รัฐบาลไทยตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเจาะตลาดฮาลาลโลก

มารียัม อัฮหมัด
2022.03.31
ปัตตานี
รัฐบาลไทยตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเจาะตลาดฮาลาลโลก แม่ค้าชาวมุสลิมจัดเรียงโรตีที่ทอดเสร็จแล้วที่ตลาด ในวันแรกของเดือนถือศีลอดของชาวมุสลิม ในจังหวัดนราธิวาส วันที่ 24 เมษายน 2563
เอเอฟพี

รัฐบาลไทยมีมติให้ตั้งคณะทำงานฮาลาลไทยแลนด์ (Thailand Halal Taskforce) เพื่อเจาะตลาดอาหารฮาลาลโลกที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต โดยใช้ฐานการผลิตในห้าจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเป็นผลมาจากประเทศซาอุดีอาระเบียอนุญาตให้นำเข้าไก่แปรรูปจากไทยอีกครั้ง หลังรัฐบาลเจรจาการค้าการลงทุนกับซาอุดีอาระเบียสำเร็จ และเตรียมขยายการส่งออก

นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต) กล่าวกับเบนาร์นิวส์ในวันพฤหัสบดีนี้ว่า ทาง ศอ.บต. ได้วางแผนการบูรณาการร่วมกันกับฝ่ายต่าง ๆ เช่น ผู้แทนจากหลากหลายกระทรวง ภาคเอกชน นักวิชาการ หอการค้ามุสลิม และองค์กรที่เกี่ยวเนื่องกัน โดยเฉพาะในห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้

ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยแก่สื่อมวลชนว่า การดำเนินการก่อตั้งคณะทำงานฮาลาลไทยแลนด์ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลประสบความสำเร็จในการเจรจาการค้าการลงทุนด้านสินค้าเกษตรและอาหาร และระบบรับรองมาตรฐานฮาลาลกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และการที่ซาอุดีอาระเบียยกเลิกการห้ามนำเข้าไก่แปรรูปจากไทย และได้เปิดการอนุญาตนำเข้าไก่แปรรูปจากไทยอีกครั้ง เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565

ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือเอ็กซ์ซิมแบงค์ คาดการณ์ตลาดอาหารฮาลาลโลก จะมีมูลค่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567 เพราะตลาดอาหารสำหรับผู้นับถือศาสนาอิสลามมีความสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถเป็นตลาดหลักหรือตลาดที่มีผู้บริโภคเป้าหมายจำนวนมากและหลากหลายกลุ่ม โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรมุสลิมโลก และกระแสบริโภคอาหารปลอดภัย ซึ่งกระตุ้นโดยการระบาดของโควิด-19

การประกาศการจัดตั้งคณะทำงานฮาลาลไทยแลนด์ เป็นที่ตอบรับอย่างดีจากทางภาคเอกชน โดยคณะนักธุรกิจ และผู้นำท้องถิ่นจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เข้าหารือเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าร่วมกับกลุ่มบริษัท บีทีเอส ซึ่งมีนายคีรี กาญจนพาสน์ เป็นประธานคณะกรรมการ

“ได้แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมด้านโลจิสติกส์ ส่งออกผลไม้ท้องถิ่น เนื้อโคแช่แข็ง อาหารทะเล สร้างธุรกิจห้องเย็นเพิ่มศักยภาพ เนื่องจากในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีทรัพยากรที่สำคัญ นั่นคือ ทะเล การทำประมงจึงถือเป็นอาชีพที่สำคัญ ที่จะเป็นส่วนยกระดับเศรษฐกิจอย่างมาก หากมีการลงทุนธุรกิจห้องเย็น คาดว่าจะสามารถต่อยอดธุรกิจอีกหลาย ๆ อย่างได้อย่างดี” นางสุภาวดี โชคสกุลนิมิตร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี หนึ่งในคณะนักธุรกิจดังกล่าว

ด้าน นายคีรี กล่าวว่า ถ้ามีการศึกษาด้านการลงทุน การตลาด และสร้างความพร้อมของเกษตรกรในพื้นที่ในการรวมกลุ่มทำธุรกิจ ทางกลุ่มบริษัทของตนก็พร้อมที่จะเป็นคนกลางในการเชื่อมโยงกับนักลงทุนเพื่อพัฒนาต่อยอดได้

นับตั้งแต่ พ.ศ. 2545 เป็นต้นมา รัฐบาลไทยได้พยายามคิดค้นโครงการพัฒนาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกอาหารฮาลาล แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาความขัดแย้งและเหตุการณ์ความไม่สงบของขบวนการแบ่งแยกดินแดน

ในเรื่องนี้ นางมีเนาะ อายะบูดู ชาวจังหวัดปัตตานี ได้กล่าวแสดงความไม่มั่นใจในโครงการ เพราะแม้ว่ารัฐบาลจะมีโครงการผลักดันมาในอดีตแต่ไม่เคยเป็นผล หรือมีผลประโยชน์กับชาวบ้านจริง ๆ

“ถ้าดูในรายงานมันก็สวยหรู ทำให้ชาวบ้านมีความสุข มีความมั่นคง แต่เป็นโครงการเก่า ซึ่งในความเป็นจริงมีแต่ความว่างเปล่า ชาวบ้านก็ยังจน ยังเดือดร้อนเหมือนเดิม เชื่อว่ารัฐจะไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ เพราะโครงการต่าง ๆ ต้องขับเคลื่อนต่อเนื่อง ต้องใช้เวลา แล้วเดี๋ยวก็มีการเปลี่ยนรัฐบาล” นางมีเนาะ กล่าว

ทั้งนี้ ในเดือนเมษายน 2564 รัฐบาลเคยประกาศร่างวิสัยทัศน์การส่งเสริมอาหารฮาลาล (Thailand Halal Blueprint) ซึ่งมีเป้าหมายให้ไทยเป็นประเทศผู้นำในการผลิต การแปรรูป การส่งออกและการพัฒนาสินค้าเกษตร และอาหารฮาลาล โดยใช้หลักศาสนา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ภายในปี 2570 โดยแนวทางการพัฒนาประกอบด้วย 1. เพิ่มศักยภาพหน่วยงานรับรองมาตรฐานฮาลาล 2. สร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าเกษตรและอาหาร ด้วยมาตรฐานฮาลาลไทย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม 3. เสริมสร้างองค์ความรู้ในการผลิต และการบริหารจัดการตั้งแต่ระดับฟาร์มจนถึงผู้บริโภค 4. เพิ่มศักยภาพทางตลาด และโลจิสติกส์ 5. เพิ่มระดับความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ

เอ็กซิมซ์แบงค์ ระบุว่า ปัจจุบันประเทศผู้ส่งออกอาหารฮาลาลรายใหญ่สุดในโลก คือ สหรัฐฯ (ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 8.91) ตามด้วยเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี จีน และฝรั่งเศส ขณะที่ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารฮาลาลรายใหญ่อันดับที่ 11 ของโลก ครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 2.44 โดยมีตลาดหลัก ๆ ในกลุ่มประเทศโอไอซี และตะวันออกกลาง

ข้อมูลตลาดการค้าอาหารฮาลาลโลก ล่าสุดในปี 2557 พบว่าไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าอาหารไปยังประเทศมุสลิมอันดับที่ 10 ของโลก มูลค่าส่งออกประมาณ 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีสัดส่วนร้อยละ 3.7 ของมูลค่าการค้าอาหารในกลุ่มประเทศมุสลิมโดยรวม และมีอัตราขยายตัวร้อยละ 8 ต่อปีในช่วง 5 ปีหลัง

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง