ไม่ผ่านอนุมัติรัฐสภา กระทั่งในปี 2555 รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็มีการเสนอโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำมือสองชั้น U-206 A จากเยอรมนี 4 ลำ แต่โครงการได้ชะงักไปเนื่องจากมีกระแสต่อต้าน

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง