ตำรวจ-ทหารพราน เจ็บ 5 นาย เป็นครั้งแรกหลังปิดยุทธการฮูแตลือยอ

มารียัม อัฮหมัด
2021.11.01
ปัตตานี
ตำรวจ-ทหารพราน เจ็บ 5 นาย เป็นครั้งแรกหลังปิดยุทธการฮูแตลือยอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะกว๊ะ ในจังหวัดยะลา ยืนมองสภาพรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ที่โดนระเบิดในพื้นที่บ้านตะเนาะปูโย๊ะ ม.3 ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564
เบนาร์นิวส์

เจ้าหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวในวันจันทร์นี้ว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบระเบิดรถยนต์ของตำรวจ สภ.จะกว๊ะ จังหวัดยะลา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย และในอีกเกือบสามชั่วโมงต่อมา ได้เกิดเหตุระเบิดกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน 4809 ที่ลาดตระเวนในพื้นที่ป่าอำเภอสุไหงปาดี จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บอีก 2 นาย

เหตุการณ์ทั้งสอง นับเป็นการลอบโจมตีฝ่ายเจ้าหน้าที่ จนก่อให้เกิดการบาดเจ็บเป็นครั้งแรก หลังจากที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้ยุติยุทธการการปิดล้อมกวาดล้างผู้ต้องสงสัยก่อความรุนแรง ในป่าพรุในหมู่บ้านฮูแตยือลอ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 6 ราย เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา  

พ.ต.ท. ศุภชัย ศุภกิจจารักษ์ สวญ. สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา กล่าวว่า เมื่อเวลา 10.20 น. คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดร้อยเวร 20 ของ สภ.จะกว๊ะ ที่บริเวณบ้านตะเนาะปูโย๊ะ ม.3 ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 นาย ถูกนำส่งโรงพยาบาลรามัน ทราบชื่อคือ 1. ด.ต.เศกสัน  ชายมันต์ 2. ส.ต.ต. ฮาลีม หัดเลาะ 3. ส.ต.ต. นูรดีน เจ๊ะเต๊ะ อาการบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ใส่ท่อช่วยหายใจและนำส่งต่อไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลศูนย์ยะลา

“จากการสอบสวนทราบว่า ก่อเกิดเหตุขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว กำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยการขับขี่รถยนต์ลาดตระเวนเพื่อรักษาความปลอดภัยในพื้นที่รับผิดชอบ ระหว่างทางได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนจุดชนวนระเบิด ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว” พ.ต.ท. ศุภชัย กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว และระบุว่าสาเหตุนั้นเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ

ในเวลาเพียงประมาณสามชั่วโมงหลังจากนั้น พ.ต.ท. ลัทธวิชย์ แดยิหวา สวญ. สภ.สากอ จ.นราธิวาส กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพราน 4809 ฉก.ทพ.48 ที่บริเวณบ้านสือแด ม.7 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส จึงรายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมนำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่ทหารชุดดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ทราบชื่อคือ อส.ทพ. อับดุลฮาลิม เจ๊ะนะ และ อส.ทพ. โนอาลัม การียา พลปืนเล็ก ซึ่งทั้งสองนายรู้สึกตัวดี มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ถูกนำส่งโรงพยาบาลสุไหงปาดี

พ.ต.ท. ลัทธวิชย์ กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพราน 4809 ได้ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่บ้านสากอ ม.4 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 2 ก.ม. ได้ทำการเดินเท้าลาดตระเวนในพื้นที่บ้านสือแด ม.7 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ได้เกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

ด้าน พ.อ. เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดรถยนต์ของเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 ในพื้นที่อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ  

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอด 2 วัน ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าคนร้ายมีความพยายามสร้างภาพ และหล่อเลี้ยงสถานการณ์ว่า ความรุนแรงยังคงอยู่ซึ่ง ผู้ที่จ้องกระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐเขาจะคอยหาโอกาสอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ตรึงกำลังเป็นพิเศษเพื่อเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง” พ.อ. เกียรติศักดิ์ กล่าว

ในวันเดียวกันนี้ พลเอก สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ โดยได้กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ใน 3 มิติ คือ การดูแลความสงบเรียบร้อย, การพัฒนาพื้นที่ และการเจรจาพูดคุยเพื่อสันติสุข

ตั้งแต่เดือนมกราคม 2547 ซึ่งนับเป็นการปะทุของสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ระลอกใหม่ มีผู้ที่ถูกยิงหรือถูกวางระเบิดเสียชีวิตกว่า 7,000 คน สำหรับการเจรจาระหว่างคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้กับทางกลุ่มบีอาร์เอ็นแบบตัวต่อตัวนั้น ได้สะดุดลงเพราะการระบาดของโควิดในเดือนมีนาคมปีนี้ แต่ทั้งสองฝ่ายยังพูดคุยผ่านทางออนไลน์ในระดับเทคนิค ตามการบอกกล่าวของแม่ทัพภาคที่ 4

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง