กองทัพเรือเร่งค้นหา 31 ลูกเรือ จากเหตุเรือหลวงสุโขทัยจม
2022.12.19
กรุงเทพฯ

ผู้บัญชาการ และโฆษกกองทัพเรือ กล่าวในวันจันทร์นี้ว่า กองทัพเรือเร่งค้นหาลูกเรือ 31 นาย ที่ยังสูญหายหลังจากเรือหลวงสุโขทัยอับปางลงก่อนเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้
เรือหลวงสุโขทัย ซึ่งเป็นเรือรบประเภทคอร์เวต ที่มีความยาวกว่า 76 เมตร อับปางลงขณะลาดตระเวนที่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ทะเล ห่างจากอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ ณ เวลาบ่ายวันจันทร์นี้ สามารถช่วยทหารเรือได้แล้ว 75 นายจากทั้งหมด 106 นาย
พล.ร.อ. ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า ในการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลนั้น โดยกำหนดพื้นที่ขนาด 20 คูณ 15 ตารางไมล์ ซึ่งอยู่ทางใต้ห่างจากจุดที่เรือหลวงสุโขทัยจมลงประมาณ 18 ไมล์ทะเล ในช่วงกลางวันใช้อากาศยานของกองทัพเรือ และกองทัพอากาศร่วมค้นหา
“ตอนนี้ ถึงจะมืดแล้วแต่เราก็ต้องค้นหาตลอดทั้งคืน โดยเรามีเรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงกระบุรี ในพื้นที่เร่งทำการค้นหา เราช่วยเหลือได้แล้ว 75 ราย ผู้สูญหายปัจจุบัน ยอดยังนิ่งอยู่ที่ 31 คน” พล.ร.อ. ปกครอง กล่าว
เจ้าหน้าที่ทหารและลูกเรือกู้ภัยรวมตัวกันที่ไซต์ปฏิบัติการชั่วคราวระหว่างการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเรือหลวงสุโขทัย วันที่ 19 ธันวาคม 2565 (เอเอฟพี)
ด้าน พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนหลังลงพื้นที่ในช่วงบ่ายวันจันทร์ว่า กองทัพเรือจะดำเนินการค้นหาผู้สูญหายต่อไป
“เราก็ยังไม่ละความพยายามในการค้นหาบริเวณที่จุดเรือจม ยังไม่มีการพบผู้เสียชีวิตเลยแม้แต่รายเดียว” พล.ร.อ. เชิงชาย กล่าว
พล.ร.อ. เชิงชาย กล่าวอีกว่า ในจำนวนผู้ประสบเหตุเป็นกำลังพลที่นำมาเพิ่มเติม เพื่อการทำภารกิจมาจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานรักษาฝั่ง จำนวนประมาณ 30 คน
“ส่วนนี้ ที่คิดว่าชูชีพไม่เพียงพอเพราะคนเรือทุกคนปกติจะมีชูชีพอยู่แล้ว ต้องตรวจต่อไปว่าทำไมถึงไม่เอาชูชีพมากับเรือด้วยครับ” พล.ร.อ. เชิงชาย กล่าวโดยระบุถึงรายงานข่าวที่ว่า มีกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บระบุว่า มีชูชีพบนเรือไม่เพียงพอ
ขณะที่ จ.ท. ภัทราวุฒิ มาราม ลูกเรือเรือหลวงสุโขทัย ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย กล่าวกับช่อง 3 ว่า ช่วงที่น้ำเข้าเรือจนเรือเอียง คลื่นซัดเรือจนเรือโยนไปมานั้น เรือหลวงกระบุรี พยายามจะเข้าให้การช่วยเหลือแต่ไม่สามารถทำได้ เพราะคลื่นแรงจนเรือกระแทกกัน ต้องรอจนเรือจมจึงจะช่วยเหลือลูกเรือได้สำเร็จ
“ตั้งแต่ออกเรือมาตลอดชีวิตไม่เคยเจอคลื่นลมแรงขนาดนี้ คลื่นมาทีเดียวสูง 4-5 เมตรเลย กระแทกจนไปอยู่ข้างกาบเรือ บางคนโดนกระแทกจนซี่โครงร้าว เรือจะเข้ามาช่วยก็ช่วยไม่ได้ ต้องรอจนเรือจมก่อน ถึงจะช่วยได้” จ.ท. ภัทราวุฒิ กล่าวกับไทยทีวีสีช่อง 3 และระบุว่าตนรับราชการมาสองปี
ในตอนบ่ายวันนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือได้เยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลบางสะพาน มีผู้บาดเจ็บทั้งหมดจำนวน 15 ราย ในจำนวนนี้มีอาการสาหัสอย่างน้อยสามนาย ส่วนหนึ่งได้ส่งต่อทางเฮลิคอปเตอร์ไปที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า และโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สัตหีบ
นายแพทย์วรา เศลวัตนะกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เคสที่บาดเจ็บสาหัสนั้น มีหนึ่งราย กระดูกต้นแขนหัก บางรายมีปัญหาที่กระดูกขาและนิ้วมือ ส่วนลูกเรือที่เหลือรอดูอาการ และคาดว่าจะสามารถเดินทางกลับได้ หากไม่มีอาการแทรกซ้อน
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศในวันจันทร์นี้ว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร จึงได้เตือนเรือใหญ่หลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง จนถึงวันอังคารนี้
เรือคอร์เวตรบได้สามมิติ
เรือหลวงสุโขทัย หมายเลขประจำเรือ FSG-442 เป็นเรือคอร์เวตคู่กับเรือหลวงรัตนโกสินทร์ ที่กองทัพเรือจัดหามาจากสหรัฐอเมริกา ขึ้นประจำการเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2530 สังกัดกองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ เป็น 1 ในเรือ 10 ลำ ของกองเรือปราบเรือดำน้ำ
ภาพถ่ายของเรือหลวงสุโขทัย ที่อับปางลงเพราะคลื่นลมรุนแรงในอ่าวไทยเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2565 (กองทัพเรือ)
เรือหลวงสุโขทัย มีการติดตั้งระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัย สามารถปฏิบัติการรบได้ใน 3 มิติ คือ ป้องกันภัยทางอากาศ สงครามผิวน้ำ และสงครามปราบเรือดำน้ำ มีเขี้ยวเล็บสำคัญ คือ จรวดพื้นสู่พื้นแบบฮาร์พูน ระบบต่อต้านอากาศยานแบบอัลบาทรอส และตอร์ปิโด มาร์ค 46
กองทัพเรือกล่าวว่า ในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เรือหลวงสุโขทัย มีภารกิจลาดตระเวนและมีเป้าหมายจะเดินทางไปยังจังหวัดชุมพร แต่เนื่องจากมีคลื่นลมแรงจึงทำให้เรือเอียงจนมีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ ส่งผลให้เครื่องไฟฟ้าดับแล้วทำให้เครื่องจักรใหญ่และเครื่องจักรช่วยหยุดทำงาน เป็นเหตุต่อเนื่องให้ไม่สามารถควบคุมเรือได้ ส่งผลให้น้ำเข้าภายในตัวเรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนทำให้เรือเอียงและอับปางในที่สุด
ในเวลา 22.00 น. นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด่วนเพื่อหาทางเข้าช่วยเหลือ แต่ในเวลา 23.30 น. กองทัพเรือระบุว่า เรือหลวงสุโขทัยได้จมลงใต้ผิวน้ำ เนื่องจากมีน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก แต่ขณะนั้นยังยืนยันว่ากำลังพลทั้งหมดปลอดภัย ก่อนที่จะมีรายงานว่ายังมึผู้สูญหายในเช้าวันจันทร์นี้
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตว่า พบกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย 10 นาย เสียชีวิต 1 นาย และอยู่ในสภาพอิดโรย 9 นาย ซึ่ง พล.ร.อ. ปกครอง ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
“ทั้ง 10 คน ไม่ใช่ทหารเรือ เป็นลูกเรือของเรือสินค้าชื่ออนุภูมิ ซึ่งอับปางใกล้เคียงกันกับจุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เป็นการนำเสนอข้อมูลที่สับสน ยืนยันว่า 10 คนดังกล่าวไม่ใช่กำลังพลของกองทัพเรือ” พล.ร.อ. ปกครอง กล่าวเพิ่มเติม