คปท. ยื่นหนังสือจี้อัยการสูงสุดดำเนินคดี ม. 112 ทักษิณ

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2024.02.16
กรุงเทพฯ
คปท. ยื่นหนังสือจี้อัยการสูงสุดดำเนินคดี ม. 112 ทักษิณ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมด้วยศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม ไปสอบถามความคืบหน้าคดีทักษิณ ชินวัตร ข้อหาตามมาตรา 112 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ อาคาร A วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567
เจมส์ วิลสัน/Thai News Pix/เบนาร์นิวส์

ตัวแทนเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม เข้ายื่นหนังสือในวันศุกร์นี้กระตุ้นให้ สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินคดีอาญามาตรา 112 ต่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำลังจะได้รับการพักโทษจำคุกในสัปดาห์หน้า และเตรียมจะจัดกิจกรรมในวันที่นายทักษิณเดินทางออกจากโรงพยาบาลตำรวจ 

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. ในฐานะตัวแทนกลุ่ม ได้ยื่นหนังสือต่อ นายณรงค์ ศรีระสันต์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อกระตุ้นให้ อสส. แสดงความชัดเจนในแนวทางการดำเนินคดีมาตรา 112 ของนายทักษิณ 

อัยการสูงสุดดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แก่ผู้ต้องขังเด็ดขาด ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 แล้วนั้น การดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องขังที่ต้องขังภายใต้การควบคุมตัวของกรมราชทัณฑ์นายพิชิต กล่าว

ถึงแม้ไม่ได้อยู่ในเรือนจำตามที่ผู้ต้องขังผู้อื่นต้องอยู่นั้น จำเป็นต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย หลังจากผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้นได้พ้นโทษหรือการพักโทษชั่วคราว เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไปนายพิชิต กล่าวเพิ่มเติม

ด้าน นายณรงค์ กล่าวหลังรับหนังสือว่า “คดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้บริหารเป็นคดีนอกราชอาณาจักร จึงต้องให้อัยการสูงสุดเป็นผู้สั่งคดี และจะนำเรียนต่ออัยการสูงสุดในวันนี้ ซึ่งถ้ามีคำสั่งจะแถลงให้ทราบ” 

241216-th-thaksin-royal-defamation1.jpg

เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมด้วยศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม ไปสอบถามความคืบหน้าคดี ทักษิณ ชินวัตร ข้อหาตามมาตรา 112 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ อาคาร A วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 (เจมส์ วิลสัน/Thai News Pix/เบนาร์นิวส์)

การเรียกร้องครั้งนี้ เนื่องมาจาก คณะอนุกรรมการพักโทษได้อนุมัติให้ผู้ต้องขัง 930 คนได้พักโทษตาม พ.ร.บ. ราชทัณฑ์มาตรา 52 โดยผู้ต้องขังต้องรับโทษมาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน หรือรับโทษมา 1 ใน 3 อันใดอันหนึ่ง และต้องมีโทษจำคุกเหลือไม่เกิน 10 ปี ซึ่งนายทักษิณเป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าเกณฑ์ โดยสื่อมวลชนหลายสำนักเชื่อว่า นายทักษิณ จะได้รับการปล่อยตัว 18 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ หลังจากถูกคุมตัวตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2566 ด้วยโทษจำคุก 1 ปีจากคดีที่เกี่ยวข้อง 3 คดี

ก่อนหน้านี้ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 อสส. ระบุว่า อัยการได้ตอบรับคำขออายัดตัวนายทักษิณ เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 เพื่อดำเนินคดีตามความผิด ม. 112 หากพ้นโทษจำคุก อย่างไรก็ตาม ทนายความของนายทักษิณได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ อสส. เพื่อให้ปล่อยตัวนายทักษิณชั่วคราว ระหว่างการต่อสู้คดี เนื่องจากที่ผ่านมา นายทักษิณยังไม่มีโอกาสรวบรวมหลักฐานสำหรับคดีเพราะอยู่ในต่างประเทศ

หนังสือที่ คปท. คปปส. และกองทัพธรรม ยื่นต่อ อสส. มีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ โดยสรุปคือ 1. อสส. พิจารณาว่าการขอความเป็นธรรมของนายทักษิณเหมาะสมหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาได้พยายามหลบหนีคดีมาตลอด 2. อสส. ต้องเปิดเผยขั้นตอนการดำเนินการต่อนายทักษิณหลังพักโทษ และเคร่งครัดในกระบวนการตามกฎหมาย และ 3. อสส. ควรเปิดเผยต่อสาธารณชนว่าได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อหน้านายทักษิณหรือไม่

สำหรับคดีที่นายทักษิณ ถูกแจ้งข้อหาใน ม. 112 สืบเนื่องจากนายทักษิณได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่างประเทศ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2558 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ พาดพิงถึงสถาบันกษัตริย์ ซึ่งทำให้วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 อสส. รับฟ้องคดีของนายทักษิณ ในข้อหาฝ่าฝืน ม. 112 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ

หากหลังวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ยังไม่ได้รับความชัดเจนในเรื่องนี้ เราจะกลับมาทวงถามอีกครั้ง วันที่นายทักษิณจะได้รับการพักโทษนั้น เราจะมีการทำกิจกรรม ต้อนรับที่หน้าโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงนายพิชิต กล่าว

นายทักษิณ ถูกทำรัฐประหาร ขณะเป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนกันยายน ปี 2549 และตัดสินใจลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ ก่อนจะกลับมาในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2551 แล้วตัดสินใจลี้ภัยอีกครั้งในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ระหว่างที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กำลังพิจารณาคดีทุจริตการซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก ซึ่งนายทักษิณเป็นจำเลย

หลังจากลี้ภัยในต่างประเทศหลายปี วันที่ 22 สิงหาคม 2566 นายทักษิณได้เดินทางกลับมายังประเทศไทย และเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ทำให้นายทักษิณถูกตัดสินจำคุก 8 ปี จาก 3 คดี ซึ่งเกิดขึ้นขณะที่นายทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ต่อมานายทักษิณได้รับพระราชทานอภัยโทษเหลือจำคุก 1 ปี

กรมราชทัณฑ์พักโทษให้กับนายทักษิณ จึงถูกวิจารณ์จากสังคมอย่างหนัก เนื่องจากนายทักษิณไม่เคยนอนในเรือนจำ เพราะถูกพาตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่คืนแรกของการเป็นนักโทษ “นายทักษิณมีอาการนอนไม่หลับ แน่นหน้าอก วัดความดันโลหิตสูง ระดับออกซิเจนปลายนิ้วต่ำกรมราชทัณฑ์ระบุ นับตั้งแต่นั้นมานายทักษิณ ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเสียงวิจารณ์และมีการตั้งคำถามถึงอาการป่วย

ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า หลังจากที่นายทักษิณได้รับการพักโทษจะไม่มีความวุ่นวาย และจะไม่กระทบต่อการบริหารประเทศของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

นายกฯ มีกฎหมายเป็นเครื่องมือในการทำงานอยู่แล้ว ท่านใช้สิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ทำงาน ซึ่งท่านทำเต็มที่อยู่แล้ว ส่วนกรณีที่นายกฯ ทักษิณได้รับการพักโทษจะส่งผลให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี ขึ้นอยู่กับนายกฯ ท่านบอกว่าไม่ปรับนายสมศักดิ์ กล่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง