อุสตาซโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลามรอดชีวิตจากเหตุวางระเบิด
2023.03.13
ปัตตานี

เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยในวันจันทร์นี้ว่า เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พบระเบิดที่ใต้ท้องรถของนายสายูตี หะยีตาเห ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงานภาคประชาชนของคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ระเบิดไม่ทำงานแม้ว่าคนร้ายกดจุดเชื้อปะทุแล้ว ที่บ้านในอำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี
พ.ต.อ. สืบสกุล มณีนวล ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรมายอ จังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำลายระเบิดที่ติดตั้งไว้ใต้ท้องรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร ของนายสายูตี หะยีตาเห อายุ 69 ปี อุสตาซโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลาม หรือปอเนาะพ่อมิ่ง อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี รวมถึงเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งมูลนิธิฮิลาลอะห์มัร และทำงานให้กับคณะพูดคุยฯ
“เบื้องต้นเชื่อว่า คนร้ายหวังที่จะทำร้ายนายสายูตี เพราะนายสายูตีเป็นบุคคลที่ประสานงานกับภาครัฐมาโดยตลอด น่าจะเป็นเป้าหมายของกลุ่มก่อความไม่สงบเพื่อสร้างสถานการณ์” พ.ต.อ. สืบสกุล กล่าว
“จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนพบระเบิดในช่วงเช้าของวันที่ 12 มีนาคม ลูกสาวของนายสายูตีได้ขับรถคันดังกล่าวออกไปธุระนอกบ้าน ก่อนจะกลับมาจอดรถที่โรงจอดรถในบ้านช่วงเย็น กระทั่งช่วงค่ำ หลานได้ไปตามหาแมวใต้ท้องรถ และพบวัตถุต้องสงสัย จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ” พ.ต.อ. สืบสกุล ระบุ
พ.ต.อ. สืบสกุล คาดว่า คนร้ายนำระเบิดมาผูกไว้กับรถยนต์คันดังกล่าวขณะที่จอดรถในบ้าน เมื่อขับรถออกจากบ้าน คนร้ายอาจพยายามกดชนวนแต่ระเบิดไม่ทำงาน จากการตรวจสอบระเบิดได้เชื่อมวงจรพร้อมที่จะทำงาน แต่เนื่องจากวงจรไฟฟ้าได้หลุดออก
เจ้าหน้าที่กู้ระเบิดได้ใช้ปืนแรงดันน้ำยิงใส่วัตถุต้องสงสัยเพื่อแยกชนวนออก และปลดมาตรวจสอบ วัตถุดังกล่าวเป็นถังเคมีสีดำ ยี่ห้อ POWDER (มาเลเซีย) ลักษณะคล้ายถังดับเพลิง น้ำหนักประมาณ 2 ปอนด์ ภายในบรรจุดินระเบิดหลัก PETN ควบคุมด้วยวิทยุสื่อสาร และวงจรจุดระเบิด DTMF มีสะเก็ดระเบิดเป็นลูกเหล็กทรงกลม ขนาด 6 มม. เชื้อปะทุแสวงเครื่อง 2 ดอก หลักฐานทั้งหมดถูกส่งต่อให้เจ้าหน้าที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ตรวจสอบความเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคล และเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
ด้านนายสายูตี ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม เพราะทางครอบครัวมีความกังวลในความปลอดภัย
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมานี้ มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มได้ลอบวางเพลิงรถยนต์กู้ภัย 2 คัน ซึ่งจอดอยู่ในสำนักงานมูลนิธิฮิลาลอะห์มัร ริมถนนสาย 42 ปัตตานี-นราธิวาส พื้นที่หมู่ 1 บ้านบือเจาะ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งสองกรณี ทำให้มีความเชื่อว่าคนร้ายต้องการปองร้ายนายสายูตี เพราะมูลนิธิฮิลาลอะห์มัรซึ่งนายสายูตีร่วมก่อตั้ง ถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับทหาร โดยเฉพาะ พล.อ. อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ อดีตหัวหน้าคณะพูดคุยฯ และอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 โดยเชื่อว่าทหารได้ใช้มูลนิธิฮิลาลอะห์มัรเป็นกลไกในการนำผู้เห็นต่างเข้าโครงการพาคนกลับบ้าน
อย่างไรก็ตาม สมาชิกมูลนิธิฮิลาลอะห์มัรรายหนึ่ง (สงวนชื่อและนามสกุล) เพื่อความปลอดภัย กล่าวว่า มูลนิธิไม่ได้รับงบประมาณจากทหาร และสาขาของมูลนิธิ 8 สาขาก็ไม่ได้รับเงินจากมูลนิธิสาขาใหญ่มานานแล้ว เนื่องจากมูลนิธิไม่มีเงิน
“สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทราบดีว่า กลุ่มขบวนการต้องการสร้างสถานการณ์เกิดขึ้น ศูนย์ใหญ่ของฮิลาลอะห์มัรแจ้งให้สมาชิกยุติการช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว แต่สาขาทั้ง 8 แห่งยังพร้อมช่วย โดยได้จัดเวรยามเฝ้าระวังความปลอดภัยของแต่ละสาขาเอง” สมาชิกมูลนิธิฮิลาลอะห์มัรคนเดียวกันกล่าว
ขณะที่สมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่รายหนึ่ง กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า การก่อเหตุทั้งสองเหตุการณ์เป็นเพียงแค่การเตือนนายสายูตี ไม่ให้เอนเอียงเข้ากับทางทหาร ไม่ได้หมายเอาชีวิต
พล.ท. ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ฝากเตือนให้ประชาชนที่นำรถไปจอดที่สาธารณะ ให้ตรวจสอบความปลอดภัยให้รอบคอบ
“ตอนนี้ใกล้ช่วงของเดือนรอมฏอน คนร้ายอาจจะก่อเหตุในลักษณะที่เราคาดไม่ถึง อาจจะใช้ยานพาหนะของประชาชนที่เข้าไปในพื้นที่ราชการ หรือชุมชนก่อเหตุ หากเจอวัตถุต้องสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ใกล้บ้าน แต่อย่ากังวลกับสถานการณ์มากเกินไป” พล.ท. ศานติ กล่าว
ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2547 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ระลอกใหม่ มีผู้เสียชีวิตรวมแล้วกว่า 7,300 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 13,500 ราย รัฐบาลไทยและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่จัดตั้งคณะเจรจาในรูปแบบต่าง ๆ ได้เริ่มกระบวนการพูดคุย เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2556 แต่ต้องหยุดชะงักหลายครั้ง เพราะมีการเปลี่ยนแปลงคณะพูดคุยของฝ่ายผู้เห็นต่าง รวมทั้งการระบาดของโควิด-19
ในต้นปี 2563 ขบวนการบีอาร์เอ็น นำโดย อุสตาซ อานัส อับดุลเราะห์มาน (หรือนายฮีพนี มะเระ) ได้เจรจากับฝ่ายไทยโดยตรง จนกระทั่งในเดือนเมษายน ปี 2565 ล่าสุดมีการพูดคุยสันติสุขฯ ในวันที่ 21-22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยฝ่ายไทยและบีอาร์เอ็นจะพยายามดำเนินแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติสุขแบบองค์รวม (Joint Comprehensive Plan toward Peace - JCPP) ให้สำเร็จ