ครม. เศรษฐาประชุมนัดแรก เล็งลดค่าไฟฟ้า-ค่าน้ำมัน
2023.09.13
กรุงเทพฯ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรกในวันพุธนี้ โดยหารือเรื่องการตั้งคณะกรรมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พักหนี้เกษตรกรและบริษัทขนาดเล็ก ลดค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมันดีเซล รวมถึงจะดำเนินการวีซ่าฟรีให้กับชาวจีนและคาซัคสถานเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว
นายเศรษฐา แถลงข่าวในเวลาเที่ยงวัน หลังการประชุม ครม. ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาลว่า มีนโยบายที่จะสั่งให้ดำเนินการทันทีหลายเรื่อง
“เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นต่าง ในเรื่องรัฐธรรมนูญปี 2560 เห็นชอบให้คุณภูมิธรรม เวชยชัย ท่านรองนายก คนที่ 1 เป็นผู้รับผิดชอบแต่งตั้ง คณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ โดยยึดเอาแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญเป็นสำคัญ และใช้เวทีรัฐสภาในการหารือรูปแบบแนวทาง ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และประชามติ เพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนร่วมออกแบบกฎกติกาที่เป็นประชาธิปไตยร่วมกัน” นายเศรษฐา กล่าว
“วีซ่าฟรี ชั่วคราว การยกเลิกการขอเดินทางเข้ามาในประเทศไทยของประเทศจีน และคาซัคสถาน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน เป็นต้นไป ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ปีหน้า"
"การพักหนี้เกษตรกร ก็มีการตกลงกันว่าจะมีการพักหนี้เกษตรกร และธุรกิจขนาดเล็กเป็นเวลา 3 ปี ลดค่าไฟฟ้าเป็น 4.10 ต่อกิโลวัตต์ ต่อชั่วโมง จาก 4.45 เริ่มในรอบบิลเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป ลดราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายสูงสำหรับค่าขนส่งให้ต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร เข้าใจว่าจะเริ่มต้นได้ในวันที่ 20 กันยายน” นายเศรษฐา กล่าวเพิ่มเติม
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่มีการแก้ไขหมวดที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ และสั่งการให้ทุกกระทรวงทบทวนคำสั่ง ครม. และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในอดีต
“ถ้าไม่มีการทักท้วงภายในวันที่ 9 ตุลาคม 2566 จะยกเลิกคำสั่งในอดีตทั้งหมด นายกรัฐมนตรีขอให้ยึดหลักกฎหมายไม่เขียน ถือว่าทำได้ เป็นหลักการ เพื่อส่งเสริมเสรีภาพ ประชาธิปไตย และอำนวยความสะดวกประชาชน” นายชัย กล่าว
“เพื่อให้ปัญหาผู้มีอิทธิพล อาวุธปืน ยาเสพติด และการซื้อขายตำแหน่งหมดไปอย่างเด็ดขาด มอบหมายให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการจัดตั้งทีมทำงาน และกำหนดเวลาการนำเสนอโดยเร็วที่สุด โดยผู้ครอบครองอาวุธปืนและอาวุธอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ให้นำมามอบแก่ทางราชการที่สถานีตำรวจที่มีภูมิลำเนา ภายใน 30 วัน และหากอาวุธปืนมีทะเบียนถูกต้อง หากจำเป็นต้องพกพา ให้ดำเนินการขออนุญาตพกพาภายใน 30 วัน ตั้งแต่บัดนี้ไป” นายชัย กล่าวเพิ่มเติม
นายเศรษฐา ได้รับความเห็นชอบจาก สมาชิกรัฐสภาให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 กระทั่งทูลเกล้าฯ รายชื่อ ครม. ในวันที่ 1 กันยายน และนายเศรษฐา ได้แถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 11-12 กันยายน 2566 ซึ่งถือว่า เป็นการมีอำนาจบริหารอย่างสมบูรณ์ของ ครม. ชุดใหม่
นโยบายเร่งด่วน 5 ประเด็นของ ครม. เศรษฐา 1 ประกอบด้วย 1. การเติมเงิน 10,000 บาทผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 2. การแก้ปัญหาหนี้สินภาคการเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน 3. การลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชน 4. การผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยว และ 5. การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อย่างไรก็ตาม ส.ส. ฝ่ายค้านมองว่า นโยบายโดยรวมของ ครม. ชุดนี้ไม่มีความชัดเจนเพียงพอ
“การแถลงนี้ ยังเป็นการแถลงที่ปราศจากความทะเยอทะยานที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงใด ๆ หลับตาข้างหนึ่งแล้วก้าวข้ามความขัดแย้งเหมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งความขัดแย้งทางการเมือง สามจังหวัดชายแดนใต้ การลดความเหลื่อมล้ำ ไม่กล้าแตะเรื่องยากที่ต้องแก้ปัญหาที่ต้นตอ ทั้งที่ตอนหาเสียงท่านกล้าหาญกว่านี้มาก” น.ส. ศิริกัญญา ตันสกุล สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล อภิปรายในรัฐสภา
ด้าน ดร. เอียชา การ์ตี นักวิจัยนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ว่า ผลการประชุม ครม. ครั้งแรกเป็นไปตามคาดคือ พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจจุลภาคเป็นอันดับแรก แต่อาจยังไม่ส่งผลกับครัวเรือน หรือธุรกิจขนาดเล็กมากนัก
“การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องดูกันในระยะยาว เพราะการตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษา ยังไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจน ซึ่งอาจจะเป็นปัญหา และต้องดูว่าจะมีการรับฟังเสียงจากประชาชนมากน้อยแค่ไหน และด้วยวิธีการอะไร”
“นโยบายพักหนี้จะเป็นประโยชน์มาก ๆ กับเกษตรกร เพราะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือนในช่วงหนึ่ง ส่วนธุรกิจขนาดเล็ก ก็จะมีโอกาสในการฟื้นฟู และปรับปรุงธุรกิจตัวเอง มองในระยะยาวก็ยังสอดคล้องกับเงินดิจิทัลวอลเลต ถ้าธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้าไปอยู่ในระบบนี้ได้ คิดว่านี่คือ เรื่องที่จะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจมากที่สุด และมากกว่าการลดราคาค่าไฟและน้ำมันดีเซล” ดร. เอียชา กล่าวกับเบนาร์นิวส์
คุณวุฒิ บุญฤกษ์ ในเชียงใหม่ ร่วมรายงาน