นักศึกษานอกระบบเมียนมา ต้องเผชิญปัญหาการยอมรับวุฒิการศึกษา
2024.12.12
อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
เหตุการณ์รัฐประหารในเมียนมาเมื่อปี 2564 ทำให้ประชาชนในประเทศเกิดความแตกแยก กองทัพและผู้ต่อต้านเผชิญความขัดแย้งอย่างรุนแรง และสร้างความแตกแยกในสังคมหลายด้าน รวมถึงด้านการศึกษา
นักศึกษาในมหาวิทยาลัย มีบทบาทสำคัญในการต่อต้านการปกครองของผู้นำทหารมาหลายชั่วอายุคน และในปี 2564 กลุ่มคนหนุ่มสาวต่างออกมาชุมนุมตามท้องถนนอีกครั้ง หลังจากที่ทหารโค่นล้มรัฐบาลที่นำโดย นางอองซาน ซูจี
โดยหลังจากที่ทหารปราบปรามการเคลื่อนไหวแบบอารยะขัดขืน กลุ่มเยาวชนจำนวนมากที่ไม่พอใจต่อการยึดอำนาจของทหารต่างปฏิเสธการศึกษาภายใต้การอุปถัมภ์ของกองทัพ และหันไปยังสถาบันอิสระ รวมถึงสถาบันที่ดำเนินการโดยรัฐบาลคู่ขนานในต่างประเทศที่เรียกว่า รัฐบาลคู่ขนานของเมียนมา หรือ NUG (National Unity Government)
รัฐบาลคู่ขนานของเมียนมาให้การสนับสนุนสถาบันอิสระจำนวนมากในเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของคณะรัฐประหาร โดยสอนวิชาต่าง ๆ เช่น การพยาบาลและการแพทย์ การฝึกอบรมครูและเทคโนโลยีให้กับนักเรียนหลายพันคน นอกจากนี้รัฐบาลคู่ขนานของเมียนมายังเปิดสอนหลักสูตรออนไลน์อีกด้วย
นอกจากนี้ องค์กรทางสังคม ซึ่งมักจะเป็นองค์กรที่สนับสนุนประเด็นปัญหาของชนกลุ่มน้อย ได้จัดตั้งวิทยาลัยที่เป็นอิสระจากทั้งคณะรัฐประหารและรัฐบาลคู่ขนานของเมียนมา
แต่สถาบันการศึกษาเอกชนเหล่านี้ไม่ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลทหารเมียนมา และเยาวชนที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันเหล่านี้ ก็ไม่ได้รับใบรับรองคุณวุฒิที่เป็นที่ยอมรับ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาเมื่อพวกเขาจะไปศึกษาต่อในต่างประเทศ อย่างเช่น ประเทศไทย
“เป็นเรื่องยากมากสำหรับพวกเขาที่จะเรียนในประเทศไทย” พันยา มอน อธิการบดีของวิทยาลัยแห่งชาติมอญ (Mon National College) ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมียนมากล่าว โดยอ้างถึงนักศึกษาบางคนที่เคยเรียนในวิทยาลัยที่อยู่ในสังกัดของรัฐบาลคู่ขนานของเมียนมา
“นั่นไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ แต่เป็นเพราะปัญหาจากการเมือง” เขากล่าว
เนื่องจากประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะรักษาความสัมพันธ์กับผู้ปกครองทางทหารของเมียนมา ประเทศไทยจึงไม่ยอมรับรัฐบาลคู่ขนานของเมียนมา และสถาบันการศึกษาของไทยมีหน้าที่ต้องทำงานร่วมกับสถาบันที่ได้รับการรับรองเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงมักจะปฏิเสธที่จะรับรองวุฒิการศึกษาที่ออกโดยวิทยาลัยอิสระของเมียนมา
“รัฐบาลไทยต้องตัดสินใจเลือกที่ยากลำบากมาก แม้ว่าพวกเขาจะอยากยอมรับนักศึกษาเหล่านั้น แต่บางครั้งมันก็ก็เป็นเรื่องการเมืองใช่ไหม หากคุณยอมรับนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาของรัฐบาลคู่ขนานของเมียนมา นั่นหมายความว่าคุณยอมรับรัฐบาลคู่ขนานของเมียนมา” พันยา มอน กล่าว
แต่ความเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้น
มหาวิทยาลัยพายัพของไทยได้ร่วมมือกับวิทยาลัยแห่งชาติมอญ เพื่อเสนอปริญญาตรีร่วมให้กับนักศึกษา ไมเคิล มีลเลม ผู้อำนวยการสำนักงานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยพายัพกล่าว
“สิ่งที่เราทำแตกต่างไปจากมหาวิทยาลัยอื่น ๆ คือตอนนี้รัฐบาลไทยผ่อนปรนมากขึ้นเล็กน้อยในแง่ของการรับรองคุณวุฒิจากการเรียนที่เกิดขึ้นจากสถาบันการศึกษาก่อนหน้าได้” มีลเลมกล่าว
กอง คัน (Kaung Khant) ตัวแทนนักศึกษาจากโรงเรียนแพทย์ในเครือข่ายของรัฐบาลคู่ขนานของเมียนมากล่าวว่าเขารู้จักบุคคลหนึ่งที่ได้รับการตอบรับจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อันทรงเกียรติของประเทศไทยด้วยเอกสารรับรองที่ออกโดยรัฐบาลคู่ขนานของเมียนมา แต่บุคคลดังกล่าวสำเร็จการศึกษาก่อนการรัฐประหาร เขายังไม่ได้รับปริญญาบัตร ดังนั้นเขาจึงต้องพึ่งใบรับรองที่ออกโดยรัฐบาลคู่ขนานของเมียนมาไปก่อน
“เขาอธิบายถึงสถานการณ์ปัจจุบันให้มหาวิทยาลัยทราบว่า เขาเรียนจบอย่างไร ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้รับใบรับรองการสำเร็จการศึกษา แต่เขาก็ได้รับการตอบรับเข้าเรียน” เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม คนอื่นอีกหลายคนยังคงประสบปัญหา
‘ปลอมและผิดกฎหมาย’
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ติดต่อเจ้าหน้าที่เมียนมา เพื่อตรวจสอบวุฒิการศึกษาที่มหาวิทยาลัยในเครือข่ายของรัฐบาลคู่ขนานของเมียนมาออกให้แก่นักศึกษา 2 ราย ที่สมัครเรียนที่นั่น และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทหารได้ทราบถึงการสมัครเรียนของพวกเขา
สำนักงานผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพกล่าวในแถลงการณ์ว่า วุฒิการศึกษาของนักศึกษาเป็นของปลอมและผิดกฎหมาย และใบสมัครของพวกเขาถูกปฏิเสธ
สำนักงานทหารกล่าวว่า นักศึกษา 2 คนนี้ “จะถูกขึ้นบัญชีดำ ระบุตัวตน และจับกุม” และบอกอีกว่า เจ้าหน้าที่รับรองเอกสารและนักแปลที่ช่วยพวกเขาในการสมัครถูกจับกุมแล้ว
รัฐบาลคู่ขนานของเมียนมากล่าวว่า ปริญญาของนักศึกษามีความถูกต้อง และวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทหารที่พยายามขัดขวางการศึกษาของผู้ที่ปฏิเสธการปกครองของรัฐบาลทหาร
“พวกเขาพยายามทำลายอนาคตของคนหนุ่มสาวที่ไร้ทางสู้” จอ ซอ โฆษกสำนักประธานาธิบดี รัฐบาลคู่ขนานของเมียนมากล่าว พร้อมเสริมว่านักศึกษาเหล่านี้สามารถเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยของไทยได้
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่ตอบรับการขอสัมภาษณ์จากเรดิโอฟรีเอเชีย เพื่อขอความเห็น
นักศึกษาชาวเมียนมาที่เรียนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งขอใช้นามแฝงว่า “ลินคอล์น” กล่าวว่า เหตุการณ์นี้อาจทำให้นักศึกษาบางราย จากสถาบันการศึกษาอิสระที่ต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศเกิดความลังเล
“ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยถูกยกระดับขึ้น นักศึกษาจะกังวลเกี่ยวกับการสมัครปริญญาโทหรือปริญญาเอกในต่างประเทศด้วยวิธีนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเหตุการณ์นี้อาจเกิดกับพวกเขาได้เช่นกัน” เขากล่าว พร้อมเสริมว่านักศึกษาควรเตรียมตัวให้พร้อมในการจัดการกระบวนการสมัครอย่างรอบคอบ
“ไม่ใช่ทุกมหาวิทยาลัย ไม่ใช่ทุกประเทศ ที่รับรู้ถึงสถานการณ์ของเรา” ลินคอล์นกล่าว โดยอ้างถึงความวุ่นวายในเมียนมาตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2564
“ดังนั้น ไม่ว่าพวกเขาจะยอมรับใบรับรองการศึกษา หรือเอกสารรับรองผลการเรียนของเราหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี”
เรดิโอฟรีเอเชีย (อาร์เอฟเอ) สำนักข่าวร่วมเครือเบนาร์นิวส์ รายงาน