ประยุทธ์วางแผนยุบสภามีนาคม ยันเลือกตั้งตามแผน

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันอังคารนี้ว่า ตนเตรียมประกาศยุบสภาภายในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อให้ผู้ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีเวลาเตรียมตัวเลือกตั้งได้ทันการเลือกตั้งใหญ่ในเดือนพฤษภาคมนี้

ในวันนี้ เรื่องนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ได้หารือกับทางนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายถึงเรื่องไทม์ไลน์การเลือกตั้งและอำนาจหน้าที่ที่พึงทำได้ระหว่างการรักษาการ หลังประกาศยุบสภา

“ผมได้แจ้งที่ประชุมไปแล้วว่ากำหนดการในเรื่องของการยุบสภา ก็เป็นภายในเดือนมีนาคม ส่วนกำหนดการเลือกตั้งในปัจจุบันก็กำหนดไว้ตามที่ กกต. ได้ประกาศไว้ คือวันที่ 7 พฤษภาคม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี

“ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ให้กรอบระยะเวลานี้ดำเนินการต่อไป ให้เกิดความเรียบร้อยให้มากที่สุด เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ระหว่างนี้ก็ขอร้องให้รัฐมนตรี และ ส.ส. ช่วยกัน หากว่ามีความเป็นไปได้ก็ขอให้ช่วยกันพิจารณากฎหมายที่ยังค้างอยู่ เป็นกฎหมายสำคัญ กฎหมายที่เสนอไปเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การปฏิรูปต่าง ๆ” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 7 เดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่ง พล.อ. ประยุทธ์ ระบุว่า กกต. ต้องออกกฎหมายและเตรียมการต่าง ๆ เพื่อรองรับการจัดการเลือกตั้ง

นักวิเคราะห์มองว่า การเลือกตั้งคราวนี้จะเป็นการแข่งขันระหว่างสายทหารเดิมที่ชูความจงรักภักดีในสถาบันพระกษัตริย์ กับฝ่ายประชาธิปไตยที่ชูธงคนรุ่นใหม่อย่าง “อุ๊งอิ๊ง” ลูกสาวของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกโค่นในการรัฐประหารในปี 2549 ซึ่งที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยใน วัย 36 ปี เรียกร้องให้ประชาชนเลือกฝ่ายตนเพื่อให้ได้คะแนนเสียงมากกว่า 376 เสียง เพื่อให้เพียงพอต่อการเอาชนะเสียงวุฒิสมาชิกที่บางส่วนประกาศว่า จะไม่เลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคตน

สายทหารเดิม นำโดย พล.อ. ประยุทธ์ ซึ่งแม้ว่าจะต้องระเห็จออกจากพรรคพลังประชารัฐที่มี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้า ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติก็ตาม แต่สายสัมพันธ์ของสองพี่น้อง 3 ป. นั้นยังไม่ได้ขาดสะบั้นจากกัน ผู้สันทัดกรณีกล่าว

ซูเปอร์โพล : คะแนนนิยมประยุทธ์ตีตื้น

แม้ว่าผลการสำรวจความคิดเห็นของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า - NIDA) ในเดือนธันวาคม 2565 จะปรากฏว่า น.ส. แพทองธาร พรรคเพื่อไทย ได้รับความนิยมอันดับ 1 ในฐานะผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยสัดส่วน 34 เปอร์เซ็นต์ ทิ้งห่าง พล.อ. ประยุทธ์ ตัวแทนจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งตามมาเป็นอันดับ 2 ที่ได้รับเพียง 14 เปอร์เซ็นต์ แต่ผลการสำรวจของซูเปอร์โพล กลับพบว่า พล.อ. ประยุทธ์ มีคะแนนตามมาอย่างกระชั้นชิด โดยแพทองธาร มีคะแนนนิยม 28.5 เปอร์เซ็นต์ ส่วน พล.อ. ประยุทธ์ มีคะแนนนิยม 25.7 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ 21.2 เปอร์เซ็นต์ ทิ้งอันดับสี่ คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ 14.4 เปอร์เซ็นต์ ส่วน “ลุงป้อม” พล.อ. ประวิตร นั้นได้คะแนนนิยมเป็นอันดับหก ได้เพียง 2.7 เปอร์เซ็นต์

ซูเปอร์โพล ซึ่งเป็นสำนักวิจัยอิสระ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวในระหว่าง วันที่ 17 ถึง 18 กุมภาพันธ์ โดยมีผู้ตอบแบบสอบถาม 1,571 ตัวอย่าง

ทั้งนี้ในการสำรวจได้ถามความคิดเห็นถึงการอภิปรายรัฐบาลโดยไม่ลงคะแนนว่า พล.อ. ประยุทธ์ สามารถตอบคำถามได้ดีในเรื่องของการที่มีนายทุนทำธุรกิจสีเทาชาวจีน เช่น ตู้ห่าว ได้รับสัญชาติไทยในยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ผู้ตอบแบบสอบถาม 55.6 เปอร์เซ็นต์ ชอบใจวลีเด็ดของ พล.อ. ประยุทธ์ ที่ว่า ตนไม่มีนโยบายขายบ้านแถมสัญชาติ ในขณะที่มีรายงานข่าวว่านายทุนจีนสีเทาหลายรายซื้อหมู่บ้านเครือบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มีนางสาวยิ่งลักษณ์เกี่ยวข้อง

ซูเปอร์โพล ระบุว่า คะแนนนิยมที่ตีตื้นขึ้นมานั้นเป็นผลพวงจากการอภิปรายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

“ถ้าวิเคราะห์เจาะลึกสถานการณ์เลือกตั้งครั้งนี้ จะพบว่า กำลังเกิดกระแสจะ “เอาทักษิณ” หรือ ไม่เอาทักษิณ หากเป็นเช่นนี้จริง ข้อมูลที่ค้นพบครั้งนี้จึงสะท้อนภาพได้ว่า โอกาส แลนด์สไลด์ไม่น่าจะเกิดขึ้น” ซูเปอร์โพลระบุ