กรุงเทพฯ สั่งปิดสถานบันเทิงต่อถึงกลางมกราคม

สธ. เผย ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 740 ราย
นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2021.12.29
กรุงเทพฯ
กรุงเทพฯ สั่งปิดสถานบันเทิงต่อถึงกลางมกราคม นักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564
เอพี

กรุงเทพมหานครออกประกาศในวันพุธนี้ ให้ขยายระยะเวลาการปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ และสถานอาบอบนวด ไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2565 หลังจากที่มีการระบาดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนภายในประเทศมากขึ้นเป็น 740 ราย ซึ่งส่วนหนึ่งจากคลัสเตอร์ผับสองแห่งในจังหวัดกาฬสินธ์ุที่แพร่ไปยังจังหวัดอื่น ๆ อีก 10 จังหวัด

เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า ในวันนี้ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 740 ราย ใน 33 จังหวัด เป็นการติดต่อภายประเทศ 251 ราย โดยในจำนวนนี้ เป็นยอดผู้ติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ รวม 277 คน และในกาฬสินธ์ุ 248 ราย ซึ่งตรวจพบเมื่อวันที่ 12 และ 13 ธันวาคม ศกนี้

ด้าน พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงนามในประกาศ กทม. เรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 48 ให้ขยายเวลาการปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และอาบอบนวด

“ให้เจ้าของสถานที่ ผู้ประกอบการ ผู้ใช้บริการ ผู้ร่วมกิจกรรม และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามที่ระบุไว้ในประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 47) ลงวันที่ 29 พ.ย. 64 ต่อเนื่องไปอีกจนถึงวันที่ 15 ม.ค. 65 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง” ประกาศ กทม. ระบุ

ก่อนหน้านี้ ประกาศฉบับที่ 47 ลงวันที่ 29 พ.ย. 2564 ได้ระบุให้สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และอาบอบนวด ซึ่งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปิดจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 แต่ร้านที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการร้านอาหาร สามารถเปิดให้บริการ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านได้จนถึงเวลา 23.00 น.

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้มีการสั่งปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ และอาบอบนวด มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 หลังพบการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่สามในประเทศไทย และมีต้นตอมาจากสถานบันเทิงในซอยทองหล่อ ในกรุงเทพฯ และสถานบันเทิงในย่านปริมณฑล

ส่วนเรื่องการรระบาดจากคลัสเตอร์ผับกาฬสินธ์ุนั้น ได้กระจายไปใน 11 อำเภอ กลายเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์แพร่ไป อุดรธานี มหาสารคาม ร้อยเอ็ด หนองบัวลำภู สกลนคร ลำพูน อุบลราชธานี พิษณุโลก ลำปาง และเพชรบูรณ์ นพ. โอภาส การ์ยกวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุ

รัฐเตือนระวังโอไมครอนและการฉลองปีใหม่

ประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมนี้ ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวสหรัฐที่เดินทางมาจากสเปน ก่อนที่จะพบการติดเชื้อจากคนไทยสู่คนในประเทศเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2564

ในวันนี้ น.ส. ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลยังคงให้เอกชนจัดกิจกรรมช่วงปีใหม่ แต่พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้หน่วยงานรัฐติดตามการจัดงานตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

“ต้องเฝ้าระวังการกลับมาแพร่ระบาดอีกทั้งสายพันธุ์โอไมครอน ที่จะมาจากต่างประเทศและสายพันธุ์ดั้งเดิมที่มีแพร่ภายในประเทศ ท่านนายกรัฐมนตรีจึงขอให้ดำเนินการเข้มงวดขึ้น โดยให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องในการติดตามตรวจสอบการจัดงานเทศกาลปีใหม่ ในทุกพื้นที่ให้อยู่ภายใต้มาตรการที่เคร่งครัด หากพบการฝ่าฝืนให้ดำเนินการยุติการจัดงานทันที” น.ส. ไตรศุลี กล่าว

ด้าน นพ. โอภาส ได้กล่าวเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวัง “อยากฝากเป็นอุทาหรณ์ปีใหม่ ว่าถ้าไปร้านไหนดูไม่ปลอดภัยก็อย่าอยู่ ให้ไปร้านที่ปลอดภัยจะดีกว่า” นพ. โอภาส กล่าว

นายเจี๊ยบ (สงวนนามสกุล) อดีตเจ้าของร้านคาราโอเกะ ย่านดอนเมือง กรุงเทพฯ อายุ 51 ปี กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า “ผมปิดร้านถาวรแล้ว ขายของในร้านหมดแล้ว อันที่ขายไม่ได้ก็บริจาค จะเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่น เพราะดูแล้ว อีกนานกว่าจะได้กลับมาทำงานแบบปกติ ผมอยู่ไม่ไหวหรอก หนีดีกว่า ไปทำอย่างอื่นดีกว่า”

ด้าน กรุงเทพโพลล์ เปิดเผยผลสำรวจ ประชาชนอายุระหว่าง 18-61 ปี จากทั่วประเทศ ระบุว่า มีจำนวนถึง 51.5 เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่มีแผนที่จะเดินทาง เนื่องจากต้องการจะอยู่บ้าน เพราะกลัวการแพร่ระบาดของโควิด-19 และผลสำรวจยังพบว่า 86.2 เปอร์เซ็นต์ กังวลว่า การเฉลิมฉลองปีใหม่ในสถานบันเทิงจะทำให้เกิดการแพร่ระบาด

ในวันพุธนี้ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,575 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 2.21 ล้านราย เสียชีวิตเพิ่ม 17 ราย และเสียชีวิตสะสม 2.16 หมื่นราย ปัจจุบันสามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้แล้ว 103.43 ล้านโดส เป็นผู้ที่ฉีดครบสองเข็ม 45.74 ล้านราย และฉีดสามเข็ม 6.55 ล้านราย

คุณวุฒิ บุญฤกษ์ จากเชียงใหม่ ร่วมรายงาน

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง