แพทองธาร ยืนยันลงนาม ครม. วันนี้
2024.09.03
กรุงเทพฯ
น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จะลงนามเสนอชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ในวันอังคารนี้ ด้าน นพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยืนยัน ยังเปิดเผยรายชื่อ ครม. ไม่ได้จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
น.ส. แพทองธาร ตอบคำถามสื่อมวลชนว่า รายชื่อ ครม. ชุดใหม่ เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยกำหนดจะลงนามรับรองรายชื่อดังกล่าวในวันอังคารนี้
“(วันนี้ลงนามได้เลยใช่ไหม) วางแผนไว้เป็นอย่างงั้น อยากเห็นผลงานจากคนที่เลือกมาจะได้ทำต่อ จริง ๆแล้วส่วนที่เลือก (มาเป็นรัฐมนตรีใหม่) หรือที่ไว้คงเดิมก็ตาม เห็นศักยภาพอยู่แล้ว หลังจากอยู่ในพรรคมาประมาณสามปีก็เห็นแล้วว่า แต่ละคนประมาณไหนยังไง นายกรัฐมนตรีคนนี้มีทีมที่ดีมาก ๆ” น.ส. แพทองธาร กล่าว
เธอยังเปิดเผยอีกว่า “ยังมี (ดิจิทัลวอลเล็ต) แน่นอน แต่ต้องปรับรูปแบบ เรามีการวางแผนที่จะจ่ายเป็นเงินสดด้วย อะไรด้วย ก็ลองดูว่า อะไรที่จะแก้ในรายละเอียด แต่ขอรายละเอียดให้มันชัดเจนกว่านั้น กลัวจะพูดไปเดี๋ยวมันไม่ตรง” น.ส. แพทองธาร กล่าวกับสื่อมวลชน
แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อ ครม. ชุดใหม่อย่างเป็นทางการ แต่สื่อหลายสำนักต่างคาดการณ์หน้าตา ครม. น.ส. แพทองธาร หรืออุ๊งอิ๊งค์ 1 ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งรายชื่อเปลี่ยนแปลงจาก ครม. นายเศรษฐา ทวีสิน ไม่มากนัก ต่างเพียงพรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาร่วมรัฐบาลแทนพลังประชารัฐ
อย่างไรก็ตาม นพ. พรหมินทร์ ยืนยันว่า “เป็นการดำเนินการภายใน ต้องรอให้มีการทูลเกล้าฯ มีพระบรมราชโองการผมถึงมีการเปิดเผยชื่อ กระบวนการก็เร่งดำเนินการอยู่”
สำหรับรายชื่อที่สื่อมวลชนคาดการณ์จะประกอบด้วย เพื่อไทยส่ง นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม และ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง ซึ่งจะทำให้ นายสุทิน คลังแสง พ้นจากตำแหน่ง รมว.กลาโหม
“ยังไม่มีอะไรแน่นอนว่า ผมจะดำรงตำแหน่งอะไร ก็อยู่ที่ท่านนายกฯ จะเป็นคนหยิบ สมมติว่า ถ้าผมเป็นรัฐมนตรีกลาโหมจะทำกองทัพให้เป็นกองทัพที่อยู่กับพี่น้องประชาชนได้ ช่วยเหลือประชาชนในยามทุกข์ยาก ผมเชื่อว่า ความเป็นผมสามารถพูดคุยกับทุกเหล่าทัพได้” นายภูมิธรรม กล่าวในวันอังคาร
ขณะที่ พรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จะเป็น รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน และ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เข้ามาเป็น รมว.อุตสาหกรรม คนใหม่ ขณะที่ภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังคงเป็น รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย แต่จะเสนอให้ น.ส. ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ บุตรสาวของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ทำหน้าที่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยแทนบิดา
“เปลี่ยนเพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย เราให้ความสำคัญเรื่องจริยธรรม เราก็ต้องไม่ให้มีปัญหาใด ๆ เลย ผมต้องขอบคุณคุณชาดามาก ๆ ที่เขาบอกว่า อย่าให้ติดอยู่กับท่าน หัวหน้าจะเอาใครก็ได้ เขา (น.ส. ซาบีดา) ก็ใส ๆ ประกอบธุรกิจมา จบปริญญาโทจากประเทศอังกฤษ ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยคงเท่านี้ คงนิ่ง” นายอนุทิน กล่าว
สำหรับ ครม. ชุดใหม่ เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสำคัญเช่น กระทรวงการคลัง, กระทรวงกลาโหม, กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข จะยังอยู่กับเพื่อไทย ภูมิใจไทยจะยังดูแลกระทรวงมหาดไทย และศึกษาธิการ ขณะที่ กระทรวงพลังงาน และอุตสาหกรรมจะเป็นความรับผิดชอบของรวมไทยสร้างชาติ
ในสัดส่วนของ ประชาธิปัตย์จะเสนอ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน จะเป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง จะเป็น รมช. สาธารณสุข ส่วนตำแหน่งของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว. เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นของพลังประชารัฐจะรับไม้ต่อโดย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม
“อาจารย์แหม่ม (นางนฤมล) เขาเป็นอดีตรัฐมนตรีเขารู้หน้าที่ ผมยืนยันว่า ผมกลับไปทำหน้าที่นิติบัญญัติ แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องการบริหารภายในพรรค(พลังประชารัฐ) ยืนยันว่า ไม่ได้ยุ่ง แต่ผมยืนยันว่าเราสนับสนุนรัฐบาล การโหวตสนับสนุนในเรื่องของงบประมาณ” ร.อ. ธรรมนัส กล่าวที่ทำเนียบรัฐบาล
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 สภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบให้ น.ส. แพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ด้วยคะแนนเห็นชอบถึง 319 เสียง โดยมี สส. พลังประชารัฐ และประชาธิปัตย์ รวมเห็นชอบด้วย
การลงมติเลือกรัฐมนตรีใหม่นั้น เกิดขึ้นหลังจากที่ นายเศรษฐา สิ้นสภาพนายกรัฐมนตรีตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเมื่อสองวันก่อนหน้านั้น จากกรณีการเสนอชื่อนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ต่อประเด็นดังกล่าว นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ยืนยันในวันอังคารนี้ว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตรวจคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ใน ครม. ของ น.ส. แพทองธาร เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้ให้คำมั่นว่า รายชื่อ ครม. นี้จะถูกร้องและเกิดปัญหาภายหลังเช่นเดียวกับ กรณีนายพิชิตหรือไม่
“คณะกรรมการกฤษฎีกามีหน้าที่เพียงให้ความเห็นประกอบการดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี ส่วนอำนาจในการตัดสินวินิจฉัยเป็นของศาลรัฐธรรมนูญ การบริหารราชการแผ่นดิน ยึดความซื่อสัตย์สุจริตในส่วนของเรา คนอื่นจะว่าอย่างไรก็ไม่รู้ แต่ถ้าเราสุจริตจริงก็ไม่มีปัญหา” นายปกรณ์ กล่าว
ครม. สัดส่วนคณิตศาสตร์การเมือง
การประกาศจับมือกันของเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ก็สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนจำนวนหนึ่ง เนื่องจากในอดีต รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เคยสั่งสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงในปี 2553 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 90 คน
และในปี 2556 สส. ประชาธิปัตย์ ยังจัดการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำไปสู่การรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่นำโดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลายเป็นวิกฤตประชาธิปไตยในประเทศไทยตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ต่อรายชื่อ ครม. ชุดใหม่ ผศ.ดร. โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า ครม. ชุดใหม่ดูเหมือนจะมีเสถียรภาพมาก ไม่น่าถูกล้มโดยพรรคฝ่ายค้าน แต่ก็ไม่ใช่การจัด ครม. ที่อิงตามความสามารถมากนัก
“ครม. อุ๊งอิ๊งค์(น.ส. แพทองธาร) มันเป็นการจัด ครม. ด้วยโควตาสัดส่วนคณิตศาสตร์การเมือง แต่ไม่ได้คัดสรรคนที่มีความรู้ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ การจัด ครม. นี้ที่บอกว่าคุณแพทองธารจัดเอง ผมมองว่ามันคือการโกหกสังคม เพราะคนทั้งสังคมก็รู้ว่าคนคัดจริง ๆ คือ คุณทักษิณ ชินวัตร และเป็นการจัดสรรบนเงื่อนไขการไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งเพื่อหวังผลทางการเมืองของเพื่อไทยในอนาคต” ผศ.ดร. โอฬาร กล่าว
ในอดีตรัฐบาลโดยการนำของตระกูลชินวัตรถูกต่อต้าน และถูกทำรัฐประหารมาแล้ว ทั้งการประท้วงขับไล่ นายทักษิณจากกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งนำไปสู่การรัฐประหารในปี 2549 และการชุมนุมขับไล่ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นอาของ น.ส. แพทองธาร โดยกลุ่ม กปปส. ซึ่งการชุมนุมดังกล่าวนำไปสู่การรัฐประหารในปี 2557
นอกจากการรัฐประหารโดยกองทัพแล้ว พรรคไทยรักไทย ปี 2550, พลังประชาชน ปี 2551 และไทยรักษาชาติ ปี 2562 ซึ่งเป็นกลุ่มอุดมการณ์การเมืองเดียวกันกับพรรคเพื่อไทยในปัจจุบันเคยถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรค และส่งผลให้ กรรมการบริหารพรรคต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลาหลายปี ขณะที่ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ยังถูกดำเนินคดีทุจริต จนทำให้ต้องลี้ภัยในต่างประเทศตั้งแต่ปี 2560
“สรุปคือสิ่งที่น่ากลัวคือ เกมใต้ดิน เพราะ พรรคประชาชนล้มรัฐบาลนี้ไม่ได้แน่นอน และทักษิณเองก็สบายใจที่มีพรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้าน แม้มีคะแนนนิยมสูง แต่มั่นใจได้ว่าพรรคประชาชนจะไม่ไปแตะอะไรที่กระทบอำนาจรัฐบาล” ผศ.ดร. โอฬาร ระบุ
จรณ์ ปรีชาวงศ์ ในกรุงเทพฯ ร่วมรายงาน