หนึ่งปีหลังเหตุกราดยิงศูนย์เด็กเล็ก : ความโกรธหายไปแต่ความอาลัยยังคงอยู่

ทุกวันพระ ครอบครัวของเหยื่อจากเหตุการณ์กราดยิงในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดหนองบัวลำภู ต่างมาทำบุญที่วัดราษฎร์สามัคคี เพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับผู้เสียชีวิตที่ส่วนใหญ่เป็นเด็กน้อย 24 ราย อายุระหว่าง 2 ถึง 5 ปี

เหตุการณ์สังหารหมู่เด็ก ๆ รวมทั้งผู้ใหญ่ในหนองบัวลำภู นับเป็นเหตุสะเทือนขวัญครั้งใหญ่ของประเทศไทย เพราะมีเด็กเล็กเสียชีวิตจำนวน 24 ราย และผู้ใหญ่ 12 ราย จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 36 ราย รวมถึงเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และครูท้องแก่ 8 เดือน และยังรวมถึงภรรยาและลูกเลี้ยงของผู้ก่อเหตุ ซึ่งต่อมาใช้อาวุธปืนปลิดชีพตัวเองในบ้านพักโดยผู้ก่อเหตุเป็นอดีตข้าราชการตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการหลังพบว่ามีความผิดในข้อหาเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ได้ใช้อาวุธปืนสั้นประจำตัวที่ซื้อจากโครงการปืนสวัสดิการตำรวจและมีดตัดอ้อยเป็นอาวุธ

เหตุสลดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ปีที่แล้ว ส.ต.อ. ปัญญา คำราบ อดีตตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการหลังถูกจับในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง ได้บุกเข้าไปในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ แล้วใช้อาวุธปืนพกประจำตัวและมีดตัดอ้อยสังหารเด็กน้อยที่กำลังนอนกลางวัน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ที่กำลังพักรับประทานอาหารบริเวณหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง

พระครูอดิศัย กิจจานุวัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์สามัคคี กล่าวว่า หลังวันเกิดเหตุทุกคนในชุมชนต่างโกรธแค้น เศร้าโศกเสียใจ แต่กาลเวลาได้ช่วยทำให้ครอบครัวสามารถทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ระดับหนึ่ง รวมถึงคนในชุมชนต่างช่วยเหลือแสดงความมีน้ำใจต่อกันทำให้หลายคนสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์ที่เลวร้ายมาได้

“อาตมาบอกกับผู้สูญเสียว่า เด็ก ๆ ทั้งหลายไปเป็นเทวดาน้อย นางฟ้าน้อยบนสวรรค์แล้ว เพราะเด็ก ๆ ยังไม่ได้ทำบาป ยังไม่มีกรรม ทุกคนล้วนขึ้นสวรรค์ไปเป็นนางฟ้า” พระครูอดิศัย กล่าวกับเบนาร์นิวส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เมื่อไหร่ก็ตามที่มีเด็กแรกเกิด ชาวบ้านจะนำเด็กน้อยไปให้พระครูอดิศัยผูกข้อมือเพื่อรับเลี้ยงเป็นลูกทางธรรม และทำเป็นประจำต่อเนื่องกันในทุก ๆ วันพระ เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคุ้มครองให้เด็ก ๆ เลี้ยงง่าย เติบโตมาเป็นคนดีของชุมชนและสังคม ทำให้พระครูอดิศัย รู้จักเด็ก ๆ ในชุมชนนี้เป็นอย่างดีแทบทุกคน

06 TH-anniversary2.jpg
Tawee Lasopha feeds breakfast to his grandson Thanathorn Sopha, son of his daughter Maliwan Lasopha who was killed in a knife and gun attack at The Young Children's Development Center, in the rural town of Uthai Sawan, in Nong Bua Lamphu province, northeastern Thailand, Thursday, Oct. 5, 2023. On Friday, Oct. 6, Tawee marks the first anniversary of the death of his daughter Maliwan Lasopha. (AP Photo/Sakchai Lalit) (Sakchai Lalit/AP)

นายทวี ลาโสภา ป้อน อาหารเช้าหลานชาย ที่เป ็น ลูกชายของนางมะลิวัลย์ ลาโสภา ที่ ถูก ทำร้ายด้วยมีดและปืน จนเสียชีวิต ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อ.อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู วันที่ 5 ตุลาคม 2566 (ศักดิ์ชัย ละลิต/เอพี)

ยังคิดถึงอยู่ตลอดเวลา

คำพูดของหลวงพ่อได้ช่วยบรรเทาความเศร้าโศกเสียใจ ทำให้ครอบครัวมีกำลังใจดีขึ้นบ้าง แต่ คำพูน สีลุ่มใต้ ผู้สูญเสียหลานชายอายุ 3 ขวบ ถึง 3 คน ยังคงคิดถึงหลานน้อยอยู่ตลอดเวลา

“ยังทำใจไม่ได้หรอก ยังคิดถึงอยู่ตลอดเวลา เดินไปเห็นรูปน้องก็ร้องให้” คำพูน วัย 56 ปี บอกเบนานิวส์พร้อมกับน้ำตาที่รินไหล “แม้ปากจะพูดว่าไปขึ้นสวรรค์นะลูก แต่ฉันก็ยังทำใจไม่ได้”

นอกจากการทำบุญใส่บาตรทุกวันพระ คำพูน จะพาหลานสาว นาเดีย วัย 2 ขวบ มาให้พระครูอดิศัยผูกข้อมือเรียกขวัญเป็นประจำ เพราะหลังจากที่พี่ชายที่เลี้ยงและเติบโตด้วยกันมาจากไป นาเดียก็เปลี่ยนไป จากที่เคยเป็นเด็กร่าเริง แจ่มใส พูดเก่ง หัวเราะง่าย กลายเป็นเด็กขี้กลัว ร้องให้ง่าย หวาดระแวง และติดยายอยู่ตลอดเวลา

“อยู่เย็นเป็นสุขนะลูก ไม่ร้องนะ เดี๋ยวมีนมเปรี้ยวให้กิน” พระครูอดิศัย พูดจาปลอบโยน นาเดีย ขณะบริกรรมคาถาผูกด้ายสายสิญจน์สีขาวที่ข้อมือทั้งสองข้างให้ พร้อมเป่าศีรษะและลูบหัวเบา ๆ

ดวงพร กำสอน อายุ 56 ปี เป็นยายของ ด.ช. ธนาเทพ กำสอน อายุ 2 ปี 9 เดือน เสียชีวิตภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อุ้มน้องแชมป์ หลานชายตัวน้อยที่คลอดได้ไม่นานนักมาให้พระครูอดิศัยผูกข้อมือเช่นกัน

“ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นบ้าง เพราะมีหลานน้อยคนนี้มาให้เลี้ยง เหมือนได้ดูต่างหน้า” ดวงพร กล่าวกับเบนาร์นิวส์

ดวงพร เล่าย้อนความรู้สึกตอนที่รู้ว่ามีเหตุกราดยิงว่าตนตกใจมาก ได้แต่ภาวนาว่าอาจจะไม่ใช่หลานของตน แต่พอรู้ว่าหลานของตนเป็นหนึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตก็ช็อกเสียใจมาก น้องแชมป์ หลานชายคนใหม่ที่เพิ่งคลอดได้ไม่นาน จึงเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจ เยียวยารักษาจิตใจของทุกคนในครอบครัว เป็นตัวแทนหลานชายที่จากไป

“ยังคิดถึงอยู่ตลอดเวลา เพราะรักและผูกพัน เราเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด” ดวงพรกล่าวอย่างอาลัย

สำนักข่าวเอพีพูดคุยกับ นายทวี ลาโสภา วัย 59 ปี ที่ว่างงานและอาศัยอยู่กับภรรยา วัย 58 ปี ทั้งสองกำลังพยายามหาเงินเพื่อเลี้ยงชีพและเลี้ยงดูหลาน 3 คน ซึ่งรวมถึงลูกน้อย 2 คนของนางมะลิวัลย์ ลาโสภา ลูกสาว หนึ่งในครูสองรายที่ถูกสังหารในเหตุการณ์สะเทือนขวัญปีที่แล้ว

“หมดหวัง ไม่รู้จะอยู่แบบนี้ได้นานแค่ไหน” ทวีกล่าว

“ทุกวันนี้เวลาออกไปหาเพื่อนบ้านก็บอกให้ลืม ผมจะลืมได้อย่างไร ผมคงลืมมันไม่ได้ตลอดชีวิต” เขาบอกกับเอพี

“ลูกคนนี้… ผมลืมไม่ได้”

06 TH-anniversary3.jpg

นายดนัยโชค บุญสม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ ยืนด้านนอกศูนย์เลี้ยงเด็กเล็กอุทัยสวรรค์ วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 (วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช/เบนาร์นิวส์)

ชีวิตเปลี่ยนไป

ในพื้นที่ชุมชนชนบท ห่างจากกรุงเทพไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 500 กิโลเมตร ไม่ไกลจากชายแดนประเทศลาว ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำไร่อ้อย ทำนา และเลี้ยงหลาน ขณะที่ชาวบ้านวัยทำงานไปทำงานในเมืองใหญ่หรือต่างประเทศหาเงินส่งให้ครอบครัว วัดจึงเป็นเหมือนศูนย์กลางทางจิตวิญญาณของคนในชุมชน

แม้กาลเวลาจะผ่านล่วงไป แต่ในทุก ๆ วันพระ ญาติของผู้เสียชีวิตและชาวบ้านจะไปถึงวัดตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อจัดเตรียมอาหารคาวหวานและดอกไม้ถวายแก่คณะสงฆ์ที่วัดราษฎร์สามัคคี ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงจำนวน 19 ศพ แล้วเป็นกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต

จนถึงทุกวันนี้ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กถูกทิ้งร้าง ประตูกระจกทางเข้าที่ถูกเตะจนแตกตั้งแต่วันเกิดเหตุยังไม่มีการซ่อม กล่องนมหลายกล่องมีหลอดเสียบค้างไว้ ขวดน้ำ ตุ๊กตา วางอยู่ด้านนอกของรั้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบอกว่ายังมีคนเอาขนม นม และน้ำดื่ม มาวางให้กับดวงวิญญาณอยู่

ดนัยโชค บุญสม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ กล่าวว่า ศูนย์ฯ แห่งนี้ เป็นสถานที่ราชการคงจะทุบทิ้งไม่ได้ แต่อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป ขณะนี้ทางราชการได้อนุมัติงบประมาณในการสร้างศูนย์ฯ แห่งใหม่เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนทางราชการในการดำเนินการ

พระครูอดิศัย เล่าว่า ท่านรู้จักเด็กทุกคนที่เสียชีวิตไปเพราะเห็นกันมาตั้งแต่แรกเกิด วันนี้วัดเงียบเหงาไปไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่เด็ก ๆ จะพากันมาวิ่งเล่นไล่กันในวัดเวลาครอบครัวพามาทำบุญ บางคนก็วิ่งไปจับไปดึงชายจีวร เวลาเดินบิณฑบาต

“เหตุการณ์วันนั้นอาตมาก็โศกเศร้าเหมือนกัน อาตมาสูญเสียเด็กที่เปรียบเสมือนลูกไปถึง 15 คน” พระครูอดิศัยกล่าว

“ตอนนี้ไม่โกรธแล้ว”

หลังเกิดเหตุการณ์ พระครูอดิศัย ใช้เวลาช่วงบิณฑบาตตอนเช้า และหลังจากเสร็จภารกิจของสงฆ์ แวะเยี่ยมและพูดคุยให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างขององค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์

กำธร ทองโพด อายุ 22 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างขององค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ รอดชีวิตมาได้แม้ว่าจะโดนยิงเข้าที่ท้ายทอยขณะพักรับประทานอาหารกลางวันกับเจ้าหน้าที่กองช่างคนอื่น ๆ อยู่ที่หน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในวันนั้น แต่ต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานสามเดือน ในปัจจุบันยังคงเดินไม่ได้ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง

หลังเหตุกราดยิง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ทำให้กำธรได้รับการดูแลรักษาอย่างดี มีหมอมาตรวจที่บ้านอาทิตย์ละสองครั้ง มีนักกายภาพบำบัด นักจิตวิทยา ข้าราชการระดับสูงทั้งจากจังหวัด อำเภอ และเพื่อนร่วมงานมาเยี่ยมและให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ ทำให้กำธร มีกำลังใจที่ดีในการใช้ชีวิต

กระทั่งวันหนึ่งหลังออกจากห้องผู้ป่วยวิกฤต และได้รับอนุญาตให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน กำธร ได้รู้ว่า ดช. วสันต์ สมใจ หลานชายวัย 5 ขวบ ที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กและขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งที่โรงเรียนในเช้าวันเกิดเหตุ เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต

“ตอนนั้นโกรธ คนไม่รู้จักกันทำไมทำกันขนาดนี้ ตอนนี้ไม่โกรธแล้ว” กำธร ตอบคำถามเป็นคำสั้น ๆ ผสมเสียงลมหายใจผ่านช่องคอที่ถูกเปิดไว้

“พระอาจารย์มาสอนให้ทำใจ แผ่เมตตา ก็ช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง” กำธร ตอบพร้อมยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก