เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไทยจับตาขบวนการลักลอบค้าอาวุธชายแดนไทย-พม่า

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2021.09.21
กรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไทยจับตาขบวนการลักลอบค้าอาวุธชายแดนไทย-พม่า เจ้าหน้าที่ทหารไทยตรวจเช็คคนขับรถบรรทุกวัสดุก่อสร้างขณะผ่านด่านตรวจ บนถนนมุ่งสู่แม่น้ำสาละวิน ที่ชายแดนไทย-เมียนมา ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
เอเอฟพี

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับฝ่ายความมั่นคงในวันอังคารนี้ ให้จับตาขบวนการลักลอบค้าอาวุธสงครามชายแดนไทย-เมียนมา ที่พบว่าเคลื่อนไหวบ่อยครั้งขึ้น ขณะที่ไทยไม่สนับสนุนความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมียนมา

ในวันนี้ พล.ท. คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยข้อสั่งการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำชับให้ฝ่ายความมั่นคงเพิ่มการเฝ้าระวังและติดตามขบวนการลักลอบค้าอาวุธสงครามตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ที่กลับมาเคลื่อนไหวถี่ขึ้น เนื่องจากมีการสู้รบในเมียนมาที่ผ่านมา ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาความรุนแรงที่มากขึ้น หลังสิ้นฤดูฝน

“พล.อ. ประวิตร ย้ำว่าไทยไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงในเมียนมาทุกกรณี พร้อมทั้งขอให้ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดกวดขันการรักษาความปลอดภัยคลังอาวุธ กระสุนและวัตถุระเบิด ในความรับผิดชอบของทุกหน่วยงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้เกิดการสูญหายอย่างเด็ดขาด” พล.ท. คงชีพ อ้างคำกล่าวของ พล.อ.ประวิตร

“สำหรับหน่วยงานที่พบอาวุธปืนสูญหายหรือถูกลักลอบโจรกรรม ให้เร่งสอบสวนขยายผลเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และต้องติดตามนำอาวุธกลับคืนมาโดยเร็ว เพื่อมิให้นำไปสร้างปัญหาความรุนแรงต่อไป” พล.ท. คงชีพ ระบุ

พล.ท. คงชีพ กล่าวต่อว่า รองนายกรัฐมนตรี ย้ำด้วยว่าให้หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงให้ความสำคัญกับงานข่าวเชิงลึกเชื่อมโยงกับทุกบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การจัดหา การเคลื่อนย้ายนำส่งตั้งแต่ต้นทางและปลายทาง รวมถึงเส้นทางการเงินของทั้งขบวนการโดยเฉพาะการจับกุมเครือข่ายขบวนการค้าอาวุธในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ที่ผ่านมา ซึ่งพบความเชื่อมโยงกับบุคคลในหลายวงการ รวมทั้ง มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ให้เร่งสืบสวนขยายผลดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมดไม่มียกเว้น

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดชลบุรี สนธิกำลังค้นบ้านพักและจับกุมตัว นายดนุพล ยมพงษ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ต.แสมสาร ฉายา “เบล 100 กระบอก” ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหนองคาย ในความผิดฐานร่วมกันส่งออกอาวุธปืนผ่านราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต พบอาวุธปืนจำนวน 46 กระบอก เป็นปืนสั้นชนิดออโตเมติก และลูกโม่จำนวน 30 กระบอก และปืนยาว 16 กระบอก

ซึ่งการจับกุมนายดนุพล สืบเนื่องมาจากการขยายผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดีค้าอาวุธปืน ที่จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งให้การรับสารภาพและซัดทอดมายังนายดนุพล

ทั้งนี้ ในการจับกุมผู้ต้องหาในคดีค้าอาวุธปืน ที่จังหวัดหนองคายนั้น เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคายพบ นายธัมนอง ดัดถุยาวัตร ชาวหนองคาย ขับรถบรรทุกพ่วงเข้ามาในพื้นที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เตรียมส่งออกไปฝั่งประเทศลาว บรรทุกปุ๋ยเคมี 300 กระสอบ วางทับซ้อนกับอาวุธปืนยาวยี่ห้อ CZ จำนวน 34 กระบอก ปืนพกสั้นยี่ห้อ WALTHER จำนวน 1 กระบอก ใช้ผ้าใบอำพราง โดยอาวุธปืนที่พบมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1.6 ล้านบาท

การจับกุมทั้งสองคดีนี้ เจ้าหน้าที่แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า จะได้ขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าอาวุธปืนข้ามชาติหรือไม่

สำหรับความเคลื่อนไหวเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองในเมียนมานั้น เมื่อวันที่ 7 กันยายน รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (National Unity Government) ซึ่งรัฐบาลเงาของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลของพลเอก มิน ออง ลาย ได้ประกาศสงครามกับรัฐบาล หลังจากที่ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ศกนี้

นับตั้งแต่การรัฐประหารนั้นมา กองกำลังฝ่ายความมั่นคงของเมียนมาได้สังหารประชาชนไปมากกว่า 1,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สนับสนุนประชาธิปไตย

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง