ไทยหยุดส่งไฟฟ้าสองพื้นที่ในเมียนมาแล้ว
2023.06.06
เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ยุติการขายไฟฟ้าให้กับสองพื้นที่ในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยงของเมียนมาแล้ว เมื่อเวลา 00.05 น. ของวันอังคารนี้ ทำให้กองกำลังกะเหรี่ยงพิทักษ์ชายแดน ขู่ว่าจะปิดชายแดนไทยเพื่อเป็นการตอบโต้
นายสมชาย ไตรทิพย์ชาติสกุล นายอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เปิดเผยกับเบนาร์นิวส์ว่า อำเภอแม่สอดเตรียมพร้อมรับมือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการยุติส่งกระแสไฟฟ้าแล้ว
“มีการตัดไฟฟ้าแล้วเมื่อคืน ตอน 00.05 น. ปัจจุบัน ท่าข้าม หรือสะพานข้าม สถานการณ์ยังปกติอยู่ ยังคงส่งสินค้าข้ามไปมาได้ ทั้งสะพานหนึ่งและสะพานสอง ยังมีการขนสินค้าได้ปกติอยู่ ปัจจุบัน สถานการณ์ยังคงปกติ” นายสมชาย กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายสมชาย ระบุว่า สถานเอกอัครราชทูตเมียนมา มีหนังสือแจ้งมายัง กฟภ. ว่าจะไม่ต่อสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่าง กฟภ. กับ บริษัท เอสเอ็มทีวาย (Shwe Myint Thaung Yinn Industry & Manufacturing Company Limited) ในพื้นที่ท่าวังผา และแม่กุใหม่ท่าซุง อ.แม่สอด ซึ่งเชื่อมต่อกับเมียนมาบริเวณพื้นที่อิทธิพลของกองกำลังกะเหรี่ยงพิทักษ์ชายแดน (Border Guard Forces หรือ บีจีเอฟ) และเป็นที่ตั้งของ คาสิโนในชเวโก๊กโก ซึ่งเชื่อว่าบริหารงานโดยกลุ่มทุนจีนผิดกฎหมาย
เหตุผลเบื้องต้นของการยุติการขายไฟฟ้า สืบเนื่องจากสัญญาซื้อไฟฟ้าดังกล่าวหมดลง ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 แต่ที่ผ่านมารัฐบาลเมียนมาขอให้ กฟภ. มีการผ่อนผัน กระทั่งมีการเปิดเผยว่าจะหยุดส่งไฟฟ้าจริงหลังวันที่ 5 มิถุนายน 2566
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ แหล่งข่าวความมั่นคง (สงวนชื่อและนามสกุล) ระบุว่า พันเอก ซอ ชิต ตู ผู้นำบีจีเอฟ ได้แจ้งมายังฝ่ายความมั่นคงไทยอย่างไม่เป็นทางการว่า หากมีการยุติจ่ายไฟฟ้าไปยังฝั่งเมียนมาจริง บีจีเอฟจะทำการปิดด่านพรมแดนแม่สอด-เมียวดี สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 บ้านริมเมย และสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 หมู่ที่ 7 บ้านวังตะเคียนใต้ อ.แม่สอด เพื่อเป็นการตอบโต้
เรดิโอฟรีเอเชียได้พยายามติดต่อขอความคิดเห็นจาก พันเอก ซอ ชิต ตู ผู้นำบีจีเอฟ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ
ขณะที่ พันเอก ซอ จอว์ ยูน กรรมการคณะกรรมการบริหารกลางและโฆษกของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง/สภาสันติภาพแห่งกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธอีกกลุ่มหนึ่งที่ปฏิบัติการใกล้กับเมืองชเวก๊กโก กล่าวกับเรดิโอเฟรีเอเชียว่า ไม่พร้อมที่จะพูดถึงเรื่องดังกล่าวเพราะไม่มีข้อมูลอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในเมืองชเวโก๊กโก กล่าวกับเรดิโอฟรีเอเชียในบ่ายวันนี้ว่า ไฟฟ้าดับตั้งแต่เมื่อคืนนี้ แต่ไม่รู้ว่าทางการไทยหรือพม่าที่เป็นผู้ตัดไฟ
อย่างไรก็ตาม นายสมชาย ระบุว่า “อำเภอได้มีการประชุมร่วมกันกับหน่วยความมั่นคง และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ถามความคิดเห็น ก็ประเมินเรื่องผลกระทบกัน ทุกหน่วยเห็นว่า ก็สามารถดำเนินการได้แค่เฝ้าระวัง และมีการลาดตระเวนถี่ขึ้น ทั้งเจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน”
ในวันเดียวกันสื่อมวลชนได้ถามความคิดเห็นของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต่อเรื่องที่บีจีเอฟขู่ว่าจะปิดด่านชายแดน ซึ่งนายกรัฐมนตรีตอบว่า “เป็นเรื่องภายในของเมียนมา ไม่มีผลกระทบอะไรกับคนไทย”
ทั้งนี้ เมืองเมียวดี เป็นเมืองขนาดเล็กทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐกะเหรี่ยง เป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก บริษัท ยาไถ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิง กรุ๊ป ที่จดทะเบียนในฮ่องกง ร่วมกับบริษัท ชิด ลิน เมียง (Chit Lin Myaing) ของบีจีเอฟ มีคาสิโนชื่อ “ชเวโก๊กโก” ตั้งอยู่ โดยมีการรายงานว่า ชเวโก๊กโก ถูกใช้เป็นพื้นที่ดำเนินธุรกิจพนันออนไลน์ และอาชญากรรมทางดิจิทัล
การยุติส่งไฟฟ้า เชื่อว่ามีปัจจัยมาจากประเด็นการเมือง เพราะเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 สำนักงานอัยการสูงสุดของไทยได้ออกจดหมายข่าวระบุว่า ศาลอาญามีคำสั่งให้ส่งตัวนายแส จิ้นเจียง เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับตามคำร้องของรัฐบาลจีน เพื่อดำเนินคดีฐานเปิดบ่อนคาสิโนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจีน ซึ่งเชื่อว่า นายแส เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายในคาสิโนชเวโก๊กโก
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น เจ้าของร้านอาหารในอำเภอแม่สอดรายหนึ่ง (สงวนชื่อและนามสกุลเพื่อความปลอดภัย) กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า รู้สึกกังวลเรื่องสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังการยุติจ่ายไฟฟ้า
“นี่มันไม่ใช่เรื่องการเมืองอย่างเดียวแล้ว มันกระทบคนในแม่สอด สะพานมิตรภาพไทยไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์นะ แต่เป็นเส้นชีวิตของเราในการทำธุรกิจ หากกลุ่มกะเหรี่ยงปิดสะพานได้จริง ๆ จะทำให้ทุกอย่างเละหมด โดยเฉพาะการค้าทั้งหมดที่เราพึ่งพา คือไม่ใช่แค่เรื่องไฟฟ้าหรือคาสิโน แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรักษาธุรกิจให้ดำเนินต่อไป” เจ้าของร้านอาหารรายดังกล่าว ระบุ
ด้าน นายซาไล บาวี นักวิชาการรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชี้ว่า ไทยควรเตรียมรับมือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
“การขู่ของกองกำลังกะเหรี่ยงพิทักษ์ชายแดนที่จะปิดสะพานมิตรภาพ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างกันของประเด็นเหล่านี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการค้าและความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอย่างมีนัยสำคัญ และอาจนำไปสู่ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้น ไทยจำเป็นต้องรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางเศรษฐกิจหรือการทูตที่อาจเกิดขึ้น” นายซาไล กล่าวกับเบนาร์นิวส์
ขณะที่ น.ส. พรสุข เกิดสว่าง จากมูลนิธิเพื่อนไร้พรมแดน กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า “เชื่อว่า เขาน่าจะมีแผนสำรองรองรับอยู่ มีเครื่องปั่นไฟ ซึ่งจะสามารถทำให้เขาอยู่ได้ไปสักระยะ แต่ในอนาคต บีจีเอฟ กับรัฐบาลเมียนมาก็คงต้องเจรจากันแล้วมาแจ้งกับไทย เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ไฟฟ้าได้อีก ซึ่งสถานการณ์วุ่นวายอาจจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเจรจากันไม่ได้จริง ๆ ในอนาคต อาจจะมีการปิดด่าน ตามที่เขาขู่”
นับตั้งแต่ประเทศไทยเริ่มการซื้อขายไฟฟ้าเมื่อปี 2559 กฟภ. ในนาม บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับ Shwe Myint Thaung Yinn Industry & Manufacturing Company Limited หรือ บริษัท SMTY จำกัด ได้เซ็นสัญญาร่วมกันขายไฟฟ้าให้ประเทศเมียนมา อย่างน้อย 21 จุด รวมทั้งสิ้น 43,750 กิโลวัตต์
โดยที่จุดท่าวังผา อ.แม่ระมาด จ.ตาก เป็นจุดที่ส่งไฟฟ้าไปชเวโก๊กโก 8,000 กิโลวัตต์ และจากแม่กุใหม่ท่าซุง ใน อ.แม่สอด ไปยังหมู่บ้านเลเกก่อ ทางตอนใต้ของเมียวดี แต่เชื่อว่า ชเวโก๊กโกมีเครื่องปั่นไฟฟ้า 5-10 เครื่องเป็นของตัวเอง
เรดิโอฟรีเอเชีย ภาคเมียนมา ร่วมรายงาน