แม่นักเคลื่อนไหวเขมรวอนไทย อย่าส่งลูกชายกลับ

แม่ของนายโทน สัมนาง นักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชา ขอร้องรัฐบาลไทยอย่าส่งตัวลูกชายของตนเองกลับกัมพูชา เพราะอาจทำให้ถูกลงโทษ ขณะที่รัฐบาลของฮุน เซน กำลังดำเนินการกวาดล้างคู่แข่งทางการเมือง

นายโทน เป็นสมาชิกของพรรคแสงเทียน-พรรคฝ่ายค้านในกัมพูชา เขาถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบในเช้าวันศุกร์ ขณะเดินทางไปยังสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR)

ทำให้เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (MWG) และเครือข่ายสิทธิผู้ลี้ภัยและคนไร้รัฐ (CRSP) รวมถึง มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CrCF) ได้มีแถลงการณ์เรียกร้องให้ปล่อยตัวนายโทน

การคุมตัวนายโทนครั้งนี้ เป็นอีกครั้งที่นักเคลื่อนไหวจากประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเดินทางเข้ามาลี้ภัยในประเทศไทย ถูกควบคุมตัว เหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันเคยเกิดขึ้นกับนักเคลื่อนไหว และอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านของกัมพูชาในปี 2564

“ฉันกลัวเจ้าหน้าที่ไทยจะส่งเขาไปให้รัฐบาลกัมพูชาลงโทษ อยากให้องค์กรสิทธิมนุษยชนช่วยไม่ให้เขาถูกส่งตัวกลับ” นางเชียด ลัก มารดาของนายโทน กล่าวกับสำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชีย ภาคภาษาเขมร

นางเชียด เปิดเผยว่า นายโทน อายุ 34 ปี เคยใช้เฟซบุ๊กวิพากษ์-วิจารณ์ นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรี และการทำงานของรัฐบาลพรรคประชาชนกัมพูชา (Cambodian People’s Party - CPP) ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนที่เขาจะต้องหนีออกจากประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 หลังจากที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐเดินทางไปที่บ้านพักของเขาเพื่อควบคุมตัวเขาโดยไม่มีหมายจับ

นายชาม ชิต ชาวกัมพูชาซึ่งเดินทางออกจากประเทศพร้อมกับ นายโทน กล่าวว่า นายโทนกำลังแสวงหาที่ลี้ภัยในประเทศไทย

“เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจับโทน แล้วพาเขาขึ้นมอเตอร์ไซค์ หลังจากที่ผมกับโทนออกจากบ้านใกล้ ๆ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ” นายชาม กล่าวกับเรดิโอฟรีเอเชีย

น.ส. พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ซึ่งให้การช่วยเหลือนายโทน กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า ปัจจุบัน นายโทน ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ห้องกัก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.สวนพลู)

ผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลทหารชุมนุม ประท้วงสองวันก่อน รัฐประหาร ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในกรุงเทพฯ วันที่ 24 พฤษภาคม 2557 (ภาพจากไฟล์ เรดิโอฟรีเอเชีย)

“มีการยืนยันจาก ตม. ว่าจะไม่มีการส่งกลับไปในทันที ทนายกำลังดำเนินการเพื่อขอให้เขาเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองโดยยูเอ็นเอชซีอาร์ หรือรัฐบาลไทย” น.ส. พรเพ็ญ กล่าวผ่านโทรศัพท์

น.ส. พรเพ็ญ ระบุว่า พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย มีข้อกำหนดที่ห้ามไม่ให้ส่งคนกลับประเทศ หากจะทำให้เขาต้องเผชิญกับอันตราย ซึ่งสอดคล้องกับหลักการกฎหมายระหว่างประเทศของสหประชาชาติ ที่ต้องไม่ผลักดันคนกลับไปเผชิญอันตราย

นายโทน จะต้องเผชิญกับความไม่ปลอดภัย หากถูกส่งกลับไปยังกัมพูชา เนื่องจาก นายฮุน เซน ซึ่งครองอำนาจในประเทศมากว่า 4 ทศวรรษ ได้พยายามปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ จับกุม และลงโทษผู้เห็นต่างทางการเมือง ทั้งยังควบคุมสื่อมวลชนอย่างเบ็ดเสร็จ

เมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 คณะกรรมการการเลือกตั้งของกัมพูชา ได้ตัดสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรคแสงเทียน ในการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 กรกฎาคม ซึ่งทำให้พรรคประชาชนกัมพูชาของนายฮุน เซน ไร้คู่แข่งทางการเมือง

เบนาร์นิวส์พยายามติดต่อ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอคำชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้รับการตอบรับ

นักสิทธิ : ไทยไม่ควรร่วมมือกัมพูชาปราบปรามผู้เห็นต่าง

“เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ ยูเอ็นเอชซีอาร์ ควรได้รับอนุญาตให้พบกับนายโทน สัมนาง เพื่อที่เขาจะได้อธิบายความน่ากลัว และความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นกับเขา หากเขาถูกส่งตัวกลับกัมพูชา และเพื่อที่เขาจะได้รับการปกป้องในฐานะผู้ลี้ภัย” นายฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวกับเบนาร์นิวส์

“เป็นที่ชัดเจนว่า พรรคประชาชนกัมพูชา และเจ้าหน้าที่รัฐกำลังเข้มงวดกับใครก็ตามที่กล้าท้าทาย หรือวิจารณ์นโยบายของรัฐ หรือตั้งคำถามกับการเลือกตั้งที่จะมาถึง ซึ่งฮิวแมนไรท์วอทช์ เชื่อว่า มันจะเป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเสรี รัฐบาลไทยควรปฏิเสธที่จะร่วมมือกับความพยายามปราบปรามนักเคลื่อนไหวทางการเมืองของรัฐบาลกัมพูชา” นายฟิล โรเบิร์ตสัน ระบุ

ประเทศไทยเคยรองรับผู้ลี้ภัยสงคราม ภัยธรรมชาติ หรือการละเมิดสิทธิมนุษยชน หลายแสนคนจากประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยก็ถูกวิจารณ์จากองค์กรสิทธิมนุษยชนว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งกลับผู้ลี้ภัย หรือผู้ขอลี้ภัยที่หลบหนีคดี หรือการคุกคามจากประเทศเพื่อนบ้านเช่นกัน

ในเดือนมกราคม 2565 นายคูคำ แก้วมะนีวง อดีตนักเคลื่อนไหวกลุ่มลาวเสรี ซึ่งได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากยูเอ็นเอชซีอาร์ ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในข้อหาอยู่ในประเทศไทยโดยวีซ่าหมดอายุ กระทั่งได้รับการช่วยเหลือจากนักสิทธิมนุษยชน และทนายความจนได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา ก่อนที่จะถูกส่งตัวกลับประเทศลาว

ก่อนหน้านั้นในเดือนพฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว และส่งตัวนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน 2 คน กลับประเทศกัมพูชา หลังจากที่ นายฮุน เซน มีคำสั่งให้ควบคุมตัว 1 ใน 2 นักเคลื่อนไหวนั้นจากการเขียนกลอนวิจารณ์ตัวนายฮุน เซน บนเฟซบุ๊ก

ในปี 2562 นายอ๊อด ไซยะวง นักเคลื่อนไหวกลุ่มลาวเสรี อายุ 34 ปี หายตัวไปอย่างลึกลับขณะที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศไทย ก่อนการหายตัวอ๊อดได้โพสต์คลิปวิจารณ์รัฐบาลลาว นายอ๊อด ถือเป็นคนที่อยู่ในรายชื่อบุคคลที่ยูเอ็นเอชซีอาร์เป็นห่วง เนื่องจากนายอ๊อด เคยเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ในประเทศลาว จนถึงปัจจุบัน นายอ๊อดยังมีสถานะเป็นบุคคลสาบสูญ

เรดิโอฟรีเอเชีย ภาคภาษาเขมร ร่วมรายงาน