ชีวิตช่างทำว่าวในเมืองกรุง เมื่อพื้นที่เมืองหดแคบ

วัชรวิชญ์ ภู่ดอก
2025.01.27
กรุงเทพฯ
ชีวิตช่างทำว่าวในเมืองกรุง เมื่อพื้นที่เมืองหดแคบ สนม แก้วระคน หรือปู่สนม อายุ 85 ปี สมาชิกที่อายุมากที่สุดในกลุ่มคนเล่นว่าวกำลังปล่อยว่าวของลุงขันธ์ขึ้นฟ้า ที่สนามว่าวเลียบถนนถนนพรานนก-กาญจนาภิเษก พุทธมณฑลสาย 4 กรุงเทพฯ วันที่ 16 มกราคม 2568
วัชรวิชญ์ ภู่ดอก/เบนาร์นิวส์

ลมหนาวในเมืองกรุงเปรียบเสมือนมิตรสหายที่นาน ๆ ครั้งจะแวะเวียนมาเยี่ยมเยียน สายลมเย็นที่พัดผ่านเมืองกรุง ทำให้ภาพการละเล่นว่าวในอดีตย้อนหวนคืนมา พลันให้ชวนคิดตามว่า ในปัจจุบันสังคมคนเล่นว่าวในกรุงเทพฯ เขาไปอยู่ที่ไหนกันแล้ว

“เล่นว่าวมันต้องใช้พื้นที่ เมื่อก่อนยังพอเล่นได้ พอเขาสร้างบ้านสร้างอะไรหมดเราเลยต้องขยับขยายไปแถวชานเมืองหน่อย” ร้อยเอก บุตรขันธ์ จันทร์ศรี หรือ ลุงขันธ์ เล่าให้เบนาร์นิวส์ฟังถึงวัยเด็กที่ผูกพันกับการเล่นว่าว สู่การฝึกปรือฝีมือผ่านการครูพักลักจำและแปรผันเป็นอาชีพสร้างรายได้ในยามเกษียณร่วมกับ วันทนา จันทร์ศรี หรือ ป้านา ภรรยาที่บ้านในย่านจรัญสนิทวงศ์

ลุงขันธ์กล่าวว่า หลังจากพื้นที่ยอดนิยมในการเล่นว่าวอย่างสนามหลวงถูกปิดให้ใช้งานเลยทำให้สังคมคนเล่นว่าวซบเซาไป จนเมื่อไม่นานมานี้ที่ดูเหมือนความนิยมในตัวว่าวจะมีมากขึ้น ผ่านกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยโรงเรียนเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมนี้เอาไว้

“ที่ทำอยู่ตอนนี้ก็สามร้อยกว่าตัว โรงเรียนเขาสั่งไว้ให้เด็ก ๆ เพนท์สีกัน” ป้านาเสริมระหว่างขะมักเขม้นติดกระดาษเข้ากับโครงว่าวปักเป้าที่ลุงขันธ์ขึ้นไว้เสร็จแล้ว โดยออเดอร์จะมีเข้าเยอะในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษาที่นอกจากจะเป็นช่วงที่โรงเรียนปิดเทอมแล้วยังเป็นช่วงที่สามารถเล่นว่าวได้เต็มที่เนื่องจากมีลมพัดผ่านตลอดเวลา

“กลาง ๆ เดือนพฤษภาคมนี่ฝนก็เริ่มมาแล้ว เล่นได้แค่เกือบ ๆ สามเดือน”

“เร็ว ๆ นี้ก็เพิ่งมีคนสั่งทำว่าวหนึ่งร้อยตัวไปแก้บนเหมือนกัน” นอกเหนือจากการละเล่นแล้ว ว่าวยังเป็นของแก้บนที่คนมักนิยมนำไปถวายเมื่อสิ่งที่ขอไว้สมหวังตามวัดที่มีความเชื่อด้านนี้ ยกตัวอย่างเช่นวัดบางปะกอกที่ว่าวเป็นของแก้บนหลวงปู่พริ้งตามความเชื่อที่ว่าจะทำให้ดีขึ้นเหมือนว่าวจุฬาที่ติดลมบน 

ในแง่ของขั้นตอนการทำนั้น ลุงขันธ์อธิบายว่าว่าวทั้งสองแบบมีขั้นตอนการทำที่เหมือนกันคือจะใช้ไม้ที่ตัดจากต้นไผ่อายุ 3-4 ปีขึ้นไป เก็บไว้ประมาณ 1-3 ปี เพื่อให้ไม้คายความชื้น แล้วจึงนำมาเหลาทำโครงว่าว แต่ต่างกันตรงที่การเหลาไม้ เพราะว่าวแก้บนไม่จำเป็นที่จะต้องเหลาให้โครงว่าวมีความบางและยืดหยุ่นเท่าว่าวที่ใช้เล่น

เมื่อตัวเมืองไม่มีที่ให้เล่น ชานเมืองจึงเป็นคำตอบ วันถัดมาลุงขันธ์สวมหมวกลายพราง เสื้อสีดำ สะพายกระเป๋าใส่ว่าว สวมรองเท้านันยางคู่ใจ ขับรถมายังที่ดินเปล่าที่ห่างจากบ้านเป็นระยะทางประมาณสิบกิโลเมตร ที่นี่คือจุดรวมพลของผู้ที่ชื่นชอบเล่นว่าวในละแวกนี้

"อยู่สนามนี่แหละพี่ รีบมา ๆ พี่ ลมมันมาเป็นลูก ๆ พอจะเล่นได้อยู่" อดิศร นันทรุจิ หรือ บอล อายุ 36 ปี สมาชิกที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มคุยโทรศัพท์กับเพื่อนในกลุ่มเล่นว่าวที่กำลังเดินทางมาร่วมเล่นด้วย ผู้คนเริ่มทะยอยกันมาเพื่อทดสอบว่าวของตัวเองเพื่อใช้ในการแข่งขันในช่วงเดือนมีนาคมที่กำลังจะถึงที่กระทุ่มแบน สมุทรสาคร

บทสนทนาแลกเปลี่ยนสารทุกข์สุขดิบและเรื่องว่าวดังขึ้นเคล้าเสียงต้นไม้โดนลม นกกาเหว่า และเสียงรถจากถนนใหญ่ ในบางครั้งก็มีเสียงเครื่องบินโฉบผ่านให้ได้ยินเป็นระยะ ๆ แน่นอนว่าพื้นที่ตรงนี้จะต้องกลายเป็นสิ่งก่อสร้างอะไรสักอย่างในอนาคตตามการขยับขยายของเมือง แต่จากการที่ยังมีการแข่งขันว่าว มีคนมองเห็นคุณค่าและยังมีคนสั่งทำว่าวอยู่เรื่อย ๆ ก็เพียงพอที่จะพูดได้ว่าวัฒนธรรมนี้ยังมีชีวิตอยู่

KITE-02.JPG

ลุงขันธ์และป้านาประกอบว่าว ที่บ้านลุงขันธ์-ป้านา จรัญสนิทวงศ์ กรุงเทพฯ วันที่ 16 มกราคม 2568 (วัชรวิชญ์ ภู่ดอก/เบนาร์นิวส์)

KITE-06.JPG

อดิศร ลุงขันธ์ และเพื่อนร่วมเล่นว่าว ขณะสาวว่าวของตนเอง ที่สนามว่าวเลียบถนนพรานนก-กาญจนาภิเษก พุทธมณฑลสาย 4 กรุงเทพฯ วันที่ 16 มกราคม 2568 (วัชรวิชญ์ ภู่ดอก/เบนาร์นิวส์)

KITE-10.JPG

ลุงขันธ์ทากาวบนโครงว่าวจุฬา ที่บ้านลุงขันธ์-ป้านา จรัญสนิทวงศ์ กรุงเทพฯ วันที่ 16 มกราคม 2568 (วัชรวิชญ์ ภู่ดอก/เบนาร์นิวส์)

KITE-11.JPG

ป้านาประกอบว่าวปักเป้า ที่บ้านลุงขันธ์-ป้านา จรัญสนิทวงศ์ กรุงเทพฯ วันที่ 16 มกราคม 2568 (วัชรวิชญ์ ภู่ดอก/เบนาร์นิวส์)

KITE-15.JPG

ลุงขันธ์ตัดกระดาษสำหรับว่าวจุฬา ที่บ้านลุงขันธ์-ป้านา จรัญสนิทวงศ์ กรุงเทพฯ วันที่ 16 มกราคม 2568 (วัชรวิชญ์ ภู่ดอก/เบนาร์นิวส์)

KITE-18.JPG

ลุงขันธ์เหลาไม้เพื่อใช้ทำโครงว่าว ที่บ้านลุงขันธ์-ป้านา จรัญสนิทวงศ์ กรุงเทพฯ วันที่ 16 มกราคม 2568 (วัชรวิชญ์ ภู่ดอก/เบนาร์นิวส์)

KITE-23.JPG

ลุงขันธ์และปู่สนมช่วยกันปรับแก้ว่าว ที่สนามว่าวเลียบถนนพรานนก-กาญจนาภิเษก พุทธมณฑลสาย 4 กรุงเทพฯ วันที่ 16 มกราคม 2568 (วัชรวิชญ์ ภู่ดอก/เบนาร์นิวส์)

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง