รวมไทยสร้างชาติ เปิดตัวประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ
2023.01.09
กรุงเทพฯ
พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัว พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการในการเลือกตั้งที่จะถึงในปี 2566 นี้ ด้านนักวิชาการเชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติจะสานต่ออุดมการณ์ต้านพรรคเพื่อไทย หลังจากที่พรรคพลังประชารัฐมีคะแนนนิยมที่ตกต่ำลง
พรรครวมไทยสร้างชาติ จัดกิจกรรม “รวมใจรวมไทยสร้างชาติ” ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยระบุว่า มีแขกร่วมงานกว่า 5 พันคน โดยกิจกรรมที่สำคัญที่สุดคือ การเปิดใจร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างเป็นทางการครั้งแรก ของนายกรัฐมนตรี
“ที่ผมมาวันนี้หลายคนอาจสงสัยว่า ผมมาทำไม อยากเป็น (นายกฯ) หรือไง อยากเป็นอะไรต่อหรือเปล่า ไม่ใช่ผมอยากเป็นใหญ่ อยากมีอำนาจ อำนาจผมมีมาเยอะแล้ว อำนาจมีมาทั้งชีวิตของผมในหน้าที่ราชการของผม เพราะฉะนั้นอำนาจมันจะมาพร้อมความรับผิดชอบ การมีอำนาจต้องใช้อำนาจให้ถูกต้องเป็นธรรม ให้เป็นไปตามกระบวนการแล้วทุกอย่างมันก็จะเดินหน้าไปได้ด้วยดี มาวันนี้ ไม่อยากเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ไม่อยากได้ผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ผมยืนยัน ไม่เคยรับผลประโยชน์ใครใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะผมนึกถึงพวกเราไง (ประชาชน)” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว
ขณะที่ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ตนเองพร้อมจะนำพรรครวมไทยสร้างชาติเข้าสู่สนามเลือกตั้ง และนำชัยชนะมาให้พรรค และประเทศชาติ จะดูแลประชาชนเหมือนสโลแกนของพรรค และให้ประชาชนพึ่งพาพรรครวมไทยสร้างชาติได้ทุกเมื่อ
ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากเป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนในปี 2557 และดำรงตำแหน่งเรื่อยมา กระทั่งในการเลือกตั้งปี 2562 พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จนสามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 ที่ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งขณะนั้นเป็น ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ มีความพยายามจะรวม ส.ส. ให้ออกเสียงไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ ที่ทำให้ต่อมา ร.อ. ธรรมนัส ถูกปลดจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเกิดข่าวลือว่า พล.อ. ประยุทธ์ ขัดแย้งกับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กระทั่ง พล.อ. ประยุทธ์ เข้าร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างเป็นทางการ
ปัจจุบัน พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้มีการเปิดตัวสมาชิกพรรคประสบการณ์สูงหลายคน เช่น นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำ กปปส., นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายชัชวาลล์ คงอุดม หรือชัช เตาปูน อดีต ส.ส. พรรคพลังท้องถิ่นไทย รวมไปถึง นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี
ในวันนี้ ยังมีการเปิดตัวนักการเมืองอาวุโสอย่าง ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี, นายชัชวาลล์ คงอุดม, นายชุมพล กาญจนะ, นพ.ปรีชา มุสิกุล รวมถึงนายวิทยา แก้วภราดัย พร้อมๆ กับนักการเมืองรุ่นใหม่อีกจำนวนหนึ่ง ที่นำโดย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ
ด้าน เปรมจิต ผาสุก ประชาชน วัย 63 ปี กล่าวกับเบนาร์นิวส์วันนี้ว่า มีความตื่นเต้น อยากเจอนายกรัฐมนตรีตัวจริง เพราะแต่ละคำพูดที่ออกมานั้นออกมาจากหัวใจจริง ๆ
“อยากให้ลุงตู่อยู่ยาว ๆ ชอบเขาตรงที่ซื่อสัตย์ รักประเทศชาติ รักประชาชน เชื่อมั่นว่าท่านจะสามารถนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญแน่นอน” เปรมจิต ระบุ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมากชี้ว่า พล.อ. ประยุทธ์ จะสามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี โดยเริ่มนับอายุการดำรงตำแหน่ง ตามการบังคับใช้ของรัฐธรรมนูญในปี 2560 ซึ่งจะทำให้หาก พล.อ. ประยุทธ์ ได้รับการเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย จะสามารถอยู่ในตำแหน่งได้ถึงเพียงปี 2568 ไม่สามารถอยู่ได้จนครบวาระปกติ 4 ปี
นักวิชาการ : สานต่ออุดมการณ์ต้านเพื่อไทย
ผศ.ดร. ธัญณ์ณภัทร์ เจริญพานิช อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า แม้ พล.อ. ประยุทธ์ จะย้ายจากพรรคพลังประชารัฐมาอยู่พรรคใหม่ แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่า พลังประชารัฐจะขัดแย้งจนไม่สามารถร่วมงานกับรวมไทยสร้างชาติได้
“ถ้าเราอธิบายว่าพลังประชารัฐนั้นถูกมาเพื่อคานอำนาจของเพื่อไทย หรือเพื่อหยุดคุณทักษิณ ก็น่าจับตาเหมือนกันว่ารวมไทยสร้างชาตินั้นอาจมาสานต่อโครงการนี้ได้เหมือนกัน ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตอนนี้ พลังประชารัฐความนิยมตกต่ำสุด ฉะนั้นการเปลี่ยนโฉมโดยยังรวมขั้วอำนาจทุน และเครือข่ายนักการเมืองชั้นนำ มาอยู่ในพรรคก็เป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ” ผศ.ดร. ธัญณ์ณภัทร์ กล่าว
ด้าน น.ส. นวพร สุนันท์ลิกานนท์ นักวิชาการคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีความเห็นต่าง โดยชี้ว่า พล.อ. ประยุทธ์ มุ่งหน้าสู่การรักษาอำนาจ
“ประยุทธ์และรัฐบาลกำลังทำอะไรกันอยู่ เรื่องปัญหาบ้านเมือง เรื่องปากท้อง กลายเป็นเรื่องเล็ก ๆ ไม่สำคัญ สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า พรรคร่วมรัฐบาล กำลังวางแผนสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า วางแผนว่า ทำอย่างไรให้ไม่เสียอำนาจไป แม้จะยังไม่หมดวาระ ไม่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญการเมืองก็ดูออก” น.ส. นวพร กล่าว
ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ดร. นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ได้เสนอผลสำรวจเรื่อง “ถ้าเลือกตั้งวันนี้ พรรคใดชนะ” ซึ่งเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 1,114 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 2-7 มกราคม 2566 พบว่า พรรคเพื่อไทย ได้รับคะแนนนนิยมเป็นอันดับหนึ่ง 23.4 เปอร์เซ็นต์ ภูมิใจไทย 21.9 เปอร์เซ็นต์ ประชาธิปัตย์ 9.9 เปอร์เซ็นต์ พลังประชารัฐ 8.0 เปอร์เซ็นต์ ก้าวไกล 5.8 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่พรรคใหม่ของ พล.อ. ประยุทธ์ เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับคะแนนเพียง 4.8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนที่เหลือ คือพรรคอื่น ๆ
นนทรัฐ ไผ่เจริญ ในกรุงเทพฯ และคุณวุฒิ บุญฤกษ์ ในเชียงใหม่ ร่วมรายงาน