เศรษฐกิจถดถอย และการเปลี่ยนผ่านสู่อีวีทำภาคยานยนต์ไทยสะเทือน

การเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้าอาจส่งผลทั้งบวกหรือลบต่อภาคการผลิตรถยนต์ของไทย
จิตต์สิรี ทองน้อย
2024.07.22
กรุงเทพฯ
เศรษฐกิจถดถอย และการเปลี่ยนผ่านสู่อีวีทำภาคยานยนต์ไทยสะเทือน รถยนต์ไฟฟ้า BYD บนถนนในกรุงเทพฯ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567
อธิษฐ์ พีระวงศ์เมธา/รอยเตอร์

เมื่อสองทศวรรษที่แล้ว วินัย พยัคโฆ เพิ่งจบการศึกษาด้านเครื่องกล และมีความต้องการทำงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยที่ให้เงินเดือนและสวัสดิการดีกว่าอุตสาหกรรมอื่น

ในช่วงนั้น อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยเฟื่องฟู ไทยเป็นฐานการผลิตของค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นหลายแห่ง กลายเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทำให้ไทยกลายเป็นผู้ผลิตยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค สร้างรายได้ให้แรงงานไทยได้ดีกว่าภาคเกษตร หรือภาคท่องเที่ยว

แต่เมื่อเบนาร์นิวส์ติดต่อวินัยไปช่วงต้นเดือนกรกฎาคม วินัยกำลังจะตกงาน

บริษัทจะปิดเดือนตุลาคม แต่ผมออกก่อนเป็นรุ่นแรกวันที่ 26 กรกฎาคมนี้”

บริษัทของวินัยตั้งอยู่ทางศูนย์กลางภาคการผลิตทางภาคตะวันออกของไทยและเดิมเคยผลิตกระจกไฟหน้ารถยนต์ที่ทำด้วยแก้ว อย่างไรก็แล้วแต่ ประมาณห้าปีที่แล้วบริษัทประสบปัญหาด้านต้นทุนที่สู้การตีตลาดของไฟหน้ารถยนต์ที่ทำจากพลาสติกใสที่มีราคาถูกกว่าไม่ไหว ซึ่งโดยมากมาจากผู้ผลิตชาวจีน วินัยกล่าว

ถึงแม้ว่าต่อมาบริษัทจะเพิ่มการผลิตผลิตภัณฑ์แก้วที่ใช้ในห้องแล็บ แต่ก็ยังมีการขาดทุนสะสมอยู่ และยังเหลือการผลิตกระจกไฟหน้ารถยนต์อยู่เล็กน้อยเพื่อใช้เป็นอะไหล่ให้กับรถยนต์รุ่นเก่า จนกระทั่งประกาศปิดตัวลงเมื่อเดือนพฤษภาคม

การปิดตัวลงของบริษัทที่วินัยทำงาน เป็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลำบากของเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพิงการส่งออกและอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย

ประเทศไทยผลิตรถยนต์ราว 1.8 ล้านคันในปี 2566 สำหรับขายในประเทศและส่งออก ซึ่งเป็นจำนวนเกือบ 2% ของยอดผลิตรถยนต์ทั่วโลก ถึงแม้ว่าจะน้อยกว่าที่เคยผลิตได้มากถึง 2.4 ล้านคัน เมื่อกว่าหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา

th-auto-workers-2.jpg
รถยนต์ไฟฟ้าภายในโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกของ BYD ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นตลาด EV ระดับภูมิภาคที่เติบโตอย่างรวดเร็วและโดดเด่น ในจังหวัดระยอง วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 (ชาลินี ถิระสุภะ/รอยเตอร์)

นอกเหนือไปจากความท้าทายด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลไทยยังตั้งเป้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ราว 30% ของยอดผลิตรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2573 ผู้สังเกตุการณ์บางรายกล่าวว่า ยอดผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังไม่มากนักในตอนนี้ผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยเข้าสู่ช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่บางรายกล่าวว่านี่เป็นโอกาสของไทยในการเป็นหมุดหมายที่สำคัญของห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของโลก

วินัย ติ่นโตนด ประธานสหภาพแรงงานชิ้นส่วนยานยนต์ไทยกล่าวว่า การมุ่งหน้าสู่อนาคตแห่งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ซึ่งส่วนหนึ่งก็คือ การกำจัดการใช้รถยนต์สันดาปนั้นทำให้บริษัทหลายที่ต้องปิดตัวหรือปรับตัว นอกเหนือไปจากยอดส่งออกรถที่ลดลงของบริษัทค่ายรถญี่ปุ่น

ค่ายญี่ปุ่นปรับตัวขนาดใหญ่และปรับแผนการผลิตขนาดใหญ่ บางค่ายยอดผลิตหายไปเกือบครึ่ง”

ค่ายรถญี่ปุ่น ซูบารุ และซูซูกิ ประกาศปิดโรงงานผลิตในไทยปลายปี 2567 และปลายปี 2568 ตามลำดับ ส่วนฮอนด้าจะยุบโรงงานการผลิตหนึ่งในสองที่ในไทยภายในปีหน้า ยอดการผลิตรถยนต์ต่อปีของฮอนด้าในประเทศไทยขณะนี้อยู่ต่ำกว่า 150,000 คันต่อปี ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับ 228,000 คัน ที่ผลิตได้ต่อปีในปี 2562 ตามรายงานของรอยเตอร์ส

ในขณะเดียวกัน ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน เช่น แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ายอดขายอันดับหนึ่งของโลกอย่าง BYD ได้ทุ่มเม็ดเงินมหาศาลเข้ามาเพื่อสร้างฐานการผลิตในประเทศไทย ตามสิทธิประโยชน์เพื่อสนับสนุนการลงทุนของรัฐบาลไทย

ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเองหันไปจับเทคโนโลยีลดคาร์บอนประเภทอื่น ๆ เช่น เทคโนโลยีไฮบริดหรือไฮโดรเจนมากกว่าที่จะมุ่งหน้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียว

เจมส์ กิลด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าและเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยยังเล็กเกินไปที่จะทำให้โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ต้องปิดตัวลง “ขนานใหญ่”

สิ่งที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องมากกว่าน่าจะเป็นเรื่องของยอดการส่งออกที่ลดลงของทั้งรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์” กิลด์ จากสถาบัน S. Rajaratnam School of International Studies ในประเทศสิงคโปร์กล่าว

th-auto-workers-3.jpg
รถยนต์ไฟฟ้า Good Cat โดย Ora ของ Great Wall Motors จัดแสดงในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ กรุงเทพฯ วันที่ 22 มีนาคม 2565 (อธิษฐ์ พีระวงศ์เมธา/รอยเตอร์)

ประเทศไทยส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์และรถยนต์มากกว่าใช้เองภายในประเทศ ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญกว่า” กิลด์กล่าว

อย่างไรก็แล้วแต่ ตัวเลขยอดขายรถยนต์ในไทยเริ่มเผยให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่กำลังคืบคลานเข้ามา

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV หรือรถยนต์ที่วิ่งโดยใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้าอย่างเดียว ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 175,316 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 168% สืบเนื่องมาจากการสนับสนุนของภาครัฐทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่จับต้องได้มากขึ้น

ส่วนยอดขายรถยนต์ในไทยในเดือนพฤษภาคมลดลง 23% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว

การลดลงของยอดขายรถยนต์ดังกล่าว มีที่มาจากการที่บริษัทสินเชื่อแทบไม่ปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าเนื่องมาจากสภาพหนี้ครัวเรือนไทยในระดับสูง และการที่ผู้บริโภคยังไม่อยากจับจ่ายใช้สอยเนื่องมาจากสภาวะทางเศรษฐกิจ ตามข้อมูลของสภาอุตสาหกรรมไทย

วินัย ประธานสหภาพฯ กล่าวว่ารัฐบาลไทยยังไม่มีนโยบายรองรับสวัสดิภาพของแรงงานในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่พนักงานไทยจะย้ายไปทำงานกับค่ายรถยนต์จีน วินัยกล่าว เนื่องจากค่ายจีนมักจ้างงานแรงงานต่างด้าว และตำแหน่งระดับสูงอย่างหัวหน้างานและวิศวกรยังเป็นคนจีนอยู่

วินัยเห็นว่าหากค่ายรถญี่ปุ่นมีการปรับแผนการผลิตเพื่อผลิตรถไฮบริดมากขึ้น “ยอดขายรถอีวีอาจจะมีเพียง 20% ของยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยก็ได้”

ในยุคที่เปลี่ยนผ่านไปสู่อีวี รัฐบาลไทยเองให้ความสำคัญกับ “การดูแลให้ผู้ผลิตรถยนต์สันดาปแลนดิ้งอย่างกระทบกระเทือนน้อยที่สุด” นายชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาลกล่าวกับเบนาร์นิวส์

เราต้องพิจารณาเรื่องสิทธิพิเศษไม่ให้เกิดผลกระทบรุนแรง รถยนต์สันดาปก็ยังมีเวลาเฟสเอาท์ (phase out) ถึง 10-20 ปี ออกไปจากตลาด” นายชัยกล่าว “ส่วนการตกงานเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เราเปิดโครงการอัพสกิลและรีสกิล ช่างเครื่องยนต์เก่าให้เรียนรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ในส่วนของโรงงานเซมิคอนดักเตอร์และดาต้าเซนเตอร์ก็ต้องการคนรุ่นใหม่ไปทำงาน”

วินัย ประธานสหภาพฯ กล่าวว่าในความเป็นจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากขณะนี้โรงงานผลิตรถยนต์หรือชิ้นส่วนรถยนต์มีการลดการผลิตและลดเงินเดือนไปด้วย และบางแห่งมีการเสนอแพคเกจเกษียณอายุก่อนกำหนดให้กับพนักงานที่อายุ 45 ปีขึ้นไป หรือหันไปจ้างงานแบบชั่วคราว 3-6 เดือนแทน

คนที่ได้รับผลกระทบก็อายุ 40 ปีขึ้น ไม่สามารถหางานที่อื่นต่อได้” วินัยกล่าว

วินัย พยัคโฆ ที่กำลังจะโดนเลิกจ้างจากโรงงานที่กำลังจะปิดตัวลง ไม่มีแผนการหางานทำใหม่ที่ใด เนื่องจากต้องการกลับบ้านเกิดที่จังหวัดนครสวรรค์เพื่อไปทำการเกษตร

th-auto-workers-4.jpg
ผู้เข้าชมงานให้ความสนใจรถสปอร์ต Hyper SSR โดย GAC Aion ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่งานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ จังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 มีนาคม 2567 (ลิเลียน สุวรรณรัมภา/เอเอฟพี)

หลังจากทำงานมา 21 ปี วินัยจะได้เงินชดเชยเท่ากับค่าจ้าง 400 วัน แต่พนักงานชั่วคราวอื่น ๆ จะไม่ได้เงินชดเชยในรูปแบบนั้นแต่อย่างใด

พนักงานที่เป็นซับคอนแทรคไปก่อนแล้ว” วินัยกล่าว

กิลด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าและเศรษฐกิจ กล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องดีในการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มีส่วนทำให้โลกร้อน

กิลด์กล่าวอีกว่า อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องหากรัฐบาลไทยต้องใช้งบประมาณเพื่ออุ้มภาคการผลิตของรถยนต์ญี่ปุ่นเพื่อรักษาบริษัทเหล่านั้นให้อยู่ในประเทศไทย

หากประเทศไทยดำเนินกลยุทธ์ที่ดี ไทยก็จะกลายเป็นศูนย์กลางในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อส่งออก เหมือนที่เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์สันดาปและชิ้นส่วนรถยนต์กิลด์กล่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง