ตร. บุกค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก คุมลูกน้องสอบสวนอ้างเอี่ยวเว็บพนัน

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในซอยวิภาวดี 60 ในตอนเช้าของวันจันทร์ โดยอ้างว่าต้องการค้นหาหลักฐานความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายพนันออนไลน์ และคุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับได้หนึ่งนาย ส่วนตำรวจที่เหลือตามหมายจับอีก 7 นาย โดนรวบตัวในที่อื่นแล้วเช่นกัน

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ซึ่งได้ออกมาเจรจากับทีมตรวจค้นที่สนับสนุนโดยคอมมานโดพร้อมอาวุธสงคราม เชื่อว่าการบุกค้นเป็นเรื่องการเมืองในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และยืนยันว่าตนเองไม่เคยเกี่ยวข้องกับการพนัน

“วันนี้มันก็ต้องรับแรงกระแทกในแบบนี้ มันเป็นการเมืองภายใน ตร. ท่านเชื่อไหมว่า วันนี้จะค้นบ้าน รอง ผบ. ได้โดยไม่มีความผิด ตั้งนานทำไมไม่เกิด ทำไมมันมาเกิดช่วงนี้ การค้นบ้านผมก็เพื่อให้ผมเสียเครดิต” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าว และระบุว่าสาเหตุนอกจากนั้น อาจจะมาจากการที่ตนทำคดีหลายคดี เช่น คดีกำนันนกยิงนายตำรวจทางหลวง และคดีผู้บังคับการตำรวจจังหวัดชลบุรีเรียกรับเงิน 140 ล้าน ในเดือนมิถุนายน ทำให้กระทบกระทั่งเจ้าหน้าที่หลายส่วน

“ในหมายค้นนั้นไม่มีชื่อของผม การขอหมายค้นเป็นการขอโดยไปหลอกศาลโดยไม่สุจริต การขอหมายค้นในครั้งนี้เป็นการขอเพียงแค่บ้านเลขที่เท่าไหร่ แต่ไม่ได้บอกศาลว่าเป็นบ้านผม ทั้งที่ตำรวจทั้งหมดรู้ว่าคือบ้านผม เมื่อเช้าค้นก็ไม่มีสิ่งผิดกฎหมายอะไรทั้งสิ้น การจะค้นบ้านนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มันต้องมีพยานหลักฐาน มันต้องมีเส้นเงิน วันนี้ มันไม่มีเส้นเงินไปถึงผมสักเส้น” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติม

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ระบุว่า ตำรวจที่ถูกควบคุมตัวในบ้านพักของตนเองหนึ่งนายนั้นเป็นตำรวจชั้นประทวนที่ช่วยทำงานให้ตน

ด้าน พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) ในฐานะหัวหน้าชุดจับกุม ชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า การบุกค้นครั้งนี้ เป็นการดำเนินคดีตามเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายพนันออนไลน์

“ชุดสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับอย่างน้อย 2 คน ไปพักอาศัยหรือไปทำกิจกรรมที่บ้านหลังดังกล่าว โดยชุดสืบสวนไม่ทราบมาก่อนนะครับว่าจะมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงไปพักอาศัยที่นั่นหลังการตรวจค้น ก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 1 คน” พล.ต.ท. ไตรรงค์ กล่าวเพิ่มเติม

ตามข้อมูลของ พล.ต.ท. ไตรรงค์ ระบุว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายพนันออนไลน์ betfixroyal.com และเว็บพนันอื่น ๆ โดยเมื่อปลายเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2566 สามารถควบคุมตัวนายพงษ์ศิริ ฐานราชวงศ์ศึก หรือบอสตาล อดีตประธานสโมสรฟุตบอลลำพูน วอริเออร์ โดยเจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่ามีเงินหมุนเวียนในขบวนการกว่า 1 พันล้านบาท

“เป็นการสืบสวนขยายผลจากเมื่อประมาณปลายเดือนกรกฎาคม ชุด PCT ตำรวจได้มีการจับกุมผู้ต้องหาคดีการพนันออนไลน์ และฟอกเงิน เว็บไซต์ betfix และเครือข่ายอีก 2 เว็บ โดยผู้ต้องหาตอนนั้นเราจับได้ 3 คน จากข้อมูลที่ได้หลังการจับกุม เป็นข้อมูลทางเทคนิควิทยาศาสตร์ และธนาคาร ได้ออกหมายจับเพิ่ม 23 คน รวมเป็น 26 คน ในนั้นเป็นข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา 8 คน” พล.ต.ท. ไตรรงค์ กล่าวในวันจันทร์นี้

เศรษฐา ดำริตั้งคณะกรรมการที่ไม่ใช่ตำรวจ

ประเด็นดังกล่าว เริ่มขึ้นในเวลาประมาณ 06.00 น . เมื่อ พล.ต.ต. อำนาจ ไตรพจน์ รองผบช.สอท. และ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพักในซอยวิภาวดี 60 ซึ่งอยู่ด้านหลังสโมสรตำรวจ ซึ่งเป็นที่พักของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ซึ่งในตอนแรก พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ไม่อนุญาตให้ตรวจค้นโดยยืนยันว่าต้องมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้าตรวจค้น

ต่อมา พล.ต.ท. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้เดินทางมาถึงในเวลา 08.30 น. พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ จึงได้อนุญาตให้ตรวจค้นโดยห้ามไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปด้วย โดยบ้านที่ตรวจค้นเป็นลักษณะทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น 5 คูหา เจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจค้นประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ชุดตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย โดย พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ระบุว่าบ้านทั้งหมดทะเบียนบ้านเป็นชื่อญาติของตนเอง ซึ่งตนอาศัยอยู่กับบิดา และลูกน้องคนสนิท

หลังเกิดเหตุ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ตนได้พูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า ทาง สตช. กำลังดำเนินงานสืบสวนสอบสวนอยู่เรื่องที่เกิดขึ้น

“ผมว่าปัญหามันใหญ่มาก มีดำริไว้ว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการที่มีคนที่ไม่ใช่ข้าราชการตำรวจ ต้องขอดูข้อมูลอีกทีนึง ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย” นายเศรษฐากล่าว

หลังปฏิบัติการดังกล่าว ทำให้มีการวิพากษ์-วิจารณ์ว่าการตรวจค้นครั้งนี้น่าจะเป็นเรื่องการเมืองใน สตช. เนื่องจากในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ผบ.ตร. จะเกษียณ และมีการโยกย้ายตำแหน่ง ซึ่ง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ มีโอกาสที่จะได้เลื่อนชั้นขึ้นเป็น ผบ.ตร. คนใหม่

ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ก็เป็นผู้ทำคดีสำคัญที่ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น คดีคนร้ายยิง พ.ต.ต. ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์เสียชีวิต ที่บ้านของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ซึ่งในขณะเกิดเหตุมีตำรวจร่วมอยู่ด้วยกว่า 20 นาย ซึ่ง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ได้ตำหนิตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างรุนแรง หรือคดีเกี่ยวกับการที่เครือข่ายพนันออนไลน์ร้องทุกข์ว่า พล.ต.ต. กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการภูธรจังหวัดชลบุรี เรียกรับเงิน 140 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี เมื่อเดือนมิถุนายน 2566

“กรณีการบุกค้นบ้านบิ๊กโจ๊กของตำรวจไซเบอร์ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความคลุมเครือของกฎหมายและการใช้อำนาจของตำรวจไทย การโผล่มาของหมายค้นที่อ้างเรื่อง พ.ร.บ.การพนัน มันสร้างความสับสนกับสังคมอย่างมาก โดยเฉพาะคนวงนอก แต่ดูก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องการเมืองในวงการตำรวจที่ใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือ” วรชาติ อาวิพันธ์ นักวิชาการ สถาบันศาสนา วัฒนธรรม และสันติภาพ มหาวิทยาลัยพายัพ กล่าวกับเบนาร์นิวส์

“เรื่องนี้ควรมีการตรวจสอบการใช้อำนาจของตำรวจอย่างเข้มงวดครับ และปรับปรุงกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ตำรวจไทยสามารถใช้อำนาจได้อย่างเหมาะสม และที่สำคัญคือต้องตรวจสอบได้ ไม่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง”

คุณวุฒิ บุญฤกษ์ ในเชียงใหม่ และวิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช ในกรุงเทพฯ  ร่วมรายงาน