ไทย-สหรัฐ เปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ 2023 เป็นทางการ

กองทัพสหรัฐ และกองทัพไทย ซึ่งเป็นชาติพันธมิตรนอกกลุ่มนาโต้ที่สำคัญของสหรัฐ ร่วมเปิดการฝึกซ้อมรบร่วมคอบร้าโกลด์ ครั้งที่ 42 อย่างเป็นทางการ ในวันอังคารนี้ ที่สนามบินอู่ตะเภา จังหวัดระยอง โดยในปีนี้ ยังเป็นการฉลองวาระครบรอบ 190 ปี ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา

การฝึกร่วมผสมทางทหารคอบร้าโกลด์ ซึ่งกองทัพไทยและกองกำลังสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก ร่วมกันเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 10 มีนาคม 2566 โดยมี 7 ชาติหลัก เข้าร่วมฝึกในภารกิจทางทหาร คือ ไทย, สหรัฐอเมริกา, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้ และมาเลเซีย และมีกำลังพลเกือบหนึ่งหมื่นคนเข้าร่วมการฝึกบนภาคพื้นดินและภาคพื้นทะเล เป็นฝ่ายไทย 2,601 นาย เป็นกำลังฝ่ายสหรัฐประมาณ 6,000 คน ในจำนวนนี้เป็นเป็นกำลังพลที่ร่วมการฝึกทางบกกว่า 3.8 พันคน มากที่สุดในรอบสิบปี

พล.อ. เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พร้อมด้วย นายโรเบิร์ต เอฟ โกเดค (Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และ พล.ร.อ. จอห์น ซี อากีลีโน (John C. Aquilino) ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกโดยมีเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ประจำประเทศไทย ร่วมพิธีเปิดต่อหน้ากำลังพลจากประเทศผู้เข้าร่วม

“ปีนี้ การฝึกคอบร้าโกลด์ ซึ่งเป็นการฝึกซ้อมทางทหารนานาชาติที่ยาวนานที่สุดในโลก จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 42 และในปีนี้เช่นกันความสัมพันธ์ทางการทูตสหรัฐฯ-ไทย มีอายุครบรอบ 190 ปี... กำลังพลหนุ่มสาวของเราจำนวนมากที่นี้ในวันนี้ จะกลายเป็นผู้นำกองทัพของเราในอนาคต ผมขอย้ำกับพวกเขาเหล่านี้ว่าความสัมพันธ์ที่ท่านก่อร่างขึ้นระหว่างการฝึกนี้จะช่วยให้ท่านเป็นผู้นำที่ดีขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงที่เรามีร่วมกัน” นายโกเดค กล่าวระหว่างการเปิดงาน

ขณะที่ พล.ร.อ. อากีลีโน กล่าวว่า การฝึกคอบร้าโกลด์ ประจำปี 2566 เสริมสร้างความสามารถของเราในการวางแผนและการปฏิบัติการร่วมผสมที่มีความซับซ้อนเพื่อรักษาความมั่นคงและสันติภาพทุกรูปแบบในทุกมิติ

“การฝึกคอบร้าโกลด์แสดงถึงความมุ่งมั่นของเราในการตอบโต้ความท้าทายแห่งอนาคตร่วมกัน โดยธำรงไว้ซึ่งอินโด-แปซิฟิก ที่เสรีและเปิดกว้าง ภูมิภาคซึ่งบรรดาประชาชาติเจริญมั่งคั่งได้ การฝึกคอบร้าโกลด์เป็นตัวอย่างที่ดีเลิศของความร่วมมือระดับพหุภาคี ซึ่งเป็นรากฐานความมั่นคงระดับภูมิภาคและทั่วโลก” พล.ร.อ. อากีลีโน กล่าว

กองกำลังทหารจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ 90 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่จนมีความขัดแย้งกับชาติอาเซียนบางประเภทและสหรัฐ จะเข้าร่วมในการดำเนินโครงการช่วยเหลือประชาชน ร่วมกับอินเดียและออสเตรเลีย ส่วนประเทศอื่น ๆ อีก 20 ประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาสาธารณภัย หรือเป็นผู้สังเกตุการณ์

ด้าน พล.อ. เฉลิมพล ในฐานะประธาน และประเทศเจ้าภาพ ระบุว่า การฝึกคอบร้าโกลด์ในปีนี้ เป็นการกลับมาฝึกอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง หลังจากที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องลดกิจกรรมการฝึกภาคสนามและจำนวนกำลังพลลง

“ผู้เข้าร่วมกว่า 7 พันคน จาก 30 ประเทศที่เข้าร่วมครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายที่สวยงามร่วมกันคือ การพบเพื่อนใหม่จากประเทศอื่น ผมขอให้ทุกท่านใช้เวลานี้ ทำความรู้จักซึ่งกันและกัน เพื่อเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และแบ่งปันประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ผมต้องขอขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ​ และกองกำลังภาคพื้นอินโด-แปซิฟิกสหรัฐฯ ซึ่งร่วมกันจัดการฝึกคอบร้าโกลด์ทุกปีมาตั้งแต่ปี 1982” พล.อ. เฉลิมพล กล่าว

พล.ร.อ. จอห์น ซี อากีลีโน ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก พูดคุยกับกำลังพลทหารอเมริกัน หลังการเปิดการฝึกซ้อมรบร่วมคอบร้าโกลด์ 2023 ที่สนามบินอู่ตะเภา จังหวัดระยอง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 (ภิมุข รักขนาม/เบนาร์นิวส์)

สำหรับการฝึกสำคัญในปีนี้ สามารถแบ่งได้เป็น 3 การฝึกหลักคือ 1. การฝึกปัญหาที่บังคับการ (Command Post Exercise : CPX) เป็นการฝึกอำนวยการยุทธ์ของกำลังรบขนาดใหญ่ เพื่อรองรับภัยคุกคามทุกรูปแบบในทุกมิติ คือ ทางบก ทางทะเล ทางอากาศ ทางด้านไซเบอร์ และทางอวกาศ โดยเป็นปีแรกที่มีการฝึกด้านอวกาศ

2. โครงการช่วยเหลือประชาชน (Humanitarian Civic Assistance: HCA) ได้แก่ การก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์สำหรับโรงเรียนในพื้นที่การฝึก และการฝึกการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ และ 3. การฝึกภาคสนาม (Field Training Exercise: FTX) ของกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ มีการฝึกการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก การกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ การอพยพพลเรือนจากพื้นที่ความขัดแย้ง และการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง

การฝึกคอบร้าโกลด์ เป็นการฝึกร่วมผสมทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปีนี้ จะจัดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ลพบุรี ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา โดยมีการฝึกสะเทินน้ำสะเทินบก ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในวันที่ 3 มีนาคม 2566 รวมถึงการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ที่ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ในวันที่ 10 มีนาคม 2566