ตำรวจจับยาไอซ์ข้ามชาติ 1.1 ตัน ในรอบหนึ่งสัปดาห์

สำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงข่าวสรุปการจับกุมขบวนการยาไอซ์ข้ามชาติได้กว่าสิบรายและยึดยาไอซ์ได้กว่า 1.1 ตัน ในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามนโยบายปราบปรามยาเสพติดที่มีการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น หลังจากมีการเปิดชายแดนเพราะโรคโควิด-19 ลดความรุนแรงลง

เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ขบวนการค้ายาเสพติดรอรับยาที่บริเวณชายแดนก่อนขนเข้าประเทศ โดยอาศัยช่วงเปิดประเทศและประชาชนเดินทางท่องเที่ยว ประกอบกับระบบการขนส่งสินค้าเริ่มฟื้นตัวมากขึ้น

พล.ต.อ. ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. (กม) และ ผอ.ศอ.ปส.ตร. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบหาข่าวและติดตามจับกุมขบวนการยาเสพติดข้ามชาติสามคดี ซึ่งผู้ต้องหาพยายามลำเลียงยาเสพติดส่งไปขายยังต่างประเทศเพื่อนบ้านทางใต้ ของประเทศ

พล.ต.อ. ชินภัทร กล่าวว่า ทั้ง 3 คดี สามารถยึดยาไอซ์ได้ทั้งสิ้น 1,145 กิโลกรัม ขณะที่ผู้สั่งการที่หลบหนีการจับกุม เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างติดตามมาดำเนินคดี และขยายผลจับกุมเครือข่ายต่อไป

ทั้งนี้ คดีแรกเกิดขึ้นในวันที่ 16 มกราคม 2566

“รถของกลาง 3 คัน หนึ่งในนั้น สามารถจัมกุมได้ที่ปั๊มพีที สาขาท่าแค อำเภอเมืองพัทลุง ตำรวจจึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบนายอาคม สุทธิโพธิ์ เป็นผู้ขับขี่ สารภาพว่ามียาเสพติดซุกซ่อนปะปนมากับสินค้าทางการเกษตรเพื่อใช้อำพรางการตรวจค้น ส่วนรถอีก 2 คัน จับกุมได้บริเวณริมถนนสาย 41 ในพื้นที่ตำบลป่าเว อำเภอไชยา สุราษฎร์ธานี ตรวจยึดไอซ์ 688 กิโลกรัม” พล.ต.อ. ชินภัทร กล่าว

พล.ต.อ. ชินภัทร ระบุว่า รถยนต์ทั้งสามคัน เป็นเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติจากภาคอีสาน ส่งต่อยาเสพติดโดยมีปลายทางคือ ประเทศที่สาม โดยจะมีขบวนการมารอรับยาเสพติดบริเวณชายแดน เพื่อนำไปจำหน่ายให้นักท่องเที่ยว

สามารถจับกุมผู้ต้องหา คือ 1. นายอาคม สุทธิโพธิ์ อายุ 27 ปี 2. น.ส. แหม่ม หมื่นบำรุง อายุ 32 ปี และ 3. น.ส. ชญาดา หมื่นบำรุง อายุ 35 ปี ต่อมาทำให้สามารถขยายผลจับกุมผู้ต้องหาอีก 4 คน ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร และกรุงเทพฯ พร้อมของกลาง ยาไอซ์กว่า 43 กิโลกรัม และยาบ้า 100 เม็ด

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายทวีชัย แซ่ย้า อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย ซึ่งกำลังลักลอบไปส่งยาเสพติดที่จังหวัดสตูล เพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สาม

พล.ต.อ. ชินภัทร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณลานจอดรถห้างบิ๊กซี สาขาบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย พร้อมยาไอซ์ 10 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม อยู่ในห่อชาสีเขียว ในรถกระบะมาสด้า โดยเจ้าหน้าที่จะสอบสวนขยายผลต่อไป

ส่วนคดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 คน คือ นางภคอร (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ได้บริเวณด่านตรวจพยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ และนายกนกธัช (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี บริเวณลานจอดรถตลาดไท หลังพบลำเลียงยาไอซ์จากภาคเหนือตอนบนมายังภาคกลาง พบยาไอซ์รวม 114 กิโลกรัม มีส่วนหนึ่งบรรจุในถุงกาแฟสีทอง ตัวอักษรภาษาจีนและภาษาอังกฤษ “GUANYINWANG”

พล.ต.อ. ชินภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสอบสวน นางภคอรระบุ ตนถูกว่าจ้างจากบุคคลหนึ่งที่ใช้แอปพลิเคชันไลน์ว่า “ฟ้าหลังฝน” ให้ขับมาส่งของที่กรุงเทพฯ โดยจะมีคนรับรถคันดังกล่าวติดต่อมาอีกครั้ง

เจ้าหน้าที่ระบุว่า นายกนกธัชให้การสารภาพว่าพี่ชายของตน คือนายตู่ จ้างให้ตนไปรับรถที่จอดไว้ที่บริเวณตลาดไท เคยให้ไปรับรถในลักษณะแบบนี้มาแล้วประมาณ 10 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละประมาณ 2,000 ถึง 5,000 บาท โดยจะให้ขับไปจอดแต่ละจุดตามที่พี่ชายบอก โดยให้เสียบกุญแจไว้หรือวางไว้ที่คอนโซลหน้ารถ ทำมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว

นนทรัฐ ไผ่เจริญ ในกรุงเทพฯ ร่วมรายงาน